งานวิจัยขึ้นหิ้ง...จากยุค...สู่ยุค


อุตาส่าห์ทำการวิจัย...แต่ก็ไม่มีการถูกนำไปใช้ประโยชน์

           เคยบ้างไหม?...ที่ท่านแอบหวังลึกๆในใจว่างานวิจัยของท่านจะไม่ถูกนำขึ้นหิ้งเหมือนยุคก่อนๆ แต่อยากให้เป็นการทำการวิจัยเพื่อให้เกิดการนำไปพัฒนางานหรือแก้ไขปัญหาในหน่วยงานนั้นๆให้หมดไป

 

เจ้าของผลงานวิจัย...คิดอะไรอยู่?

           .....กว่าจะคิดจุดประสงค์การวิจัยแต่ละเรื่องออกมา.... เจ้าของผลงานย่อมเล็งเห็นอะไร?ในงานที่ทำ เพื่อพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าหรือทำให้ดีขึ้นแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นเมื่อท่านทำการวิจัยแล้ว ต้องนำผลงานนั้นๆมาเผยแพร่เพื่อจะได้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรเราหรือองค์กรอื่นนำไปต่อยอดได้บ้าง

 

องค์กร...คิดอะไร?อยู่....

              .....น่าคิดเหมือนกัน?   ที่ส่วนมากในตอนแรกองค์กรเหมือนจะให้ความสนใจในงานนั้นๆ....แต่จนแล้วจนรอดก็ทิ้งสิ่งที่ผู้วิจัยตั้งใจที่จะนำผลงานวิจัยนั้นมาพัฒนางานที่ทำ แล้วก็ถูกลืมหรือไม่สนใจไม่ให้ความร่วมมือในการนำสิ่งที่วิจัยแล้วไปใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิ์ภาพของงาน ทำให้ผลงานนั้นถึงแม้จะดี...แต่ถูกมองข้ามทำให้ผลงานที่ตั้งใจทำ...นั้นไร้ค่า

 

งานวิจัย...กลายเป็นวัตถุโบราณ...ไว้ให้รุ่นอื่นอ้างอิงต่อ....(อย่างนั้นหรือ?)

           ...เกิดประโยชน์อะไรเล่า?.... วันเวลา...ทำให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นเหมาะสมที่จะแก้ไขในช่วงเวลานั้นๆ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับงานวิจัยนั้นๆ การเกิดประโยชน์ที่ใช้อ้างอิงในคนรุ่นหลัง กลายเป็นอดีตที่ไม่สามารถนำไปใช้ ณ เวลาใหม่ได้ ไม่อยากให้งานวิจัยนั้นกลายเป็นวัตถุโบราณเต็มทิ้ง....ในองค์กร เพราะว่าคนทำก็ไม่ปลื้ม...ที่งานวิจัยของตัวเองถูกกลายเป็นวัตถุโบราณอ้างอิงที่ตกยุค

 

หลุมดำ...ของงานวิจัย...

             ...ที่ทำให้ไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำการวิจัย มีมากจนกลายเป็นสุญญากาศหรือหลุมดำของงานวิจัยไปอย่างน่าเสียดาย  มีแรงดึงดูดมากมายเช่น การมองข้ามความสามารถของคนในองค์กรเอง การยอมรับในผลงาน/ความเชื่อมั่น การไม่ใช่คนพิเศษของใครบางคน(จึงไม่ได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ) องค์กรไม่ให้ความสนใจในสิ่งที่เรียนรู้ใหม่ๆ ผู้ร่วมงานเองไม่ให้ความร่วมมือ (ไม่รู้กลัวอะไร? ...บางคนกลัวการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าด้านใด) คนบางกลุ่มก็กลัวคนเพื่อนร่วมงานได้ดีเกินหน้าเกินตา การอิจฉาริษยาในองค์กร การปัดแข้งปัดขา เป็นต้น สิ่งต่างๆล้วนเป็นแรงดึงดูดให้เข้าไปสู่หลุมดำ...ของงานวิจัย...ทั้งสิ้น

 สิ่งที่ผู้เขียนหวัง....    ...อยากเห็นผลงานการวิจัยซึ่งคนในองค์กรอุตส่าห์ทำเพื่อมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนางานให้ดียิ่งๆขึ้นและได้ถูกนำมาใช้ รวมถึงเรื่องที่ร่วมกันปรับปรุงให้เกิดการต่อยอดยิ่งๆขึ้น...และอยากเห็นทั้งเรื่องที่จะไม่มีงานวิจัยถูกวางค้างเป็นวัตถุโบราณอีกต่อไป...สาธุ....!!!..

หมายเลขบันทึก: 488108เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2012 15:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

What can we do, other than bitching and complaining, to make 'value' out of research work?

Can we "mine" research results for commercial or social benefits? There is ทำไทยทำ (please look it up in Gotoknow) and see if we can take it "from idea to product".

สวัสดีค่ะทุกท่าน

  • อยากเห็นสิ่งนั้นเหมือนกันค่ะ คนที่ทุ่มเทกับคนที่ให้ค่า อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะบรรจบกันค่ะ ในระหว่างที่รอ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นักวิจัยทุกท่านด้วยค่ะ 

สวัสดีค่ะคุณSila Phu-ChayaBlank

  • งานวิจัยจะมีคุณค่า ก็ต่อเมื่อองค์กรและผู้วิจัยได้มองเห็นในสิ่งเดียวกันค่ะ
  • กำลังซึ่งกันและกันก็เหมือนนำทิพย์ที่รดใจไม่ให้เหี่ยวเฉา
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจที่ส่งถึงนักวิจัยทุกท่านด้วยค่ะ
  • ขอบคุณBlank noktalayสำหรับดอกไม้แห่งกำลังใจด้วยค่ะ
  • ขอบคุณที่ทุกท่านแวะมาเยี่ยมค่ะ.
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท