ยุคใหม่ก้าวใหม่ของการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.ศิลปากร
สวัสดีครับชาว Blog และนักศึกษาทุกท่าน
วันนี้ผมได้รับเกียรติจากคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ ให้มาบรรยายในเรื่อง ยุคใหม่ก้าวใหม่ของการจัดการทุนมนุษย์ ให้นักศึกษาระดับ ป.เอก และ ป.โท คณะวิทยาการจัดการ
ผมต้องขอขอบคุณ ดร.วันชัย สุทธะนันท์ ท่านคณบดี ที่ท่านได้เชิญผมมาบรรยายในครั้งนี้ และคณาจารย์ในคณะหลายท่านที่ให้เกียรติมาร่วมตอนรับและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
ภาพบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ความเห็น (8)
สรุปประเด็นการบรรยาย
- คนมักพูดว่า Man Material Money สำคัญพอกัน แต่เราต้องพิจารณาว่าจริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไร
- การเรียนในปัจจุบันนี้ไม่เน้นไปที่การคิดวิเคราะห์ การเรียนเน้นที่ประโยชน์ต่อตนเอง การเรียนต้องเน้นการใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
- ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตแสวงหาของใหม่ เพราะมีโอกาสที่เราต้องฉกฉวยและสิ่งที่คุกคาม
- การเรียนของ ป.เอก ป.โท ไม่ใช่เน้นไปที่การเขียนวิทยานิพนธ์ แต่ต้องดูที่ Process ของการทำ เป็นการฝึกการคิดวิเคราะห์เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
- การเขียนวิทยานิพนธ์ ที่สร้างมูลค่าให้ตัวเอง
- ต้องไม่กลัวแสดงให้เห็นความเป็นตัวตน
- มีความสุขที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ท้าทาย
- คิดเป็นระบบ
- การเขียนต้องระวังเรื่องภาษาเน้นที่ภาษาไม่ใช่ที่เทคนิค คนไทยสมัยนี้อ่อนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- สิ่งที่ต้องคิดเพื่อพัฒนา
- Where are we? เราต้องรู้ว่าปัจจุบันตัวเองอยู่ที่ไหน เน้นความเป็นจริง เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน
- Where we want to go? ทิศทางที่เราวางต้องชัดเจน เรารู้แล้วว่างเราจะเดินอย่างไรวิสัยทัศน์
- How to do it? วิธีการดำเนินการอย่างไร
- How to do it successfully? วิธีการเอาชนะอุปสรรคอย่างไร มีอุปสรรคมากมายในเรื่องคน แต่สิ่งที่ซ้อนอยู่คือ Opportunities เรื่องคนเป็นต้องมีทั้ง 2 อย่างคือ พัฒนาและบริหาร
- การฟังในวันนี้ต้องฟังอย่างมีวัตถุประสงค์
สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง
- การทำงานและวิทยานิพนธ์ต้องมี Support System โจทย์น่าสนใจ
- การสร้างเครือค่ายในการเรียน การทำวิทยานิพนธ์
- แลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องการพัฒนาคน
- เราต้องได้อะไรมากกว่าสิ่งที่เราคาด
- ต้องเรียนอย่างมีความสุข
Workshop
- ก่อนฟังกับหลังฟังมีอะไรที่เป็นของใหม่ๆที่คาดไม่ถึง และไม่คิดมาก่อน 3 เรื่อง และสำคัญอย่างไร
- ที่เป็นของใหม่ๆจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่เคยเรียนมาได้อย่างๆร 3 เรื่อง
- ใน 3 ชั่วโมงจะครอบคลุมทุกเรื่องไม่ได้ เสนอ 3 เรื่องที่คิดว่าน่าจะเป็น Trends ในอนาคตที่สำคัญต่อประเทศไทย
- การเปิดเสรีอาเซียน เรื่องการปรับตัวของทุนมนุษย์ของคนไทยที่จะรองรับเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ SME’s และทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ
กลุ่ม 3 มองด้านทุนทางสังคม มองจาก In site out มองให้เป็น Macro ในองค์กรส่วนใหญ่มักมองที่ตัวเอง แต่ไม่ได้มองภาพใหญ่ การบริหารของแต่ละคนจึงมองแตกต่างกัน จึงต้องปรับให้มองไปในทิศทางเดียวกัน และต้องมองด้านจริยธรรม ทำให้เกิดภาวะความสุขให้ตัวเองมีจริยธรรมก่อน มองเรื่อง Intangible เน้น Innovative HR สร้าง Value Added ผลักดันคนในองค์กรให้ส่งผลการเกิดความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร น่าจะเป็นการสร้าง Network ส่วนกลางหรือคนอื่นที่อยู่ในองค์กร (Agent)
อ.จีระ มนุษย์ต้องคิดนอกกรอบเสียก่อน และมองเรื่อง HR Integration ปกติคนจะทำงานโดยเป้าหมายของตัวเอง ไปเป้าหมาขององค์กร ฝ่าย HR ต้องรับเสียงจากหลายส่วนงาน เพื่อปรับปรุงงานในองค์กร และเรื่องการบริหารความขัดแย้งก็มาแรงในเรื่องนี้ด้วย
กลุ่ม 4
การปรับตัว เรามองและวิเคราะห์ตัวเราเองก่อน
• เรื่องภาษา อยู่ในระดับล่างในประเทศอาเซียน ซึ่งสู้กับประเทศอื่นๆในอาเซียนยังไม่ได้ • การศึกษา อยู่ระดับกลาง มองเรื่องการบริการ วัฒนธรรม สิงคโปร์ชนะเราในเรื่องด้านนี้ • เราต้องพัฒนาด้านโลจิสติกส์ การคำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อลดต้นทุน เราสามารถที่จะพัฒนาต่อใน SME’s ของเราด้วย • SME’s จะมองอย่างไรให้สำเร็จ ภาคการผลิตสู้เรื่องการแข่งขันไม่ เช่น เรื่องค่าแรง 300 บาท ถ้าประเทศไม่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แรงงานอย่างพม่าคงดึงแรงงานพม่ากลับประเทศแน่นอน • SME’s ด้านบวก ธุรกิจขนาดกลางมีการเคลื่อนย้ายแรงงานได้ใน 7 สาขาวิชาชีพ สามารถนำมาเสริมในประเทศไทยได้ • สิ่งที่ปรับปรุง SME’s มีประมาณ 70% แต่มีการขับเคลื่อนแค่ 30% ถ้ารัฐเข้ามาดูแลเรื่องนี้ และดูแลเรื่องมาตรการด้านดอกเบี้ย สามารถมีการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นได้แน่นอน
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
กลุ่มที่ 1
ก่อนฟังกับหลังฟังมีอะไรที่เป็นของใหม่ๆที่คาดไม่ถึง และไม่คิดมาก่อน 3 เรื่อง และสำคัญอย่างไร
- การ Bench marking จะมุ่งไปที่การวัดสิ่งที่มองไม่เห็น (Intangible) มากขึ้นคือ ความสุข คุณธรรมจริยธรรม ความยั่งยืน
- ทุนมนุษย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดตั้งแต่ระดับองค์กร ระดับประเทศและระดับโลก
- การที่อาจารย์บอกว่า คนไทยไม่แสวงหาความรู้ น่าจะเป็นที่ตัวบุคคลอาจะเป็นส่วนมาก เพราะอย่างนักศึกษาที่มาเรียนทุกคนก็เพื่อแสวงหาความรู้ การแสวงหาความรู้คือจิตสำนึกของแต่ละคน ต้องโยงไปถึงทุนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของไทย ที่เน้นไปที่การอยู่อย่างสุขสบายไม่หาเป้าหมายในการใช้ชีวิต
สรุป การเรียนรู้ไม่ใช่พัฒนาจนเองจากสถาบันเพื่อหาคุณภาพแล้วไปหาคุณธรรมที่หลัง แต่ต้องพัฒนาจากคุณธรรมเพื่อสร้างคุณภาพและประโยชน์ต่อสังคม
กลุ่ม 2 เน้นเรื่ององค์ความรู้ 1. Happiness Capital เชื่อมกับWork life + Happy Workplaceซึ่งยังไม่ได้ให้ความสำคัญด้านและลืมมองความสุข ตัวผู้บริหารสร้างให้มีความสุขและดูแลจิตใจของพนักงานด้วย 2. Respectผู้นำกับลูกน้องควรมีการแบ่งแยกที่ชัดเจน ต้องมีช่องที่แคบลง เชื่อมโยงกับ Leadership 3. ทุนทางจริยธรรม เดิมเป็นองค์รวม แต่ลืมมองการเริ่มที่คุณธรรมจริยธรรมในองค์กร ให้มองทั้ง Macro และMicro
comment จาก อ.จีระ และ คณะอาจารย์จาก ม.ศิลปากร
รศ.ดร.นำชัย เราพูดกันมานานเรื่องนี้ แนวคิดการพัฒนามนุษย์เป็นศูนย์กลาง การพัฒนาทุนมนุษย์สำคัญที่สุด เพราะมนุษย์เป็นทั้งผู้สร้างและทำลาย สิ่งหนึ่งที่ไทยขาด คือ Creative ของคนเป็นข้อด้วย ขาดมาก การทำอะไรที่ให้ประเทศขึ้นได้ นั่นคือ Creative เพิ่มขึ้น ทุนมนุษย์ที่พูดวันนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก ที่อาจารย์จีระพูดมาทั้งหมดสามารถนำมาปรับเพื่อนำไปทำวิทยานิพนธ์ได้ และหากครั้งต่อไปมีโอกาสก็อยากให้อาจารย์จีระพูดถึงเรื่อง Leadershipอีก
ได้มองว่า อาจารย์จีระ บอกเราว่า มนุษย์ต้องเป็นสิ่งสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น ในเวลา 3ชั่วโมงที่ได้วันนี้ได้อะไรเยอะมาก เราได้แนวคิดและวิธีการเพื่อนำไปปฏิบัติต่อ เพื่อสร้างมูลค่า Value Added เพิ่มได้ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไปด้วยและเพื่อไปสร้างในระดับสากลให้ไปสู่ความยั่งยืน
อ.จิราพรรณ การสร้าง Leaning How to Learn หยิบทุนเดิม+ ทุนที่อาจารย์ Motivateเพิ่มด้วย สิ่งที่ทำต่อ คือแค่เราคนเดียวคงทำไม่ได้ เราจะทำอย่างไรให้ไปในมุมกว้าง ทั้งในกระทรวงศึกษาฯ ทให้เกิดCapacity Building น่าจะเริ่มตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์ด้วยซ้ำไป ใช้นโยบายขับเคลื่อนเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกคนเพื่อให้เป็นจริง
อาจารย์จาก ม.ศิลปากร วิธีการของทั้ง 4กลุ่มเป็นการหาคำตอบว่าคืออะไร สังคมไทยต้องพูดแล้วเพื่อให้เน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม แต่ไม่ได้พูดว่าสำคัญอย่างไร ไม่มีกระบวนการเป็นรูปธรรม สิ่งที่อยากให้คิดต่อ เราต้องพัฒนาอย่างมีทิศทาง เช่น วิธีการสร้าง เราต้องเน้นเรื่องภาษาอื่นๆ ในประเทศอาเซียนด้วย ไม่จำเป็นแค่ ภาษาอังกฤษเท่านั้น เราต้องคิดต่อว่าจะเป็นอย่างไร
อ.จีระ ขอวิงวอนให้มหาวิทยาลัยมีบทบาทได้เป็นผู้จรรโลงความไทยไว้ด้วย มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจเรื่อง ศิลปวัฒนธรรม พอมาทำเรื่อง Management ก็ต้องผสานสิ่งที่เป็นแก่น เรื่องความคิดสร้างสรรค์ด้วย • ม.ศิลปากรมีนักศึกษาที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ถ้ามีคนมากระตุ้น ก็จะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น • มี Benchmark ที่ดี ยืนยันว่า 4 กลุ่มสรุปได้ดี ถ้ามีอะไรที่ผมสามารมีส่วนร่วมได้ ก็ยินดีครับ
สวัสดีท่านคณาจารย์ นักศึกษาปริญญาเอก และปริญญาโท คณะวิทยาการจัดการที่รักทุกท่าน
ผมขอขอบคุณท่านคณาจารย์และนักศึกษาทุกท่าน ที่เชิญผลไปร่วมงานสัมมนา
ต้องขอชมเชยในการเตรียมพร้อม ในการจัดและความสนใจ ของท่านคณาจารย์และนักศึกษาอย่างดียิ่ง
ประเด็นที่ได้มีการถกเถียงกัน อาจสรุปได้ดังนี้
- การพัฒนาและบริหารทุนมนุษย์ในทางธุรกิจ และสาขาอื่นๆ มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ
- ปัญหาของการพัฒนา และการบริหารคือ ทำให้สำเร็จ
- มีแนวความคิดใหม่ และสามารถนำไปผสมผสานกับแนวคิดเดิม เพื่อขับเคลื่อนให้การพัฒนา และบริหารทุนมนุษย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเช่น ความสนใจเรื่องทุนแห่งความสุข ทุนทางจริยธรรม ทุนแห่งความยั่งยืน และนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
สุดท้ายการจะวัดผล ความสำเร็จเหล่านี้ คงจะต้องเน้นไปในทิศทาง intangible คือสิ่งที่อยู่ข้างใน และพยายามมองสิ่งที่มองไม่เห็นให้ชัดขึ้น หรือเปลี่ยนจาก invisible เป็น visible มากขึ้น
ผมจะเชิญท่านอาจารย์จารุวรรณ มาออกรายการวิทยุ Human Talk คลื่น FM 96.5 วันอาทิตย์นี้ เวลา 6 .00 น. เพื่อเผยแพร่งานที่ทำร่วมกันต่อไปครับ