เด็กวัด..ตอน 3 (ปีนหอลึกลับ…สยองขวัญ)


สำหรับตอนนี้เป็นประสบการณ์สยองเล็กๆที่อยากจับนกพิราบที่แอบออกลูกออกหลานบนฝ้าหอเก็บของหรือหอไตรที่วัดดอนดำรงธรรมมาเล่น แต่ได้ของแถมเป็นกระดูกมนุษย์

เด็กวัด5

ผมเขียนเรื่องบันทึกเรื่อง เด็กวัดตอนนี้เป็นตอนที่ 3 แล้วสำหรับตอนแรกเล่าถึงสาเหตุที่มาอยู่วัด ตอน 2 เล่าเรื่องผีๆ(ตายทั้งกลม) สำหรับตอนนี้เป็นประสบการณ์สยองเล็กๆที่อยากจับนกพิราบที่แอบออกลูกออกหลานบนฝ้าหอเก็บของหรือหอไตรที่วัดดอนดำรงธรรมมาเล่น แต่ได้ของแถมเป็นกระดูกมนุษย์…มาให้ดูต่างหน้าบรือๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ที่วัดดอนฯแห่งนี้ สถานที่โดยรวมเป็นวัดบ้านนอกอย่างที่เล่าไว้เมื่อตอนที่แล้ว หอฉันของพระจะอยู่ติดกับหอไตร ที่เจ้าอาวาสใช้เก็บของจิปาถะซึ่งล้วนมีไว้ให้ญาติโยมยืมไปประกอบพิธีการทางศาสนาต่างๆ เช่น บาตร จีวร ปิ่นโต ถ้วยชาม ไห เสื่อแม้แต่กระโถนก็มีให้ยืมครับ โดยหอไตรหรือเด็กวัดอย่างพวกผมจะตั้งฉายาว่า “หอลึกลับ”เพราะมืดและอับ มีค้างคาวอาศัยอยู่เต็ม เหม็นขี่ค้างคาวและแมลงสาบมากถึงมากที่สุด ชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บสิ่งของที่ใช้ประกอบพิธีการต่างๆ มีบันไดวนเดินขึ้นสู่ชั้น 2 …แต่มักไม่มีใครกล้าขึ้นไปถึงสักคนเพราะมืดและวังเวง น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ชั้นบนจึงมีแต่ฝุ่นจับเกรอะกรัง ผมเดินผ่านครั้งใดจะใส่เกียร์หมาให้ผ่านหอลึกลับนี้ให้เร็วถึงเร็วที่สุดทุกครั้ง เนื่องเพราะกุฎิหลวงน้าที่ผมอยู่หากเดินมากุฎิเจ้าอาวาสต้องผ่านหอลึกลับนี้ทุกครั้งไป กลางคืนจึงมักไม่มีผู้ใดใช้ส้นทางนี้เป็นที่สัญจรยกเว้นเจ้าอาวาส…ทุกวัดตามบ้านนอกหลังคาโบสถ์หรืออุโบสถจะเป็นรังรักและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนกพิราบหลากหลายพันธ์ สีสันสวยงาม ผมคนหนึ่งที่ชอบและอยากได้นกพิราบมาเลี้ยงแอบย่องๆไล่จับตามประสาเด็กแต่ก็พลาดทุกครั้งเพราะนกพวกนี้มีสัญชาตญาณไวและบินหนีทุกครั้ง….วันหนึ่งผมตื่นแต่เช้าตั้งอกตั้งใจว่า เป็นไงเป็นกันวันนี้จะจับนกพิราบมาเลี้ยงให้ได้ รวมรวมสมาชิกแก็งเด็กวัดได้สองสามคน ปรึกษากันหลังหอระฆังจุดนัดพบ แล้วที่ประชุมที่มีผมเป็นหัวโจก(ทั้งๆที่ตัวเล็กและอายุน้อยสุด)ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าวันนี้ เราจะปีนหอไตรหรือหอลึกลับเพื่อจับลูกอ่อนนกพิราบมาเชยชมสมฤทัยให้จงได้…..แม้จะถูกที่ประชุมทัดทานว่านกพิราบมันอยู่ใต้ฝ้า จับยากและที่สำคัญต้องขึ้นหอลึกลับที่ไม่มีใครหาญกล้าย่ำกรายเข้าไปแม้แต่คนเดียว(ยกเว้นเจ้าอาวาส) ผมอาสาขึ้นไปเอง เจ้าเพื่อนรักอีกสองหน่อกอดคอกันถอยกรูด บุ้ยโบ้ยบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ มึงต้นคิด มึงขึ้นไปเอง กูรอข้างล่างดูลาดเลาให้จะดูดีกว่า…..นิมนต์มึงคนเดียวเลย…กูหยองว่ะ” เป็นไงเป็นกันผมถ้าได้เริ่มแล้วใจมันมุ่งมั่น ลุยอย่างเดียว ผมรอจนใกล้เที่ยงพระฉันข้าวเสร็จ กลางวันแสกๆกลัวอะไรวะ(ผมคิดในใจ) และก้าวเดินเข้าหอลึกลับอย่างสงบนิ่ง….?

เด็กวัด6

ระหว่างทางผมต้องเดินหลบสิ่งของระเกะระกะที่ญาติโยมนำมาคืนวัดแล้วจัดวางยังไม่เข้าที่เข้าทาง โดยมีจีวรเก่าห่มคลุมกันฝุ่นไว้อีกชั้นหนึ่ง ตารบัตร ย่ามพระวางกองไว้เป็นภูเขาเลากา ปิ่นโตใหม่วางเรียงราย เมื่อก้าวขึ้นบันไดสู่ชั้นสองที่เงียบสงัดจริงๆ ได้ยินแว่วเสียงคูดคลาดดังมาจากข้างบน ใจคอเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่เมื่อหันกลับไปมองชั้นล่าง ยังเห็นเจ้าเพื่อนยากสองตัวเพ่งมองมาที่ผมเหมือนคอยสังเกตดูว่าผมจะใส่ตีนหมาวิ่งป่าราบเมื่อใด เห็นเช่นนั้นทำให้ผมต้องวางฟอร์มมากขึ้นเดินดุ่ยๆชึ้นไปชั้นบนอย่างไม่สะทกสะท้าน……เมื่อถึงชั้นบนเห็นได้ชัดว่าคงไม่มีใครขึ้นมาบนนี้นานมากแล้ว เพราะฝุ่นจับที่พื้นหนาเตอะ…รอบๆห้องเต็มไปด้วยโกฎใส่กระดูกของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งมีห่อผ้าขาวที่ผมไม่รู้ว่าหอเก็บอะไรไว้กองอยู่เต็มไม่ป็นระเบียบเรียบร้อย ธูปเทียนหักตกเกลื่อนพื้น ขี้นกพิราบเต็มไปหมดรวมทั้งแจมด้วยกลิ่นสาปขี้ค้างคาวตลบอบอวลไปหมด…แหม องค์ประกอบครบ แถมวังเวงอีกต่างหาก เงียบ ได้ยินเสียงคลืดคลาดเบาๆอยู่ตลอดเวลา ผมหันไปหันมาใจคอดูจะสั่นไหวตลอดเวลา ยกมือพนมขอสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ดลบันดานให้เจอนกพิราบด้วยเถอะ และหากต้องเจอผี ก็ขอเชิญผีท่านไปหลอกหลอนเพื่อนผมสองตัวที่รอข้างล่างไปพลางๆก่อน เพราะตอนนี้ผมไม่ว่างจริงๆ….บรือๆๆๆๆๆๆ อธิฐานไม่ทันขาดคำ เสียงโครม….ดังสนั่นผมหันไปตามเสียงนั้น ปรากฏว่าฝ้าทั้งแผงหักโครมลงมา ไข่นกพิราบ ลูกอ่อน หล่นมาหลายตัว ผมวิ่งเข้าใส่ โอ ฟ้าประทานแท้ๆ ผมจับลูกนกรวมกันหลายตัวหาอะไรใส่ไม่ได้ หันไปหยิบห่อผ้าขาวใกล้มือ ห่อรวมกับลูกนกได้สองตัวกอดไว้แนบอก เสียงเพื่อนผมที่ดูต้นทางข้างล่างตะโกนสวนมา “ เฮ้ย….หลวงตามาโว้ย….”ผมหอบกองผ้าขาวออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ลงบันไดทีละ 3 ขั้นรวด มืดก็มืด ผมวิ่งๆๆๆๆๆโดยไม่รู้ว่าเจ้าสองตัวมันก็วิ่งไล่ตามผมมาหรือเปล่า…แต่ผมรู้สึกว่ามีอะไรไล่หลังผมติดๆ ผมยิ่งวิ่งใส่เกียร์หมาแบบจัดเต็มไปเลย จนมาถึงโบสถ์ โดดเผ่นไปนั่งข้างพระประธาน ที่ว่าเหมือนมีอะไรไล่หลังผมนั้นที่แท้เพื่อนตัวแสบผมสองตัวมันดันนึกว่าผมเจอผีบนหอลึกลับเข้าแล้วเลยหลับหู หลับตาวิ่งตามมา จนทันกัน…..ผมกอดลูกนกพิราบในห่อผ้าขาวไว้แน่น นึกได้รีบปล่อยลงเพราะเดี๋ยวมันจะตายเสียก่อน…พอปล่อยผ้าขาว หล่นตุ๊บ…ท่านผู้อ่านครับ….วงแตกวิ่งกันไปคนละทิศละทางเพราะ ห่อผ้าขาวไม่ได้มีแค่ลูกนกพิราบดอกครับ….แต่มีหัวกะโหลกมนุษย์เลี่ยมฟันทองติดมาทั้งหัวเลยครับ…..บ้านใครบ้านมัน……นะครับโยม

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกเด็กวัด
หมายเลขบันทึก: 483909เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2012 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 10:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท