เคยมีคนกล่าวว่า สิ่งที่ตาเราเห็นนั้นอาจไม่ใช่
และหลายคนมักพูดว่าเหรียญมี 2 ด้านนะ และใช้เป็นคำเตือนสติคนที่คุ้นเคย
บางคนกล่าวคำหรู ฟังเพราะหูว่ามันเป็นภาพลวงตา
เอ๊ะ! ใครจะมาหลวกลวงได้แม้กระทั่งลูกตาตัวเอง
ฉันคิดว่ามันเป็นสัมผัสที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งภายนอกคือกาย
และจิตทีส่งความคิดออกมาจากภายใน โดยมีประสบการณ์เดิม
ความรู้เดิมเป็นเครื่องชูรสของความคิด
จึงมักพบบ่อยมากว่าความคิดที่ผ่านการปรุงแต่งนั้นมีทั้งสร้างสรรค์
และทำให้เกิดความรู้สึกติดลบขึ้นในใจ
หากความคิดเป็นได้ทั้งบวกและลบ ทำไมเราจึงไม่เลือกที่จะคิดบวก?
อะไรคือตัวทำลาสยความคิดบวก
และเมื่อความคิดบวกเกิดขึ้นแล้ว เหตุไฉนจึงกลับไปลบได้
ความรักเป็นความคิดบวก
แต่ผลของความรักก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทั้งทางบวก และทางลบ
งั้นเราจะเลือกรักแบบไหนดี
อิอิ...มีคนข้างๆกระซิบบอกว่า รักตัวเองซิ
หากเธอรักตัวเธอเองได้ และรับรู้ทุกขณะอริยบทว่า
เธอกำลังอยู่กับความรัก เธอจะมีโอกาสรับรู้และสัมผัสรสแห่งความสุขนั้น
ฉันถามว่าความรู้สึกในความรักของเขาคืออะไร เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบๆว่า ความสุขสงบที่แอบอยู่ในใจ บางคนความรักอาจซ่อนเร้น ลึกลับจนเจ้าตัวไม่เคยเจอหน้าความรักสักครั้ง หากได้ฝึกปฏิบัติระลึกรู้ลมหายใจจนเกิดความสงบขึ้นในใจแล้ว ความรักจะค่อยๆเผยตัวออกมา ให้เธอได้สัมผัส และเมื่อนั้นจงเปิดประตูใจพิจารณาความรักด้วยความระลึกรู้และประคองมันไว้ และอีกไม่นานเมื่อเธอได้ฝึกปฏิบัติบ่อยๆเธอจะรู้เองว่า ชีวิตไม่ได้อยู่แค่ความตองการขั้นพื้นฐานนี้ หากชีวิตยังประกอบได้ด้วยจิตใจ และสามารถสร้างจุดพลังความรักให้บังเกิดเป็นความสวยงาม อบอุ่น มีไมตรีจิต มีกรุณา เมตตา มุทิตาอุเบกขาให้ได้สัมผัสตัวจริงๆ มิใช่เพียงอยู่ในตำรา"
บางครั้งเราอาจมีความต้องการภายนอกมากเกินไป มากจนเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อย่างกรณีเพื่อนผู้ป่วยรายหนึ่งมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดไปหมด เธอเดินเข้ามาหาเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่เธอมั่นใจว่ามันคือทุกข์ของเธอ เราหามุมสงบๆในรพ.ที่ค่อนข้างหายากมาก แต่เมื่อตั้งใจหาจริงๆก็มีหลายมุมนะ โดยเฉพาะมุมลานดนตรี มุมใต้ต้นโพธิ์ มุมกาแฟ สุดท้ายก็เลือกมุมทั่งรอพบจิตแพทย์ที่ขั้นล่างตึก 38 ปี อิอิ และแล้วการถ่ายโอนความทุกข์ก็พรั่งพรูออกมาไม่ต่างอะไรกับน้ำที่ถูกกักขังไว้นานแรมปี มันทะลักออกมาจนฉันเริ่มรู้สึกว่า ฉํนกำลังจะเป็นกระโถน และกำลังจะล้นออกมาแล้ว ฉันจึงพยายามตั้งใจฟังเพื่อจับประเด็นหลักเท่านั้น
กระโถนของฉันจึงไม่ล้น และไม่หกเลอะเทอะ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือเข้าไปอยู่ในใจเธอ และตามเสียงร่ำไห้ของเธอไปอย่างเข้าใจ ฟังเฉยๆไม่ตัดสินใจ แต่จิตกลับรู้สึกว่าน้ำกำลังเอ่อล้นเบ้าตา ฉัน นี่มันเรื่องของเขานะ ฉันนึกตำหนิใจตนเอง เออ มันเรื่องของเธอ แต่ฉันฟัง และเริ่มเข้าใจเธอมากขึ้น
บางครั้งเราอาจต้องใช้ความรู้เดิม ประสบการณ์การทำงาน และสิ่งที่เรารู้จักเธอมาช่วยตัดสินความคิดและทำความเข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ วันเวลาที่ผ่านมามิใช่เครื่องยืนยันว่า ความสำเร็จในชีวิตนั้นต้องขึ้นกับเวลาเสมอไป
แต่เวลาเป็นเครื่องกำหนดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นมันใช้เวลาไปมากน้อยแค่ไหน และเราได้ใช้เวลานั้นจัดการกับความคิด ความปรารถนาของตนเองอย่างไร
หากพิจารณาแล้วจึงพบว่าความว้าวุ่นที่เกิดขึ้นในจิตใจคนเรานั้นเกิดที่ใจ และความต้องการคือเหตุของความว้าวุ่นใจ จนส่งผลออกมานอกจิตก็คือทางกายนั่นเอง ถึงจุดนี้ก็นึกถึงนักจิตวิทยาเจ้าของทฤษฏีที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์อย่างเราๆ หรือ Maslow’s Hierarchical Theory of Motivation ซึ่งมีผู้รู้แปลไว้ให้แล้วว่า The Need –Hierarchy Conception of Human Motivation หรือทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เมื่อความต้องการในแต่ละระดับสูงจนลืมถึงความพอดี
มันเกิดอาการล้น และล้มไม่เป็นล้มไม่เป็นคือไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น
กลายเป็นปัญหาตามมา
ล้มไม่เป็น.......แม้ยามเจ็บป่วยก็ไม่ยอมรับตนเอง
เพราะยึดติดจึงไม่ต่างอะไรกับตอไม้ผุๆ
ไม้ผุๆที่ถูกกระแสลมพัดจนโอนเอน จนหักกร๊อบลงทั้งที่ไม่อยากหัก
เป็นความทุกข์ระทมฝังอยู่ในอก ไม่กล้าแม้จะเอ่ยว่ามันทุกข์อย่างไร
ทุกข์วันละกี่ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหาร หรือมีก่อนนอนด้วย
เป็นทุกข์วันละ 4 มื้อ
4 เวลาหนักๆเข้าเวลาแห่งความทุกข์จึงคลาดเคลื่อน
จากมื้อเช้าเลื่อนไปเป็นระหว่างมื้อเช้าเที่ยง เช่นนี้ จนเลื่อนเวลาหมดทุกมื้อ
จิตจะทานทนไหวไหม
และฉันรับรู้ถึงกายถ่ายโอนความรู้สึกที่หนัก ออกมาพร้อมๆกับลมหายใจของเธอ และกำลังเกิดปฏิกริยาต่อต้าน.....เปลี่ยนแปลงจากสัมผัสที่เปลี่ยนไปจากสัมผัสแรกพบ มันซ่อนอยู่ในความคิดของเธอ
ฉันตอบรับเธอด้วยการกอดกลับและบอกเธอว่าความรักที่โหยหานั้นมันมีอยู่ในใจเธอนานแล้ว ขอเพียงเธอเปิดประตูหัวใจ และระลึกรู้ลมหายใจด้วยความเพียร ไม่นาน เธอจะพบว่าความรักที่แท้จริงนั้น...คือความรักในตัวเอง และเมื่อเธอมีความรักแล้ว ทุกข์นั้นจะค่อยๆจากไปและความกรุณาจะกลับมา ส่งความรักนี้ต่อไปยังคนรอบข้าง ฉันขอเป็นกำลังใจให้ เธอยิ้มรับก่อนเดินไปพบจิตแพทย์ และพูดว่า "หนูจะมาหาพี่อีกนะ"
เธอเข้าห้องพบจิตแพทย์แล้ว ฉันยืนรอเอากายพิงเสาอาคารเงียบๆ ความทะเยอทะยาน ความโลภ ความต้องการนี่มันแรงจังเลย มันทำให้เกิดกิเลศ
เมื่อได้คืบ จะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา นี่เป็นกลวิธีรุกคืบของกิเลศ หากเราไม่รู้ประมาณความพอดี ไม่ตรวจวัดความต้องการคือพิจารณาบ้างแล้ว มันรุกคืบจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
ขอบคุณความรัก
...ขอบคุณกับ..ความรัก..ก้นบึ้งในใจ..เจ้าค่ะ..และข้อเขียนดีๆ...(ยายธี)
อยากรู้ว่า ผลของความรัก ระหว่างบวกกับลบ อย่างไหนเป็นผลมากกว่ากัน เพราะทุกวันนี้เห็นมีแต่คนมาบ่นให้ฟังเยอะมาก จะย้อนถามคนเหล่านั้น มันก็เกรงใจ.....อิอิ
"...หากเราไม่รู้ประมาณความพอดี
...ไม่ตรวจวัดความต้องการคือพิจารณาบ้างแล้ว...
...มัน...รุกคืบจริงๆ!"
พี่ครูต้อย บรรยายซะ เห็นภาพชัด
ตามอ่านแต่ละบรรทัดอย่่างจดจ่อ
แบบผ่อนคลายไปด้วย ดีจังเลยค่ะ
ขอบพระคุณมากนะคะสำหรับบันทึกแห่งรักที่แบ่งปันนี้
***... ขอขอบคุณสำหรับสาระดีๆ
ที่เตือนสติ-ให้ข้อคิดทึ่ควรตระหนัก...นะคะ! ...***
พี่ต้อยค่ะ
ชื่อบันทึก หวาน หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า เลยค่ะ
วันนี้พี่ไปไร่จอมบึงมาค่ะ
เก็บมะม่วงเพลิน และสนุกเพราะเก็บแข่งกับเมฆฝนที่กำลังจะตก
สุขใจที่ วันนี้ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ อิอิ
และ ต้นไม้จะได้รับสารอาหารและน้ำอย่างธรรมชาติ และเป็นธรรมชาติ
จึงรู้สึกอิ่มใจ และเย็นสบาย ขอส่งความรู้สึกดีที่เกิดขึ้น
มายังทุกๆท่านที่แวะเวียนมาให้กำลังใจ
ความรักมีอยู่แล้ว เพียงเปิดโอกาสให้ตัวเอง
ความรักก็พร้อมจะบรรเจิด และแบ่งปัน
ขอบคุณค่ะ
นานจังเลยกว่าจะได้มีวันี้วันที่ได้กลับมาอ่านทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นและผ่านไป อยากตอบน้องอ.ดร.ขจิตด้วนะคะว่าลมพัดมะม่วงแรงในครั้งนั้นหล่นเกลื่อนมากมาย และหลังจากนั้นพี่กลับเห็นมันเร่งออกช่อดอกใหม่ให้เชยชม ปีนี้พี่เก็บได้เกิน 2 ตันค่ะ และส่วนหนึงเก็บมากวนเอาไว้สำรองทำน้ำมะม่วงดื่มและอีกส่วนโตนั้นพี่นำไปทำกุศลหมดด้วยการแบ่งปันกัน อยากให้ทุกคนได้กินมะม่วงปลอดทั้งสารพิษและเคมีใด มะม่วงปีนี้รสหวานและสีสวยมาก และสุขใจที่สุดเมื่อผู้คนกล่าวขานถึงความหวานเย็นของมะม่วง ตอนนี้พ่อน้องปลาตัดกิ่งแล้ว แต่ยังไม่ครบทุกต้น พร้อมๆกับหาพันธุ์แปลกๆที่เราไม่มีมาลงเพิ่มอย่างละต้น สองต้น รวมทั้งไม้ผลไม้ป่าอีกหลายชนิด ปลูกๆไปก่อน เร่งให้เกิดความร่มรื่น และนกกาได้อาศัย ค่อยทำความรู้จักไปด้วยระหว่างที่เขาเติบโต วันที่ 5 กันยายน 2555 น้องครูปูว่าจะลงมากับเด็กๆ 700 คนครูอาจารย์อีก 20 หากน้องว่างเรียนเชิญนะคะ 0876627201 ค่ะที่ชายทะเลบางหญ้าแพรก และวัดศรีวนาราม บางสิคตค่ะ