เด็กวัด....ตอน 5(ขาใหญ่ประจำวัด)


จริงเเล้วผมเขียนบันทึกเรื่องเด็กวัดมาหลายตอนเเล้วครับ ท่านอาจหาอ่านย้อนหลังได้นะครับ บันทึกวันนี้ผมจึงขอหยิบประเด็นเรื่องขาใหญ่ประจำของวัดมาเล่าสู่กันฟัง และขาใหญ่คนนี้มีส่วนทำให้ผมเป็นตัวเป็นตนได้เพราะเหตุฉะนี้เเล

เด็กวัด8

Web Web ผมไม่ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับตัวเองสมัยเป็นเด็กวัดที่เมืองชลบ้านเกิดมานานหลายเดือนพอสมควร เนื่องจากเวลามีค่อนข้างจำกัดครับ วันนี้ผมขับรถมาทำงานตอนเช้าให้ฉุกคิดถึงอดีตเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาอีกเพราะเห็นเด็กน้อยเดินตามหลวงตา บิณฑบาตรตอนเช้าใกล้กับที่ผมจอดรถอยู่ ทำให้ลิ้นชักความทรงจำของผมเริ่มทำงานอีกครั้ง จริงเเล้วผมเขียนบันทึกเรื่องเด็กวัดมาหลายตอนเเล้วครับ ท่านอาจหาอ่านย้อนหลังได้นะครับ บันทึกวันนี้ผมจึงขอหยิบประเด็นเรื่องขาใหญ่ประจำของวัดมาเล่าสู่กันฟัง และขาใหญ่คนนี้มีส่วนทำให้ผมเป็นตัวเป็นตนได้เพราะเหตุฉะนี้เเล กว่าสี่สิบปีที่ผ่าน ผมเป็นเด็กวัดที่อายุน้อยที่สุด ตัวเล็กที่สุด เชื่อฟังคนง่ายที่สุด(เพราะกลัวพวกที่โตกว่ารังเเก) มาอยู่วัดกับหลวงอาครั้งเเรกๆ ทำอะไรไม่เป็น ไม่รู้กฎระเบียบอะไรเลย ดังนั้นเดือนเเรกที่เข้ามาอาศัยชายคาของกุฎิหลวงอา ผมจึงโดนตีก้นเป็นประจำ เพราะไม่รู้กฎระเบียบของวัด ผู้ควบคุมกฎระเบียบสมัยนั้นคือ หัวหน้าเด็กวัด(ขออภัยจำชื่อหมอนั่นไม่ได้เเล้ว) โดยมีหลวงพี่ประสงค์เป็นผู้ควบคุมหรือเป็นประธานเด็กวัดอีกชั้นหนึ่ง หัวหน้าเด็กวัดนี่ผมคาดคะเนเอาเองว่า การเข้าสู่ตำแหน่งนี้ต้องมีคุณลักษณะดังนี้ครับ

เด็กวัด9

1. อาวุโส คือ อยู่วัดมานานกว่าคนอื่น 2. ตัวใหญ่ไว้ก่อน เพราะมันจะขู่พวกผมตัวเล็กเป็นประจำ(เท่ห์ตายละ) 3. ใจนักเลง ไม่กลัวคน เพราะต้องควบคุมดูเเลเหล่าเด็กวัดทั้งหมดเเทนหลวงพี่ประสงค์ ผมเกลียดที่สุดคือเจ้าหัวหน้าเด็กวัดนี่เเหละ เพราะชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ ข่มขู่ผมเป็นประจำ การดำเนินชีวิตในวัดเจ้านี่เเหละครับที่คอยจับผิด หรือชอบเเอบจดชื่อคนที่ทำผิดกฎระเบียบเเล้วไปฟ้องหลวงพี่ประสงค์ ดังนั้นจึงเป้นอภิสิทธิ์ชนที่ทุกคนต้องเอาใจ เป้นราชาเลยครับ......ผมเอาใจไม่เป็นจึงถูกเเกล้งเป็นประจำ ขนมที่เหลือจากพระหรือผลไม้ราคาแพงจึงมักไม่ตกถึงมือผมครับ เพราะขาใหญ่กวาดเรียบ เหตุการณ์ที่ทำให้สถานการณ์ความเป็นอยู่ของผมกระเตื้องขึ้นเปลี่ยนจากคนถูกรังเเกเป็นคนที่หลายคนเกรงใจ คือ คืนหนึ่งเวลากว่าสามทุ่ม ปกติผมจะนอนหลับไปแล้ว เเต่คืนนั้นรู้สึกหิวน้ำจึงลุกออกจากใต้เตียงของหลวงอา(ผมอาศัยนอนใต้เตียงทุกคืนเพราะตัวเล็กครานเข้าไปนอนได้ครับ)หลวงอายังไม่กลับกุฎิ เมื่อโผล่พ้นเตียง ผมได้กลิ่นเครื่องปรุงมาม่าโชยมาเตะจมูกอย่างจัง นั่นเเล้วมีคนต้มมาม่ากินเเหงเลย ผมคิดในใจ ใจนึงก็อยากกินน้ำเเล้วไปนอนต่อ ใจนึงหิวมาม่าขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่รู้เวทมนต์อะไรผมเดินเบาๆตามกลิ่นมาม่าต้มร้อนๆไป จนถึงกุฎิร้าง คือเป็นห้องที่ไม่มีพระหรือเณรพักจำวัดอยู่ โชคของผมครับ ประตูห้องกุฎิเปิดเเง้มไว้เล็กน้อย มีเเสงเทียนรำไรๆ พอเห็นผู้คนที่นั่งล้อมวงกันตะคุ่มๆ นั่นไงครับนั่งเด่นเป็นสง่าคว้าเส้นมาม่าใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆๆ ไม่สนใจใคร คือ เจ้าหัวหน้าเด็กวัดขาใหญ่นั่นเอง ไม่เเปลกนะครับที่เด็กวัดจะต้มมาม่ากินตอนสามทุ่มหากไม่มีเณรน้อยอีก 3 รูปนั่งซัดมาม่าอยู่ข้างๆขาใหญ่ ผมตัวเล็กอยู่เเล้วย่องเบาๆเข้าไปใกล้ๆ ดันเหยียบกระดานหน้ากุฎิที่ไม่ได้ตอกตะปู ไม้กระดานกระดกพลั๊วะ....หน้าผมทิ่มพรวดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในวงพอดีครับ.......ทั้งวงเเตกกระเจิงเณรวิ่งจีวรปลิว ขาใหญโดดหน้าต่างหายไปในความมืด คงเหลือผมคนเดียวที่นั่งงงๆอยู่หน้าชามบะหมี่ที่เหลือเส้นพอนับได้ เช้ารุ่งขึ้น ผมเป้นดาราครับ คือ โดนตีหน้าหอฉัน ที่นับได้ทั้งหมด หกที โดยหลวงพี่ประสงค์ โทษฐานเเอบต้มมาม่ากินยามวิกาลเเละทำลายข้าวของของวัดเสียหาย ผมยิ้มรับด้วยความภาคภูมิใจโดยไม่โยนความผิดให้ใคร(เพราะขาใหญ่มันจ้องหน้าผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ตรงหน้า) จากเหตุการณ์วันนั้นสัมพันธภาพระหว่างผมกับขาใหญ่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผมไปทางไหนจะมีขาใหญ่เจ้าเก่าคอยคุ้มครองตลอด....กลายเป็นเด็กเส้นไปโดยปริยายไม่รู้เพราะอะไรครับ 555555

เด็กวัด10

(ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตครับ)

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกเด็กวัด
หมายเลขบันทึก: 483912เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2012 13:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 13:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท