จดหมายจากลูก.... through thick and thin



 

วันพ่อวันแม่ที่นี้ (คนละวัน)  เป็นธรรมเนียมที่ลูกๆ  ถ้ายังเล็ก ต้องเขียนจดหมายขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่  โรงเรียนเขาสอนมาอย่างนั้น

 

พอมีงานทำแล้ว  วันแม่หรือวันพ่อ  ถ้าไม่ส่งดอกไม้มาให้  ก็ต้องเป็นวันที่จะต้องกลับบ้าน แล้วพาพ่อแม่ออกไปทานอาหารด้วยกัน

 

คล้ายๆกับวันสงกรานต์ของเราครับ   


จดหมายข้างล่างลูกสาวเขียนให้แม่ ในวันแม่ ตอนเธออยู่ชั้นประถมปีที่หก  ก็ประมาณสิบสามสิบสี่ปีมาแล้ว

พาไปเรียนเปียโนอาทิตย์ละครั้งตั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบจนถึงอายุสิบสี่

พอเข้าชั้นมัธยมก็เลิกกันเกือบหมด  เพราะต้องเรียนหนัก และเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย  

พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ลืมได้เลย เพราะยิ่งไม่มีเวลา  และต้องไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัยต่างรัฐ  ปีหนึ่งจะกลับบ้านเพียงสองถึงสามครั้ง

 


ผมก็เพิ่งจะรู้ความหมายนี้ครับ

through thick and thin
Cliché through good times and bad times. We've been together through thick and thin, and we won't desert each other now. Over the years, we went through thick and thin and enjoyed every minute of it.
See also: andthickthinthrough

McGraw-Hill Dictionary of American Idioms and Phrasal Verbs. © 2002 by The McGraw-Hill Companies, Inc.


through thick and thin
if you stay with or support someone through thick and thin, you always stay with or support them, even in difficult situations That's what relationships are about - you stick with someone through thick and thin. She remained loyal to the party through thick and thin.
See lay it on thick
See also: andthickthinthrough

Cambridge Idioms Dictionary, 2nd ed. Copyright © Cambridge University Press 2006. Reproduced with permission.



through thick and thin

including both good times and bad times Dogs are real friends because they are loyal to you through thick and thin and don't expect more than food and approval in return.
Usage notes: sometimes used in the form stick together through thick and thin (to support one another in good or bad times)The brothers promised they would stick together through thick and thin.
คำสำคัญ (Tags): #จดหมาย#happy ba
หมายเลขบันทึก: 495554เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2012 20:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 03:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ความรักของ พ่อ - แม่ เป็นรักที่ "ไม่มีเงือนไข" ยิ่งลูกน่ารัก พ่อแม่ยิ่งรัก มากทวีครู

ขอบคุณมากค่ะ

  • น่ารักมาก
  • เป็นสื่อที่สานรักในครอบครัวที่ดีที่สุดอีกวิธีครับ

ไม่ได้เจอกันเสียนาน  ภูเก็ตยังร้อนอยู่หรือเปล่าครับ

ที่นี่ปีนี้ ร้อนน่าดู บางวันเกือบ ๓๒ - ๓๓ องศา

คุณครูที่มาจากเมืองไทย บอกว่า ที่นี่มันร้อนแล้วแสบผิวหนัง

เพราะอากาศมันแห้ง ไม่มีไอน้ำ

สวัสดีครับคุณพี่ 

ตอนนี้คุณพี่คงมีความสุขมากขึ้น  เพราะเรียนจบแล้ว

ขอแสดงความดีใจด้วยครับ

 พอลูกโต  ขับรถได้ ก็เกือบจะไม่ได้คุยกันแล้วครับ

น้อง Katie เรียนอะไรนะคะ น้องต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านตัวหนังสือได้ดีมากๆคนหนึ่งเลยนะคะ เขียนได้ครบถ้วนละเอียดละออ คุณแม่อ่านไปคงน้ำตาซึมไปแน่ๆเลย 

ดีจัง...ได้เรียนรู้ศัพท์ไปด้วย

น้องมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ คนไทยไม่ค่อยมีธรรมเนียมในการ "เขียนขอบคุณ" แต่ใช้วิธีการกล่าวด้วยวาจา การไหว้ การพาไปเลี้ยง แม้กระทั่งการซื้อของไปให้ กับผู้ที่เรารู้สึกว่าทำสิ่งดี ๆ ให้เรา

ครั้งหนึ่งเพื่อนคนไทยและสามีของเธอที่เป็นชาวปากีสถาน ซึ่งไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ออสเตรเลียมาเที่ยวเมืองไทย น้องก็ำพาไปเที่ยววัดพระแก้วและพระที่นั่งวิมานเฆม พอส่งกลับโรงแรมที่พัก วันรุ่งขึ้นเขาก็ส่งการ์ดมาขอบคุณอย่างซาบซึ้งที่เมื่อวานพาไปยังสถานที่ซึ่งสวยงามมาก ก็งงๆ ถามเพื่อนว่าทำไมต้องส่งการ์ดมาขอบคุณด้วย แค่นี้เอง

เพื่อนจึงได้เล่าให้ฟังถึงมรรยาทในข้อนี้ ซึ่งตัวเองฟังแล้วก็รู้สึกชอบเช่นกัน... และได้ปฏิบัติต่อมา โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวและเพื่อนๆค่ะ  :)


สวัสดีครับคุณ 
 

ถ่ายเมื่อปี 2001 ตอนอยู่ชั้นประถมปีที่หก ประเทศเยอรมัน

 
Katie began her first year of medical school in August 2011. 

This quarter, she learned about cell and molecular biology, immunology, and the musculoskeletal system. 

She also began her study of anatomy and physiology (with cadavers!). 

She also learned how to take a patient history, obtain patient vital signs, and conduct a musculoskeletal exam.

She was selected to serve on a steering committee as a leader for RU Caring, an organization that hosts health fairs for the underserved.

Katie also took a research elective course throughout the fall quarter and will begin doing research during the winter quarter.

Finally, she has been involved in a clinical physicianship program and has been spending four hours at a pediatric practice in Chicago every other week.

 

สวัสดีครับคุณน้อง 

คนไทยไม่มีธรรมเนียมส่งการ์ดขอบคุณ

คนไทยไม่เข้าแถว

คนไทย สามีและภรรยาไม่จับมือกัน เวลาไปไหนด้วยกัน

คนไทย แต่งงานแล้ว ก็ไม่สวมแหวนหมั้น โดยเฉพาะคุณผู้ชาย

อยากจะแสดงตัวเป็นโสด จะได้ไปจีบสาวๆคนอื่น  

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้

พี่มีครบทุกข้อ  

 

อ่านแล้วยิ้ม มีความสุขไปด้วย น่าประทับใจมากๆค่ะ

 

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังอยู่เสมอๆครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท