ขอร้องเถอะอย่าให้เด็กเล็กๆดูทีวีเลย


พบเด็กหลายคนมีปัญหาสมาธิสั้นจากการดูทีวี

   การพูดคุย และสังเกตพฤติกรรมเด็กๆระหว่างให้เล่นเกม ทำกิจกรรมจะเจอพฤติกรรมที่บ่งบอกว่า   พ่อแม่ผู้ปกครองต้องปล่อยให้ดูทีวีประจำแน่เลย   แล้วพอถามก็จริงอย่างที่คิดไว้  ก็เช่นเหตุการณ์หนึ่งที่เราเจอ คือ เด็ก 3 ขวบ 2 คน เราให้ระบายสีภาพคนละ 1 ภาพ คนที่หนึ่งรับใบงานไปแล้วก็ระบายเงียบๆ จนเสร็จแล้วจึงเริ่มพูดคุย

แต่อีกคนตรงกันข้ามระหว่างทำกิจกรรมจะนั่งไม่นิ่ง พูดถามโน่น ถามนี่ตลอดเวลา ถ้าดูผิวเผินก็เหมือนเด็กช่างซักช่างถามตามปกติ  แต่ความจริงคือเด็กสมาธิสั้น ไม่มีสมาธิควบคุมการระบายสีภาพได้ จะต้องคอยดึงสมาธิกลับมาที่ภาพใบงานที่เราให้ทำตลอดเวลา แล้วพอเราสั่งให้หยุดถาม ให้ทำใบงานนี่ให้เสร็จก่อนแล้วจึงพูดได้ เด็กก็หยุดและหันกลับมาทำงานจนเสร็จ

    พอถามคุณยายผู้เลี้ยงบอกว่า...ก็ดูทีวีประจำ ก็เห็นหลานชอบ ชอบดูการ์ตูน ดูพวกแปลงร่าง แล้วไปโรงเรียนคุณครูก็เปิดให้ดูทั้งวัน เพราะจะให้เด็กติดโรงเรียน  ....

    งานนี้จะช่วยกันแก้ปัญหาอย่างไรดี ...เพราะคุณยายก็เห็นแล้วว่าหลานกำลังมีปัญหาจริง   จะไปแก้โรงเรียนก็ไม่ได้  ก็ต้องวางแผนกันแก้ที่บ้าน ว่างดดูทีวีเลย แล้วเวลาเล่นให้เล่นของเล่นทีละชิ้น แล้วให้เล่นหรือทำให้สำเร็จก่อน จึงค่อยคุย แล้วเปลี่ยนไปเล่นของเล่นชิ้นอื่นต่อไป เพื่อเป็นการฝึกความรับผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ  ไม่ทำแล้วทิ้งไปเรื่อยๆ สุดท้ายไม่เสร็จซักอย่าง แล้วลองไปสังเกตว่าหลานจะทำอะไรได้นิ่งๆ แล้วนานที่สุด หากิจกรรมแบบนั้นให้ทำบ่อยๆ เช่น การระบายสี การปั้นดินน้ำมัน  หรือการเล่านิทาน

    ก็ดีว่าคุณยายท่านนี้มองเห็นและคิดแก้ไข   แต่มีบางครั้งที่คุณยายเล่าให้ฟังว่าเด็กๆ แถวบ้านนั่งดูทีวีกันทั้งวันเลย แถมความเชื่อคุณพ่อบางบ้านเจออีกว่าไม่ให้ดูทีวี ก็ได้แต่ให้ลูกร้องเพลงคาราโอเกะแบบมีภาพหน้าจอดูไปกันทั้งวันเหมือนกัน....ก็เลยฝากบอกว่า  "ขอเถอะว่าถ้าให้ฟังเพลง ร้องเพลงก็เป็นเพลงที่ไม่มีภาพแล้วสอนลูกด้วยหนังสือนิทานแทนนิทานจาก computer นะคะ" 

     เพราะนอกจากทีวีจะทำให้สมาธิสั้นแล้ว ทีวีในเด็กวัยกำลังหัดพูดยังทำให้เด็กพูดช้า บางครั้งเด็กก็สร้างภาษาประหลาดขึ้นมาเองอีกต่างหาก   แต่คนละประเด็นกับการที่ลูกพูดภาษาต่างด้าวตามพี่เลี้ยงนะคะ ...

หมายเลขบันทึก: 482513เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2012 20:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 16:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

 

 

ขอร้องเถอะอย่าให้เด็กเล็กๆดูทีวีเลย...เห็นอย่างยิ่งนะคะ....รับแต่สื่อทางเดียว...รับแต่ึความรุนแรง..อิจฉา..ตบตี + เมียน้อย+เมียหลวง+ลักขโมย...ฯลฯ...

 

ขอบคุณค่ะคุณ Somsri ที่แวะมาทักทาย และให้ความคิดเห็นดีๆไว้ด้วยค่ะ ก็พยายามแก้ในกลุ่มที่เจอกัน แล้วอาศํยกำลังบอกต่อล่ะคะ ไม่รู้จะสู้กับสื่อทีวี สื่อคอมพิวเตอร์ที่มาทำร้ายเด็กไหวมั้ย ช่วยกันนะคะ

การเลี้ยงลูกด้วยโทรทัศน์  น่าเป็นห่วงมากครับ พัฒนาการหลายๆอย่างของเด็ก จะหายไปจากการดูโทรทัศน์มากๆ

ตายายหลายท่านยังชอบที่หลานดูทีวีแล้วอยู่นิ่ง ทำให้ผู้ใหญ่มีเวลาทิ้งหลานไปทำงานได้บ้าง  วันนี้ก็ยังเจออยู่ แต่เมื่อเทียบให้ดูกับเด็กที่ไม่ได้ดูทีวี คุณยายจะเห็นความแตกต่างของสมาธิเด็กแค่วัยเพียง ขวบครึ่งได้ว่าความสนใจในการเล่นเกมต่อบล็อคต่างกัน  คุณยายเลยรู้แล้วว่าทีวีสร้างปัญหาให้หลานจริงๆ ต้องรีบแก้ไขค่ะ

น้องกบจ๊ะ .... จะพาลูกไปสอบพรุ่งนี้ ยังมีเวลามาเขียน blog อีก สุดยอดคุณแม่ทำงาน

สื่อทีวีไทย ไร้สาระ เน้นแต่พาณิชย์ เอาแต่เงิน จนลืมทุกสิ่งอย่าง จนขาดจรรยาบรรณ

ผู้ดูแลบนหอคอยงาช้าง ก็ช่างเพิกเฉย เกาะเก้าอี้แน่น แต่ไม่ทำงาน ละอายใจยิ่งนัก

ตัวใครตัวมันกัน สงสารก็แต่ ปชช. รากหญ้า ถูกบังคับดูฟรีทีวี ไม่ต่างจากเสพ ผงชูรส

  • คุณ Poo ค่ะ อย่างเราๆก็คงได้เต็มที่ในส่วนของการพยายามปรับความเชื่อของปชช. แล้วถ้าไม่เชื่อเรา ก็คงต้องสุดแต่เวรและกรรมแล้วล่ะ เพราะหลายคนชอบลืมว่า สิ่งสำคัญในชีวิตเด็ก 1-3 ปีแรกคือผู้เลี้ยงดูที่สร้างพื้นฐานสำคัญให้กับเด็ก แต่กับไปมองว่าการจ้างคนเลี้ยงแล้วเท่ห์ดี คุยโอ้อวดกันประมาณว่าลูกชั้น Hiso มีตังส์จ้างคนเลี้ยง ที่ไหนได้ไม่รู้ว่าทำไมลูกนิสัยเหมือนพม่าไปซะแล้ว  เฮ้อ!!!
  • สื่อหลายอย่างแกก็จ้องจะทำเงินอย่างเดียว ไม่นึกว่ากำลังครอบงำความคิด หรือมอมเมาอะไรทั้งนั้น
  • นี่ล่ะคืออิสระในเมืองไทย

แล้ววีดีโอที่เป็นเพลงการ์ตูนภาษาสามารถดูได้ไหมคะ เพราะเปิด saseme street ให้น้องดูตลอด บ้างครั้งก็เป็นคลิปสอนภาษาอังกฤษ หรือภาษามือบ้าง   แบบนี้จะทำให้น้องสมาธิสั้นไหมคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท