ทำงานแบบไหน? ถึงได้เลื่อนขั้น

ความสุข ข้อนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุด คุณถามตัวเองหรือยังว่าคุณมีความสุขกับงานที่ทำหรือไม่ ถ้าไม่มีความสุข มันก็ยากนะที่คุณจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าหากคุณไม่ชอบงานที่ทำลองเปลี่ยนมุมมองให้กับงานที่ทำอยู่เผื่อจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง แต่หากทำใจให้รักยังไงก็ไม่ได้ แนะนำให้เปลี่ยนงานเถอะ พระพุทธเจ้ายังตรัสไว้เลยว่าการทำงานอันใดก็แล้วแต่ต้องมี “ฉันทะ” คือความชอบเพื่อให้การนั้นประสบความสำเร็จ

สวัสดีครับ  เพื่อนๆผู้ใช้แรงงานทุกท่าน  วันนี้ผมมีบทความเรื่องการทำงานแบบไหนถึงจะได้เลื่อนขั้นเงินเดือนมาฝากครับ 

สำหรับคนทำงานในภาคเอกชน สิ่งที่คาดหวังกันคงหนีไม่พ้น การได้เลื่อนขั้น เพราะการได้เลื่อนขั้นนอกจากจะแสดงให้เห็นว่า การทำงานของคุณประสบความสำเร็จ คุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ เป็นที่ไว้วางใจจากเจ้านายแล้ว ยังได้ผลพลอยได้อีกอย่างคือ อัตราค่าจ้างที่สูงขึ้นอีกด้วย ยกเว้นกรณีที่คุณได้เลื่อนขั้นเพราะมีเส้นกวยจั๊บหรือบังเอิ้ญ บังเอิญใช้นามสกุลเดียวกับเจ้านาย

แต่สำหรับคนที่ทำยังไงก็ไม่เคยได้เลื่อนขั้นกับเขาเลย ล่วงเลยมานานจนจำไม่ได้แล้ว ถ้าอยากได้เคล็ดลับมัดใจเจ้านายที่ไม่เคยเหลียวแลเราเลย ได้หันมามองเห็นคุณค่าของเราบ้าง ก็ต้องทบทวนดูแล้วล่ะว่า คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่บ้างรึเปล่า?

มาทำงานเช้า - กลับดึก
คุณเคยเป็นคนที่มาถึงที่ทำงานเป็นคนแรกและกลับเป็นคนสุดท้ายบ้างรึเปล่า หรือว่ามาทีไรก็ตอนที่คนอื่นเขาเตรียมทานอาหารกลางวันกันแล้ว ส่วนตอนเลิกงานคุณก็จะเป็นคนแรกของแถวที่รอตอกบัตรออกเสมอ หรือคุณจะดีใจสุดๆ เมื่อได้ยินเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกงานอะไรประมาณนี้หรือเปล่า

ถ้าเป็นดังนั้นคุณควรปรับตัวให้เป็นคนที่มาก่อนคนอื่นและกลับเกินเวลาเลิกงานบ้าง ขอเน้นว่าบ้าง เมื่องานไม่เสร็จ หรือมีงานเร่งด่วนที่ทางบริษัทขอร้องให้คุณช่วยเหลือโดยไม่ได้ให้ค่าตอบแทน เพราะการทำเช่นนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนขยัน เอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับงานและบริษัท

มนุษย์สัมพันธ์ดี
เวลาคุณมาทำงานในตอนเช้าคุณเอ่ยทักใครบ้างหรือเปล่า หรือตรงดิ่งไปยังที่นั่งประจำโดยไม่สนใจใครเลย เวลาพักกลางวันเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ชวนคุณไปกินเข้าบ้างรึเปล่า หรือคุณทานข้าวกลางวันคนเดียวเป็นประจำ เวลาทำงานร่วมกับผู้อื่นคุณมีปัญหากับพวกเขาอยู่เสมอๆ จนคนอื่นเขาระอากันหมดบ้างหรือไม่

สำรวจตัวเองดู เพราะการที่คุณไม่มีมนุษย์สัมพันธ์จะทำให้คุณทำงานไม่ราบรื่น หากคุณเป็นคนเก่งแต่ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ คุณก็จะลำบากต้องทำงานทั้งหมดคนเดียว อีกหากคุณก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าก็ยิ่งควรจะมีมนุษย์สัมพันธ์กับพนักงานอื่นๆ ในออฟฟิศด้วยเช่นกัน ไม่งั้นอาจโดยขัดแข้ง ขัดขาหรือโดนเลื่อยเก้าอี้เอาง่ายๆ

พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่า ตั้งแต่เข้ามาทำงานมีสิ่งไหนที่คุณไม่รู้และทำไม่ได้ และในตอนนี้คุณมีพัฒนาการในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ เหล่านั้นมากน้อยแค่ไหน อย่าบอกนะว่าคุณทำงานมา 3 ปีแล้วคุณยังใช้อุปกรณ์ในสำนักงานไม่เป็นอย่างเดิม อย่างไรก็อย่างนั้นเช่นเดียวกับตอนที่คุณเข้ามาทำงานใหม่ๆ จดพัฒนาการการเรียนรู้ของคุณ และหาโอกาสแสดงให้เจ้านายของคุณเห็นว่าคุณเป็นคนใฝ่รู้แค่ไหน

ความคิดสร้างสรรค์
คุณมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แค่ไหนกัน อย่าลืมว่าออฟฟิศต้องการพนักงานที่ work hard ควบคู่ไปกับ work smart ด้วย

มีจิตวิทยาในการพูดคุย
ในการทำงานหลายครั้งเราต้องพูดขอร้องให้เพื่อนร่วมงานของเราช่วยเหลือ หรือการพูดติดต่อประสานงานต่างๆ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีจิตวิทยาในการพูดไว้ติดตัวบ้างเพื่อความราบรื่นในการทำงาน เช่น หากจะกล่าวตำหนิใครก็ควรที่จะกล่าวชื่นชมก่อนเพื่อไม่ให้ผู้ฟังรู้สึกแย่จนเกินไป แล้วจะพลอยไม่ชอบขี้หน้าเรา ยิ่งทำให้การร่วมงานกันเป็นไปได้ยากขึ้น การมีจิตวิทยาจะช่วยให้คุณทำงานได้ราบรื่น และสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

โดย  นายนรินทร์  แก้ววารี