ร่างพระราชบัญญัตินี้เป็นหนึ่งในร่างพระราชบัญญัติที่ผู้เขียนได้เป็นผู้เสนอหลักการและเหตุผล และยกร่างพระราชบัญญัติไว้เมื่อครั้งที่ผู้เขียนปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจเรียกคืนสินค้าที่อาจเป็นอันตรายออกจากตลาด เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายกลางว่าด้วยเรื่องนี้ ซึ่งได้แล้วเสร็จเสนอคณะรัฐมนตรีแล้วหลายสมัยกว่าจะผ่านการพิจารณาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลานานมาก นี่คือปัญหาของกระบวนการนิติบัญญัติไทย และได้มีโอกาสเข้าร่วมสังเกตุการณ์ในการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ สส. ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมาธิการ สส.ได้พิจารณาเสร็จแล้วเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕
ประเด็นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ
(เดิมที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ) พ.ศ. .... โดยแก้ไขเพิ่มเติม หมวด ๔ ว่าด้วยบทกำหนดโทษแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษตามร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๑ โดยแก้ไขเพิ่มเติมโทษให้สูงขึ้นเพื่อเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ประกอบธุกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกรงกลัวความผิด) ซึ่งที่ประชุมฯ ได้พิจารณา และมีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมเพียงร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๑ โดยไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๔ เรื่องบทกำหนดโทษ แต่อย่างใด เพราะจะเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกินหลักการของสภาฯ (แต่ให้เป็นข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการไว้) และที่ประชุมฯ ได้ปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำเล็กน้อยเพื่อมิให้ใช้ภาษาฟุ่มเฟือย
คลิ๊กดูร่างพระราชบัญญัติได้ที่ http://www.gotoknow.org/media/files/803765
สำนักงานกิจการยุติธรรม (วริตฐภรณ์: บันทึก)
ไม่มีความเห็น