ช่วยคนที่เรารัก (ประสพการณ์จริง) ตอนสี่


โดย Samy from board palungjit

 

จดหมายฉบับแรกจากพญายมราช

ชีวิต พ่อน่าเห็นใจอย่างครับ พ่อเป็นคนโดดเดี่ยว มีลูก  คน คนโตย่าเอาไปเลี้ยงแต่เกิด คนกลางยายเอาไปเลี้ยง ผมเองใครจะเอาครับ พ่อแม่ก็ต้องเลี้ยง
 
ปิดเทอมทีก็กับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันที อยู่อย่างนี้ น้อยครั้งที่จะถ่ายรูปได้ครบ  คน รับปริญญาคนนี้ ขาดคนนั้น รับคนนั้น คนนี้ไปนอก ที่บ้านผมจึงมีน้องเพิ่มอีก ๑๒ ชีวิต ราโดข้าวฟ่าง เจ้าฟ้าย ถุงทอง เดโก้ สิบเก้า หูกวาง ปุย ไข่เจียว ไข่ดาว ข้าวโพดและต้นหอม แก้เหงาในเวลาที่ลูกๆอยู่มหาวิทยาลัย
 
สองตายายบรรเทาความเหงาได้บ้าง แต่ไม่เท่าที่มีลูกอยู่ใกล้ๆแน่ เรียนจบผมก็ทำงาน เป็นนักภูมิทัศน์ ของบริษัทมีชื่อเสียงแห่งหนึงที่จัด พืชสวนโลกครั้งแรก ที่เชียงใหม่นั้นหละครับ

ทำงานอยู่  ปี งานก็ดี นายก็ดี เงินก็ดี พอแล้วชีวิตนี้ครบ เราลืมอะไรไปไหม พ่ออายุ ๗๐ แม่ ๖๕ อยู่ยังไง ไม่มีลูกคนไหนอยู่กับพ่อแม่เลย ไม่มีใครจริงๆคนโตทำงานที่อเมริกาคนกลางเรียนโทอยู่บังกาลอ อินเดีย
 
อ้าว...กูอยู่อะไรที่นี่ชลบุรี
ใช่คำว่าเสวยสุขก็ว่าได้ รถมีขับ เงินมีเทียว วันหยุดชมทะเลกับคนรู้ใจ
 
พ่อแม่ส่งเสียเรามาทั้งชีวิตเพื่อให้เรามีอนาคตที่ดีนั้นเป็นเรืองที่จริง และท่านอยากให้เป็นเช่นนั้น ผมตัดสิ้นใจลาออก แต่นายไม่ให้ออก ดันส่งไปดูงานที่ประเทศจีนอีก กะว่าไม่ออกแน่ จริงครับออกนี่หักหลังนายชัดๆเลย อุตล่าห์ส่งไปเทียวเปิดหูเปิดตาติดเงินเทียวให้ด้วย พนักงาน ๒๓๐๐ คน ได้ไป ๒๐ คน มันเท่ห์ขนาดไหน ไปจีนกลับมา
 
อาทิตย์เดียวผมขอลาบวช นายครับผมขอลาบวช ขอ ๑๕ วัน ปี ๒๕๕๒ เมษายน พ่อดีใจมาก แม่ดีใจมาก ลูกชายคนเดียวบวชให้

เมื่อ ถึงเวลาเหมาะยอมครับ พ่อขี่มอไซร์ไปวัดทุกวัน หาฤกษ์ดี เตรียมเครื่องบวช ผมลางานมาก่อน  วัน นอนวัดเป็นนาค ท่องคำขอบวชให้ได้ พระที่บวชก่อนบอกว่าไม่เป็นไรพระอาจารย์จะบอกเอง
 
บ้าสิ ไม่มี มีที่ไหนเราต้องสวดให้ได้ตื่นเต้นยังไง ขัดตรงไหน พระคู่สวดคอยกระทุ้งนิดๆ หน่อยๆไปต่อได้
 
มารจริงๆ ผมไม่สนสวดเองจนได้
 
มาทราบทีหลังพระรูปนั้นอ่านหนังสือไม่ออก
ขุนคลังห่งมิจฉาทิฐิตัวพ่อเลย
กินเข้าเย็น เล่นหวย เสพยา ขโมยเงินเพื่อนพระ
 
จบไม่สวยครับโดนไล่สึกไปแล้ว ผมบวชได้ครบ ๑๐ วัน พ่อถามว่าสึกเมื่อไหร่ พระตอบว่าไม่สึก สะบายใจดี ๒๐ วัน ไปแล้ว ไม่สึก ไม่กลับไปทำงานด้วย นายมาตามก็ไม่สึก บ้ามากเงินเดือนหลายหมื่นอยู่ครับ
 
แต่ห่มผ้าเหลือง สวดมนต์ ปฎิบัติวิปัสนาฯสะบายจกว่าครับ ปาไปเข้าพรรษาเอาไงดี ตื่นทำวัตร ตี  หนีสึกก่อนไหมหนักแน่ เอาสิเป็นไงเป็นกัน เอาพรรษาครับพระอาจารย์ส่งประกวด สอบนักธรรมตรีด้วยเอาสิ
 
สอบได้ครับ ในพรรษา สวดได้หลายบทเข้าก็ออกกิจนิมนต์
 
มีเงินนะเงินเขาจบถวายให้ทั้งนั้น
 
เกิดมารในใจเข้าแล้วครับ คนตายได้เงิน มีศพเข้าวัดทุกอาทิตย์นี่ดีนะ ซอง ซอง ซอง ไม่น่าบวชเลยอยู่นานแล้ว..เชี่ยมากขึ้น สึกก็ไม่ได้ในพรรษา ขนมที่บิณฑบาตรได้อะไรดีๆอร่อยๆ ขนมดีๆเรียกพ่อมาเอา อยากให้พ่อได้กิน พ่อเป็นเบาหวานนะ
 
แต่เราเห็นแกยิ้มแล้วมีความสุข เราอยู่ที่ทำงานยังไม่ได้ใกล้ชิดพ่อ แม่อย่างนี้เลยสุขใจจริง ในพระธรรมวินัยภิกษุบิณฑบาตรได้มาให้ แม่ พ่อกิน ไม่เป็นอาบัติ แต่ที่อาบัติแน่ๆคืออยากสวดศพ
 
มีศพเข้าเราดีใจ
 
คิดได้ไงวะเป็นได้ไม่ถึงอาทิตย์นะ
 
จิตเลวๆแบบนี้เป็นอยู่ไม่เกินอาทิตย์เท่านั้นได้ความเลย ๑๖.๓๐ .รุ่นน้องที่วิทยาลัยเกษตรสิงห์ ขับรถหน้าตาตื่นมาหาที่วัด
 
หลวงพี่ หลวงพี่ โยมพ่อ หลวงพี่ไม่สบายมาก
ไปดูหน่อย พระนั่งรถกลับบ้านด้วยใจระทึก เข้าประตูบ้านไป
 
ใจพระร่วงลงที่ปลายเท้าเลย ร่างพ่อนอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำ หน้าแดงกล่ำ ในปากมีเศษเม็ดมะรุมอยู่เต็มปาก
 
พระอุ้มพ่อออกจากห้องน้ำมาหน้าบ้านยกร่างที่หมดสติของพ่อไม่ไหว ขามันสั้น ขามันอ่อน ไม่ได้แกล้ง แต่กลัวจับใจเลยว่าจะไม่ได้เจอพ่ออีก พ่อขึ้นรถกระบะจับศีรษะพ่อไว้ในมือ
 
รุ่นน้องรีบขับรถไปโรงพยาบาลทันทีพระไม่อยากร้องไห้หลอก น้ำตามันออกมาเอง แผ่เมตตาไปตลอดทาง ให้เจ้ากรรมนายเวรของพ่อ อโหสิให้ด้วย
 
พระพูดกับพ่อตลอดว่า
 
"พระรักพ่อนะ อย่าเพิ่งทิ้งพระไปนะพ่อ พระกลับบ้านมาล้ว ยังไม่ได้ป้อนข้าว ป้อนน้ำกันเลย"
 
ดูสิเราเพิ่งกลับมาทันได้บวชให้สี่เดือนเอง พ่อก็จะทิ้งเราไปแล้วหรือ
 
ไอ้ความคิดอัปปรีย์ จัญไร ที่สุด อยากสวดศพพ่อ แม่ พี่ น้องคนอื่นนักหรือ
 
ศพพ่อเอ็งเลยเป็นไง
 
หายใจไม่ออกครับ จีวรพระห่มตัวพ่อไว้ตลอดจนถึงโรงพยาบาล ร่างคนแก่อายุ ๗๐ ปี เล็กๆ เริ่งแข็งเป็นท่อนไม่ ชักเกรงแข็งมาก ถึง ไอซียู พยาบาลหญิง  คน บุรุษพยาบาล อีก คน กดร่างพ่อไม่อยู่ครับ แกดิ้นเหมือนปลาช่อนตัวใหญ่ถูกทุบบนเขียงยังไง ยังงั้นเลย ฉีดยาไม่เข้าเลยครับ น้ำตาลในเลือดวัดค่าไม่ได้เลย
 
ช่วงเช้าวันนั้น พ่อมาหาพระที่วัด เอาผลไม้มาถวายพระ บอกว่ามาตรวจเลือด ผลออกมา ๔๐๐ ทะลุกราฟครับ ปรอดแทบตก แต่พ่อไม่บอกว่าเบาหวานเท่าไหร่
 
ก่อนวันนั้นวันหนึ่ง ชาเย็น  กระติก กินต่างน้ำ มังคุด  โล ลองกอง  โล โรตี  แผ่น แบ่งกับหมา หมาครึ่ง คนครึ่ง
เสร็จครับกินอย่างนี้ น้ำตาลทะลุจอแน่นอน
 
พ่อคนดื้อ บอกผมเสมอว่า พ่อตายไปก็กินไม่ได้ต้อนนี้พ่อกินอะไรให้พ่อกิน
 
เคาะข้างโลงศพ เรียกมากินข้าว ของชอบพ่อกินไม่ได้ เอาหละปล่อยนะ
 
กินยาให้ครบแล้วกัน วันนั้นยาขาด ขาดกินยาไป อาทิตย์เดียวเอง ได้เรื่องเลย แม่มาถึงโรงพยาบาลพอดี พ่อยังดิ้นเหมือนปลาถูกทุบอยู่ แม่บอกว่า ๑๐ ปีแล้วนะ พ่อเลิกเหล้าได้๑๐ ปีแล้ว พ่อมาได้ไกลแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นพระต้องทำใจ
 
อยู่ต่อหน้าแม่ร้องไห้ไม่ได้ ห่มผ้าเหลืองอยู่ เราต้องเป็นเสาหลัก ร้องไห้ไม่ได้ แต่ที่ไหนได้บนกระบะหลังรถ พระจัดชุดใหญ่ไปแล้ว ลมก็พัดน้ำตาพระแห้งไปแล้ว เยี่ยม เนียนสุดๆภาพลักษณ์ดีมาก สมควรแก่สมานะสารูป เอาหละตายเป็นตายไม่น่ารอด หมอมาชีดอินซูลินเข้าเส้นเลือดไม่ยั้งทั้งหมด  เข็ม อะไรไม่รู้เลย ยัดท่อยางช่วยหายจัยอีก โหหมอแม่งเต็มที่เลยนี่หว่า ช่วยชีวิตคนมันแบบนี้เองนะ มีอะไรใช้หมด พ่อเบิกได้ครับ มาทราบอีกทีโรงพยาบาลเบิกค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ที่กรมบัญชีกลาง อิอิ พูดเล่นครับ
 
ยากดี มีจน ยังไงคนที่เป็นหมอต้องช่วยครับ คนจะตายถ้าเราช่วยได้ต้องช่วยครับ รักหมอโรงพยาบาลนี้จัง
 
พ่อรอดได้เพราะโรงพยาบาลนี้ พ่อเสียชีวิตก็ที่โรงพยาบาลนี้
 
ไม่ติดจัยครับที่สุดของชีวิตต้องตายแน่นอน พระกลับวัดไปเพราะในพรรษา นอนไม่หลับ สวดมนต์ทั้งคืน อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรพ่ออย่างหนัก นอนไม่หลับครับ
 
รุ่งเช้าบิณฑบาตร ทำวัตรเสร็จ ไปโรงพยาบาลเลย พี่สาวคนกลางขับรถมาจากอุทัยธานีเมื่อกลางดึกเมื่อวานมานอนกับแม่ แม่อยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ หมอบอกว่าต้องเอ็กซเรย์สมอง ผลปรากฏว่า สมองพ่อตายหลายจุด เกิดจากความชรา ดูบุหรีจัด กินเหล้าหนัก ล่าสุดก็ช๊อกเบาหวาน สมองขาดออกซิเจนพอสมควร
 
ดีที่พ่อเป็นคนผอม ถ้าล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำไปหละก็เสียชีวิตแน่ครับ วันที่สองยังไม่ฟื้น พระฉีกอังษะ มัดเหรียญหลวงพ่อโสธร ใส่ข้อมือพ่อไว้ แล้วกลับวัด
 
วันที่สามพ่อฟื้นมาตาลอย มือไม้ไขว่คว้าจับอะไรนัยอากาศไม่รู้ พระบอกพี่คนกลางว่าพระจะกลับไปวัดก่อนจะต่ออายุให้พ่อ ฟังแล้วเหมือนเกจิเลยครับ พระบวชใหม่จะต่อชีวิตให้พ่อ ขำฟังแล้วขำ
 
ฉันเพลเสร็จพระเตรียมไม้ขีดไฟไว้ ๗๑ ก้านกะว่าจะ สวดอิติปิโส ๗๑ จบ ให้พ่อมากกว่าอายุ  ปี เดินไปขอกุญแจโบสถ์กับ พระอุปฌาย์ เจ้าอาวาส
 
โบสถ์วัดผมปิดเปิดก็ต่อเมื่อทำวัตร งานบุญ ขโมยชอบเข้าไปลักตู้ ขโมยทองเหลืองขาย
 
เดินไปที่โบสถ์ผมถือหนังสือมนต์พิธีเล่มเหลืองไปด้วย ไปองค์เดียว จุดธูปเทียน กราบพระประธานในโบสถ์ อะระหังสัมมา ก่อนเลย โทรไปบอกพี่สาวว่าบอกพ่อให้นึกถึงพระนะพระจะสวดมนต์ให้พ่อ พระตั้งจิตอธิฐาน บอกเทพยดา ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วทั้งสากล เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าเขา เทพา อารักษ์ ให้รับรู้คำอธิฐานของข้าพเจ้า ด้วยบุญนี้ที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว แต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ กุศลจากการบวชครั้งนี้ของข้าพเจ้าจงมีแด่ท่านทั้งหลาย ด้วยเดชแห่งบุญที่ข้าพเจ้าบวชพระ ของให้กุศลนี้จงมีแด่ นาย.....ชื่อพ่อข้าพเจ้าขอสวดมนต์เพื่อต่ออายุของพ่อข้าพเจ้าให้หายดี ให้หายป่วย ให้ลูกได้มีโอกาสทดแทนคุณ ป้อนข้าว ป้อนน้ำพ่อด้วย
 
หากสิ้นครั้งนี้ไปลูกจะไม่ขออีก
 
 อธิฐานเสร็จก็ ชุมนุมเทวดาเลยครับ จริงๆแล้วพรรษาเราไม่ถึง ที่จะชุมนุมเทวดา ขัดศักเคฯ แต่งานนี้เปิดโบสถ์เอง จัดเอง ต้องเอาให้จบครับ สวดบทถวายพรพระเลยครับ  จบตามด้วยอิติปิโส ๗๑ จบ นับก้านไม่ขีดเอาครับ อารมย์นั้นมันไม่เมื่อย ไม่ปวด พระบวชอยู่น้ำหนัก ๑๒๐ กว่านะ ยากที่จะนั่งคุกเข่าได้จบ แต่คิดว่าเราเจ็บ พ่อเจ็บกว่า เราปวดพ่อปวดกว่า
 
เมื่อจิตเป็นสมาธิ รูปกับจิตมันแยกกันมันไม่สน มันไม่ปวด สวดจบนับได้ ๗๓ ก้าน เอ้ามายังไง  ก้าน กลายเป็น ๗๓ จบ ถูผิดไม่ทราบครับ
 
จริงๆพระอาจารย์ทำกันยังไงเราไม่เคยรู้เลย ทำไปเพราะรักพ่อ ห่วงพ่อเท่านั้น สวดไปก็น้ำตาคอเบ้าไปเสียงสั่น แต่ดังมาก ในโบสถ์มันก้อง กะว่าต้องมีเทวดาช่วยเราบ้างสักองค์หละ เสร็จแล้วก็กรวดน้ำ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรพ่อ เทวดาอารักษ์ตัวพ่อ พระภูมิเจ้าที่โรงพยาบาล จบ พระเดินกลับกุฎิ
 
คราวนี้ไม่มีเลย ใจี่อยากจะสวดศพ พ่อใคร แม่ใคร
 
หมดพอกันทีความคิดอัปปรีย์เช่นนี้ พ่อเอ็งเป็นไงเอาเลยไหมจัยมันเหี่ยวแห้ง หดเลย ปรง พ่อใคร แม่ใคร ลูกเขา ใครก็รัก อยากได้ทำไมกับแค่ซอง เงินที่บ้านก็มี
 
วันๆขี้กองเดียวเอง กินอะไรไปก็ขี้กองเดียว อะไรหนักหนาโลภเสียจริง ชั่วนัก เอากุญเเจไปคืนหลวงพ่อ หลวงพ่อถามว่าโยมพ่อเป็นไงบ้าง น้ำตาร่วงอีกอะไรจะมากมายขนาดนั้นเยอะไปไหม
 
ดาราเจ้าบทบาทดีแท้ใครถามถึงพ่อไม่ได้เลยชั่วโมงนั้นอ่ะ พระนะ บวชเป็นพระแล้วนะ บ้า หยุดร้องกัดฟันตอบหลวงพ่อ ๕๐ ๕๐ ครับ หลวงพ่อร้องเฮ่ย ขนาดนั้นเลยหรือท่านไหนๆพ่ออายุเท่าไหร่ เอากระดาษปากกามา อายุพ่อท่านตั้งนะ หลวงพ่อว่า เอากำลังวันบวกปี คูณ  หาร  เศษ เท่าไหร่ว่ามาท่าน เราก็คิดแล้วคิดอีกเลย เศษ  เอาหละมันยังไง ดีหรือไม่ดีเราคิดดีไหม บอกไปว่า เศษ  ครับ หลวงพ่ออึ้งไปครู่ใหญ่ นั้นไง ในใจว่าเองเลย ศาลาใหญ่ หรือศาลาเล็ก เท่านั้นหละ ชัวร์ คิดนานขนาดนี้
 
กูเตรียมซองได้เลย เสียงหลวงพ่อดังขึ้นว่า หนักอยู่นะ แต่ไม่ตายหลอก ไม่ตายหลอก ตายต้อง  หรือ  เอาหละ หลวงพ่อสร้างวัดมาได้เพราะดูหมอเก่ง ไม่พลาดแน่ แต่เป็นเพราะท่านรับต่ำแหน่งเลขาจังหวัด เจ้าคณะจังหวัด ขอไว้ว่าห้ามดูหมออีก เชื่อครับ
 
วันนี้นอนหลับ เช้าบิณฑบาตรเสร็จไปโรงพยาบาลอีก พี่สาวพ่อมาเองจากกำพงเพชร สายสินธุ์ปอยหนึง เรียกขวัญให้ โอ้โหใช่น้อยนะงานนี้ ออริจินอลมาเองเลย ปู่ผมเป็นหมอกลางบ้าน บวชมา  พรรษา ในหมู่บ้านท่ากกแดง .ลาดยาว ไม่มีใครไม่รู้จัก หมอแสน แสน พิลึก นี่ ป้าใหญ่มาเองเลย ใจดีขึ้นมาเยอะเลย พ่อยิ้มได้
 
วันนี้พ่อฟื้น ยิ้มได้ แต่ตาลอยๆอยู่ อยู่ดีๆ พ่อก็ ยื่นมือออกสุด แล้วพูดขึ้นว่า นก..ดูนกสิ...พ่อยิงมาเยอะเลย พร้อมกับทำท่าขึ้นลำกล้อง พระถาม นกอะไรพ่อ พี่สาวคนโตกลับจาอเมริกามาพอดี ถามว่านกที่ไหนพ่อ แกก็บอกว่านกไง ยิ้มอย่างมีความสุขด้วย มือก็ชี้ไปที่ปลายเตียง ฝั่งตรงข้าม นกไง...พ่อยิงมานัก ต่อนักเลย ยิงมัน มันก็หุบหลบใต้ผัก โพล่หัวมาพ่อก็ยิง ตาย....ทุกคนที่อยู่ที่เตียงมองหน้ากันตาตื่น
 
พี่สาวคนโตบอกว่า พ่อจำได้ใช่ไหม พระมาแล้ว กรวดน้ำให้นกกันนะ ขออโหสิกรรม นกนะ พ่อพยักหน้า ผมขึ้นยัดถา....กรวดน้ำให้นกกัน พี่สาวคนโตบอกว่านกไปแล้วนะมันไปเกิดเลย ป้าใหญ่บอกว่าหมดทุกข์หมดโศกกันนะ พ่อพนมมือรับพร
 
อีกสามวัน พ่อออกโรงพยาบาลได้อย่างปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ยังไง ไม่ตายและไม่มีเอฟเฟ็กซอะไรเลย เดินได้ พูดได้ กินได้ แต่ตายังลอยๆ มือถือน้ำกินเองหกครับ ต้องช่วย กะระยะไม่ได้ หมอบออกว่า ไม่ตายก็ดีมากแล้ว ยังไม่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาท อีกนี่สิดีมากครับ ปาฏิหาริย์จริง
 
  

ให้กำลังใจ อนุโมทนาบุญ กับเจ้าของบันทึกได้ที่
คำสำคัญ (Tags): #กฏแห่งกรรม
หมายเลขบันทึก: 491043เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 11:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 09:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท