วันอาทิตย์สีน้ำเงิน สัปดาห์ที่สอง ที่กลั้นใจไม่เอางานมาทำให้เสียวินัย..
ความว่าง ทำให้ข้าพเจ้าได้ค้นพบอะไรบางอย่าง..
เป็นอารมณ์ที่อึดอัดในตอนแรก แต่ปลดปล่อยจากคำถาม
ตัวปัญหาในการศึกษา, สังคม, ครอบครัว, ชุมชน, เศรษฐกิจ คือ..
.
สืบเนื่องมาจากวันศุกร์ ขณะเดินทางไปลำปาง
อ้าย (คำที่คนเหนือใช้เรียกผู้ชายอายุมากกว่า) พนักงานขับรถตู้ของคณะ
ชวนคุย เรื่องเด็กสมาธิสั้น
แล้วถามเรื่อง IQ, EQ ว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน
อ้ายบอกลูกชายเรียนคณิตศาสตร์เก่งมาก ไปวัด IQ ได้ 109 ซึ่งเกินค่าเฉลี่ย
แต่ทำกิจวัตรส่วนตัวจะเหม่อลอย ไม่สนใจสิ่งรอบตัว
จึงถามข้าพเจ้าว่าแปลว่า EQ ไม่ดีใช่ไหม?
แล้วแบบนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร
.
เหตุการณ์นี้ จุดประกายให้ค้นหาหนังสือเล่มแรกมาอ่าน
ชื่อ "Emotional intelligence 2.0"
สาระสำคัญที่จับใจความได้
EQ = เข้าใจตัวเอง ( self awareness& self management)
และ เข้าใจผู้อื่น (social awareness & relationship management)
ข้อมูลที่น่าสนใจคือ
ผู้ประสบความสำเร็จสูงในชีวิต 20% มี IQ สูงกว่าค่าเฉลี่ย
ในขณะที่ 90% มี EQ สูงกว่าค่าเฉลี่ย..
จริงๆ แล้ว ที่เลือกเล่มนี้ เพราะมีแบบทดสอบให้ทำประเมินตัวเองด้วย
ผลลัพท์ ที่ออกมา ทำให้ข้าพเจ้าหน้าชาไปชั่วขณะ
EQ ของข้าพเจ้า = 49/100
.
.
ในหนังสือเล่มนี้ได้บอก แนวทางแก้ไข ปรับปรุงตัวเองด้วย
แต่..ข้าพเจ้ายังไม่ยอมรับ
"ก็เพราะสังคมรอบข้างต่างหาก"
สายตาก็เหลือบไปเห็นหนังสือแนะนำอีกเล่ม
ชื่อ "Leadership and self deception"
คำว่า self deception เมื่อแปลเป็นไทยคือ "หลอกตัวเอง"
แนวคิดสำคัญของหนังสือเล่มนี้คือ
อ่านแล้วยิ้มสบายใจไปด้วย...
เมื่อรู้ว่าอะไร/ใครเป็น "ปัญหา" ปัญญาก็เกิด... หลับสบายแน่นอนค่ะ
ส่วนตัวคิดว่า ผู้มีปัญญา ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการมี ปัญหา... จริงไหมคะ :)
ขอบคุณบันทึกดีดีค่ะ
อ่านบันทึกของอาจารย์จะได้ย้อนมองตัวเองและปรับปรุงตัวเอง
โอววว ขอบพระคุณค่ะอาจารย์หมอปัทมา
อาจารย์หมอคงหลับสบาย ได้ทำแบบทดสอบแล้ว
ยังมีคนที่กำลังเป็นปัญหาขั้นโคม่า รอขึ้นเขียงนะคะ
คาดว่า ครานี้มีดหมอ คงลงถูกที่ถูกโรค อีกเช่นเคย
ให้ไปหามาอ่านเอง คงย่อยไม่ไหวเป็นแน่แท้ สมาธิไม่เข้มไม่คมพอ
จะอนุเคราะห์ให้มีตอนสองต่อ...
เพื่อการรักษาเยียวยา...แบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จะได้ไหมคะ?
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
วันอาทิตย์ยังคงเป็น "สีน้ำเงิน" ต่อไปนะครับ ;)...
ชื่นชมวิธีหาความรู้จากคำถามของคุณหมอค่ะ ไม่หยุดนิ่งเลยนะคะ
จะไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านบ้างค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ ขอเรียนว่าได้แรงบันดาลใจเต็มๆ จากบันทึก "กับดัก ตัวดี" ของอาจารย์ค่ะ :)
พี่อุ้มเป็น facilitator ที่มีพลังในตัวเอง จนเผื่อแผ่มาให้คนรอบข้างได้ :)
ขอบคุณมากค่ะ
เรียนรู้ เยียวยาผ่านบล็อก... สำหรับตนเอง
เบื้องต้น...ทลายด่านความกลัว... ตามด้วยสะสางปมค้างคาใจ
อ่านแล้วชะงักกึก ถึงตัวเอง ขอบคุณค่ะ
วันอาทิตย์นี้ สีน้ำเงิน ไปด้วยน้ำฝนเจิ่งนอง จริงๆ ค่ะ อาจารย์ :)
คุณปริมช่วงนี้ที่สิงคโปร์ฝนตกบ่อยไหมค่ะ
ที่เชียงใหม่นั้นตกตลอดวัน
คิดว่าเพราะฝนตกเลยทำให้อยากพักผ่อน มีเวลาอ่านมากขึ้น
..
อ่านแล้วมาเล่าสะท้อนมุมมองละเมียดละไม ในแบบฉบับคุณปริมบ้างนะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมออ้อ
หลังจากผ่านไปสองวัน กลับมาดูบันทึกนี้
อ่านแล้วรู้สึกเครียดนิดนึง..ว่าจะทำให้คนอื่นเครียดนะค่ะ
ขอเป็นผู้ติดตามคุณหมอด้วยคนนะคะได้อ่านอนุทินและบันทึกของคุณหมอหลายเรื่องชอบมากเลยค่ะได้ทั้งสาระและความรู้ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ คุณระพีพรรณ ยินดีต้อนรับสู่ gotoknow นะค่ะ :)
เหมือนได้เช็ดกระจกเงาส่องตนเองทุกๆวันนะคะ..
ขอบคุณค่ะ การได้มีเวลาส่องดูตัวเอง เป็นมหัศจรรย์ของการอ่านและเขียนโดยแท้ค่ะ
วันหลังจะเล่านิทาน เรื่อง "ศาสตราจารย์กับคนขับรถ" ให้ฟังนะครับ คล้ายๆ กับอ้ายโชเฟอร์ที่คุณหมอพูดถึงเลย 555
ดีจังค่ะ ที่คุณอักขณิชสังเกตความช่างคิดช่างถามของอ้ายโชเฟอร์
แกคุยได้หมดจริงๆ ตั้งแต่เรื่องหมอๆ ยาๆ เรื่อง การเมือง ก็วิเคราะห์อย่างกับนักข่าว
โห... เจอปิรามิดอาจารย์หมอ ต้องกลับมาดูรอบสอง
แบกกะไดมาพร้อม ยังไต่ไม่ถึงเลยค่ะ :)
มิน่า อ.หมอถึงปวดคอ อิอิอิ
อืมม... มีท่าบริหารคอ แขน ขา พร้อมกัน เจ็ดท่า เรียกว่า ท่า... " เทพธิดามหัศจรรย์"
ปฏิบัติติดต่อกันเพียงหนึ่งเดือน ท่่านจะเดินเหินได้ดุจเทพธิดาเลยเชียวหละ อิอิอิ ไม่ได้ล้อเล่นนะ คนปวดหลังยืนยันมาว่า หายสนิทจริงๆค่ะ
"...รากฐานที่มาเหมือนกัน คือ ต้องการความปลอดภัย ความรัก ความเอาใจใส่ การยอมรับ"
อืมม... อาจารย์หมอใช้หลักคิดเพียงสี่ข้อนี้จริงๆหรือคะ
แสดงว่าคลื่นความถี่ปลีกย่อย มีรายละเอียดอีกไม่น้อย
ถึงสามารถ... กระชับช่องว่าง ไม่ให้รู้สึกถึงความแตกต่างเลย
ขอบคุณมากๆค่ะ กำลังเรียนรู้ตนเองด้วย
และเพื่อนๆฝากโจทย์มาให้ช่วยถอดรหัส(เพื่อช่วยเพื่อนบางคน)ด้วยค่ะ
น่าสนใจมากค่ะ ขอเรียนเคล็ดวิชา "เทพธิดามหัศจรรย์" ด้วยคน
เรื่อง "ต้องการความปลอดภัย ความรัก ความเอาใจใส่ การยอมรับ"
ช่วยลดช่องว่างได้บางส่วนค่ะ
...
วันนี้ ในขณะนั่งฟังด้วยใจต่อต้าน
รูปแบบการประชุมแบบ "ทางเดียว-one way"
เดินออกจากห้องประชุมแล้ว จึงระลึกได้ว่า
เราก็เหมือนกับเขา "ต้องการ การยอมรับ"
ก็เพียงแต่วิธีทำให้ยอมรับ ของเขาใช้ไม่ได้ผลกับเรา
จึงระงับความคิดไว้แค่นั้น
...
คุณ tawandin เคยรู้สึกแบบเดียวกันบ้างไหมค่ะ
แล้วแก้ไขได้อย่างไร เชิญร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะค่ะ :)
โห... อาจารย์หมอขา กว่าจะฝ่าคลื่นมาได้ ผ่านไปหลายวันเลย
คอมพ์ฯมีปัญหา ต้องดึงข้อมูลภาพ เสียงทั้งหมดแยกไว้อีกที่
เน็ตเดือนที่สองเริ่มเป็นปัญหา เริ่มใช้ได้ดีขึ้นเล็กน้อยวันนี้เองค่ะ
...เคล็ดวิชา "เทพธิดามหัศจรรย์" ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที
ควานหานางแบบก่อนนะคะ :)
สิ่งที่ช่วยลดช่องว่าง...
วันนี้ ได้อ่านบันทึกอาจารย์หมอเพิ่มอีกสองบันทึก
อาจารย์หมอมีทั้งทุนเดิมจากคุณแม่
จากความพยายามอบรม...ฝึกฝน...ขัดเกลาตนในปัจจุบัน
พลังแห่งการเรียนรู้แบบไม่ออมแรงแม้แต่น้อย
คำตอบ...มาจากหลายส่วนเลยทีเดียว
ความรู้สึกต่อต้าน ตนเองเป็นรุนแรงมากค่ะ
และ...น่าตกใจ ที่เราไม่ยอมทำโจทย์ชีวิตชุดนั้นเลย
พยายามทบทวนตามอ.หมอว่า...
ส่วนที่เหมือนในความที่เรา...ไม่ชอบนั้น คือ...อะไรนะ?
...น่่าจะเป็น...ความสำคัญตน ใช่เลยค่ะ
จัดจ้านคนละด้าน (โอวว น่าตกใจอีกแล้ว)
เพื่อนบอกให้รีบล้างใจ อย่าเก็บไว้นาน มันจะเน่่าใน...ไม่ทันแล้ว แป่วว :)
และแล้ว... ตนเองก็พกพาทุกอารมณ์ความรู้สึกที่ "ไม่ลงรอย" นั้นมาลงที่นี่ Gtk.
แยกแยะพอได้ว่ามาจากเหตุใด แต่เอาไม่อยู่
แก้ไขไม่ทันการณ์เสียแล้วค่ะอาจารย์
สัมพันธภาพมันพังระนาว เรียบร้อยยย :)
ลิ้มรสความขื่นขมของความล้มเหลวซะ...ให้เข็ด :))
เจ็บหัวใจจัง... มีวันหนึ่ง หายใจเข้าไม่ได้ ต้องผ่อนออกยาวๆเข้าสั้นนิดดเดียว
โอกาสดี ที่ได้มาอยู่กับแม่ กับเด็กๆ เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นที่กำลังตามหา...
ชิ้นหลัก ฐานรากสำคัญที่เดียวค่ะ
เพื่อนๆที่ Gtk. มีส่วนเกื้อหนุนให้เกิดการเรียนรู้มากมายค่ะ
ยังกรุ่นๆอยู่ ใช้เวลาสักพักใหญ่คงพอสามารถสรุปบทเรียนมาแลกเปลี่ยนได้ค่ะ
โห... ร่ายยาวเชียว ออกจากใจ ไม่ต้องร่าง
ขอบคุณมากนะคะ