ความเดิมตอนที่แล้ว
ฉันแอบจินตนาการเจ้าแดงเลือดหมูของฉันไปเรื่อย ๆ ว่า มันคือพาหนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตฉัน
กระทั่งวันหนึ่ง ฉันแอบเอามันกลับบ้าน น้องชายของฉันมาร่วมเชยชม ฉันไม่กล้าบอกความจริงกับแม่เมื่อแม่เดินมาเห็น ได้แต่อ้อมแอ้มบอกว่า เป็นจักรยานของเพื่อน ฉันยืมเพื่อนมาขี่ ฉันจำต้องวนเวียนเอาเจ้าไปฝากบ้านไชยยันต์เพื่อนสนิทอีกเป็นระยะ ๆ เพราะเกรงว่าความจะแตก
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันเดินไปหาไชยยันต์
เพื่อไปเอาเจ้ามาขี่เหมือนที่เคยทำ
จักรยานของฉันเต็มไปด้วยรอยถลอกปอกเปิกไปทั่ว
น้ำตาฉันไหลออกมาด้วยความเสียใจ ถามได้ความว่า
เพื่อนตัวดีเอาไปขี่เล่นแล้วล้ม ฉันจึงขี่จักรยานมาไว้ที่บ้าน
และตั้งปณิธานว่าจะไม่นำไปไว้ที่บ้านไชยยันต์อีกแล้ว
เมื่อมาจอดที่บ้านนาน ๆ
แม่ฉันก็เริ่มสงสัยว่ามันต้องเป็นจักรยานของฉัน แม่เริ่มซักไซ้
จนฉันต้องบอกความจริง แม่โกรธมากที่แอบขี่จักรยาน
แม่พยายามไปคุยกับเจ้าของร้าน เพื่อขอคืนจักรยาน
ฉันเข้าใจว่าเงินแปดร้อยมันมากในตอนนั้น
แต่แม่ก็ไม่น่าจะหักหาญน้ำใจของฉัน เจ้าของร้านไม่ยอมรับคืน
เพราะมันถูกซื้อไปเป็นเดือน รวมทั้งมีแผลถลอกอีกตามรอบคัน แม่โกรธมาก
ส่วนฉันตกอยู่ในความเศร้า ว้าวุ่นใจ ละอายและรู้สึกผิดที่โกหกแม่
ในคืนที่แสนเศร้าคืนหนึ่ง เสียงเจ้าขาวหมาของฉันเห่าแต่เช้ามืด แม่บ้านมาบอกแม่ในตอนสาย ๆ ว่า จักรยานถูกขโมยไปแล้ว
น้ำตาฉันอยากไหลออกมา หลังจากนั้นฉันต้องทนกล้ำกลืนมันเอาไว้ ได้แต่พูดกับแม่ว่า ดีแล้ว ฉันจะไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ และแม่ก็จะได้เลิกโกรธ
แม่ลูบหัวฉัน แล้วบอกว่าเมื่อฉันโตขึ้นกว่านี้ แม่จะซื้อจักรยานให้ใหม่ ให้ฉันขี่มันไปอย่างภาคภูมิและปลอดภัย
แม่ก็คือแม่ ที่รักลูกเสมอ
ทุกวันนี้ ฉันยังไม่ลืมเจ้าเลย จักรยานสีแดงคันแรกในชีวิตของฉัน
เมื่อฉันมีครอบครัวเอง วันแรก ๆ ที่ลูกชายตัวเปี๊ยกอยากหัดขี่จักรยาน
ฉันพาไปเลือกหาซื้อจักรยาน
เราสองคนบอกกับแม่เมื่อเธอเห็นในครั้งแรกว่า
"พ่อยืมของอาร์คมาให้น้องลองขี่หรอกนะ แม่" :-)
"พ่อยืมของอาร์คมาให้น้องลองขี่หรอกนะ แม่" :-)
อดขำและแปลกใจไม่ได้ว่า พ่อและลูกคล้ายกันมาก
แม่ เคยต่อลองคุณพ่อขายาวไว้ก่อนแล้วว่า ให้ลูกเรียนชั้นประถมปลายก่อนค่อยหัดจักรยาน กังวลว่าลูกจะหกล้มเจ็บตัว อันตรายฯลฯ
ความคิดทำนองเดียวกับ ย่า
แต่ลูกก็ได้จักรยานเมื่ออายุเพียงเจ็ดขวบกว่า
หากเรามักขี่กันแต่ในสวน หรือสนามกีฬาที่ไม่มีรถใหญ่
หกล้มเป็นแผล แม่โอเคค่ะ ทำใจได้