การเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับชีวิตประจำวัน

ภาษาอังกฤษ การฟัง การพูด การฝึกภาษา

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับชีวิตประจำวัน
ถาวร ทิศทองคำ (Ph.D.)
E-mail: [email protected]

ในยุคของการสื่อสารไร้พรมแดน ภาษาอังกฤษนับเป็นเครื่องมือเพื่อการสื่อสารที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง การมีทักษะภาษาอังกฤษสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำได้จริงเริ่มตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนเลยทีเดียว หากเราเข้าใจภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าเราจะดูข่าวภาคภาษาอังกฤษจากช่องสัญญานภ...าคภาษาอังกฤษ เช่น สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ซีซีทีวี) เคเบิล นิวส์ เน็ตเวิร์ก (ซีเอ็นเอ็น) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติอังกฤษ (บีบีซี) และสถานีวิทยุโทรทัศน์อัลจาซีราห์ เป็นต้น ซึ่งทำให้เราเป็นผู้ที่ได้รับรู้ข่าวสารต่างๆ ในโลกก่อนผู้ที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ หลายท่านอาจมีคำถามในใจว่า ไลฟ์สไตล์ด้านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันควรเป็นอย่างไรที่จะทำให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้จริง แท้จริงแล้วมีแนวทางอยู่มากมายที่สามารถปฏิบัติได้
ประการแรก คือ ความกล้า กล้าที่จะใช้ทุกๆ โอกาสที่มีในการพูดภาษาอังกฤษ ความอายไม่ได้ช่วยให้ท่านพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษได้เลย ท่านต้องใช้ทุกๆ โอกาสเพื่อฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีโอกาสได้พบกับชาวต่างชาติ เช่น ที่สถานีรถไฟ สนามบิน ตามแหล่งท่องเที่ยว หรือแม้แต่ในองค์กรของท่านเอง มีงานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่า การมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้นจะต้องเรียนรู้เป็นวลีหรือประโยค ไม่ใช่เพียงแค่คำศัพท์เดี่ยวๆ เนื่องจากการเรียนรู้วลีและประโยคจะมีประโยชน์มากกว่า และมักจะมีรูปแบบของไวยากรณ์ซ่อนอยู่ภายใต้วลีและประโยคต่างๆ ด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การเรียนรู้เป็นวลีและประโยคจะได้เรียนรู้ไวยากรณ์ไปในขณะเดียวกัน เช่น การเรียนรู้ประโยคที่ว่า “I like travelling.” (ผมชอบการเดินทาง) มีประโยชน์มากกว่าที่จะเรียนรู้เฉพาะคำว่า “like” ซึ่งแปลว่า ชอบ และ “travel” ซึ่งแปลว่า การเดินทาง หากพิจารณาประโยคดังกล่าวนี้แล้วจะพบว่า มีไวยากรณ์ซ่อนอยู่หลายประเด็นทีเดียว กอร์ปกับสามารถนำรูปแบบของไวยากรณ์ไปประยุกต์ใช้กับวลีและประโยคอื่นๆ ได้ กล่าวคือ การใช้ “like” ตามด้วยคำกริยาที่เติมด้วย “–ing” หรือไม่ก็อาจใช้ “to” นำหน้ากริยาช่องที่ 1 ดังนั้น ประโยคนี้สามารถพูดว่า “I like to travel.” หากในช่วงของการเดินทางของคุณมีโอกาสได้พบกับชาวต่างชาติและพูดคุยกัน ท่านอาจพูดว่า “I like swimming.” หรือ “I like to swim.” (ผมชอบว่ายน้ำ) “Do you like swimming?” หรือ “Do you like to swim?” (ท่านชอบว่ายน้ำไหมครับ) ท่านสามารถนำรูปแบบไวยากรณ์นี้ไปประยุกต์ใช้ได้กับอีกหลายๆ คำ ที่จะทำให้ท่านได้เกิดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและทำให้การเดินทางของท่านเป็นช่วงเวลาของการเดินทางที่วิเศษที่สุด “I like having Thai food.” (ผมชอบทานอาหารไทยครับ) “Do you like having Thai food?” (ท่านชอบทานอาหารไทยไหมครับ) “I like watching action movies.” (ผมชอบดูหนังบู๊ครับ) “Do you like watching action movies?” (คุณชอบดูหนังบู๊ไหมครับ) ภายใต้ประโยคดังกล่าวนี้ยังมีรูปแบบไวยากรณ์ที่จะเรียนรู้ได้อีกหลายประเด็น หนึ่งในประเด็นเหล่านั้นคือ “like” ตามด้วยคำนาม เช่น “I like the beach.” “the beach” เป็นคำนาม ดังนั้น ท่านสามารถพูดได้อีกหลายๆ ประโยคเลยทีเดียวโดยการแทนด้วยคำนามอื่นๆ เช่น “I like papaya salad.” (ผมชอบส้มตำครับ) “Do you like papaya salad?” (คุณชอบส้มตำไหมครับ) “I like temples in Bangkok.” (ผมชอบวัดในกรุงเทพฯ ครับ) จะเห็นว่าการเรียนรู้เป็นวลีและประโยคมีประโยชน์อย่างมากที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษคือ เราต้องเรียนรู้ที่จะฟังครับ จะช่วยให้ท่านได้ฝึกฝนทักษะการฟังได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีดียว มีนักภาษาศาสตร์หลายท่านยืนยันว่าการเรียนรู้โดยการฟังจะเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่เฉพาะนักภาษาศาสตร์ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว ผู้เขียนสามารถกล่าวได้ว่า การเรียนภาษาอังกฤษโดยการฟังทำให้ผู้เขียนตอบแบบทดสอบภาษาอังกฤษได้คะแนนในระดับดี ผู้เขียนใช้วิธีการฝึกการฟังโดยการฟังเพลงภาษาอังกฤษ ฟังข่าวจากช่องสัญญานภาคภาษาอังกฤษ ฟังเจ้าของภาษาพูด และบอกกับตัวเองเสมอว่าให้ฟังภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

การกล่าวซ้ำหรือทำซ้ำเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ซึ่งนับเป็นกระบวนการเรียนรู้หนึ่ง มีงานวิจัยจำนวนมากระบุว่า คนเราจะไม่เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างในครั้งแรกๆ ครั้งที่สอง หรือครั้งที่สาม แต่การเรียนรู้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้จริงต้องอาศัยเวลาในการที่จะเรียนรู้และเข้าใจอย่างท่องแท้ เมื่อท่านต้องการพูดเป็นภาษาอังกฤษ ท่านควรพยามพูดโดยใช้ประโยคหรือวลีเดิมๆ กับเพื่อนๆ ของท่าน บางท่านอาจรู้สึกว่าการพูดผิดบ่อยๆ เป็นเรื่องไม่ดี อย่างไรก็ตามท่านต้องไม่ลืมว่าการผิดพลาดคือ กระบวนการปกติของการเรียนรู้ ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้เวลาหลายๆ ครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามท่านต้องไม่ยอมแพ้ครับจะต้องทำซ้ำไว้บ่อยๆ

การพูดกับตัวเองก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ หากท่านต้องการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษ เมื่อไม่มีเจ้าของภาษาที่มีตัวตนจริงเพื่อพูดคุยด้วย วิธีการนี้ท่านอาจกระทำโดยการพูดเบาๆ กับตัวเอง ท่านสามารถทำได้เมื่อท่านอยู่คนเดียวซึ่งจะช่วยให้ท่านได้ฝึกฝนซ้ำๆ ให้ท่านบอกกับตนเองในสิ่งที่ท่านมองเห็นรอบๆ ตัวของท่านและสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ เช่น ท่านพูดว่า “I’m alone. I’m taking a bus. Next to me, there is a passenger. He is also a tourist. Behind me, two passengers are talking. …”

อีกวิธีการหนึ่งที่สำคัญและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้คือ การทำแต่น้อย แต่บ่อยครั้งครับ การฝึกใช้ภาษาอังกฤษทุกวันย่อมทำให้ท่านมีพัฒนาการด้านทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ท่านอาจเริ่มจากการเปิดหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษและเลือกประเด็นใดประเด็นหนึ่งเพื่ออ่านและทำความเข้าใจ ซึ่งจะทำให้ท่านคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นครับ
แนวทางต่างๆ ที่เสนอมาปฏิบัติได้ไม่ยากหากท่านมีใจรักภาษาอังกฤษสักนิด ผู้เขียนเองรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจเมื่อได้อ่านเอกสารต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ รู้สึกว่าการได้ฟังข่าวภาคภาษาอังกฤษไพเราะเสมือนได้ฟังเพลง รู้สึกว่าการได้พูดได้คุยกับเจ้าของภาษาเปรียบเสมือนได้ลิ้มลองอาหารที่ถูกปาก ได้รสชาด ท่านอยากเก่งภาษาอังกฤษไหมละครับ หากท่านอยากเก่งภาษาอังกฤษจริง ผู้เขียนเชื่อมั่นว่าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ด้านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่นำเสนอมาจะช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน ท่านทำได้ครับ ....See more

[Dr. Ple]

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความที่มีประโยชน์นี้ค่ะ

สนุกนะคะ ภาษา Eng เราอ่อนแอมากค่ะ เราจะเป็น รองประเทศเพื่อนบ้าน อีกมาก และทุกภาคส่วน นะคะ แต่ถ้าเราร่วมมือกันทุกๆ ฝ่าย สถานศึกษา รัฐบาล เอกชน ประชาชน น่าจะพอได้ ความพยายามๆๆๆๆๆๆ อะไรๆ ก็ชนะ นะคะ