เดือนนี้ยังเป็นมีกลิ่นไอของความรักจาก "วันแม่" หลายคนมีวิธีบอกรักแม่ที่แตกต่างกันไป มักจะเห็นหลายคนหลายครอบครัวพาแม่ออกไปเที่ยวหรือรับประทานอาหารร่วมกันนอกบ้าน ปีนี้แม่ของฉันสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนัก แม่เดินไกลๆหรือยืนนานๆไม่ค่อยได้ เนื่องจากปวดขาจากภาวะปลายประสาทอักเสบ แม้หมอจะพยายามเชียร์ให้แม่ผ่าตัดแม่ก็ไม่ยอมบอกว่า กลัวผ่าแล้วไม่ฟื้นบ้าง กลัวผ่าแล้วเดินไม่ได้เหมือนใครหลายๆคนบ้าง แม่เลยเลือกรับประทานยาและรักษาตามอาการ...พี่น้องทุกคนมากราบแม่แล้ว ฉันเป็นคนสุดท้ายเพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน ตอนเช้าฉันได้ทำหน้าที่เป็นแม่ของลูกที่ขอให้ฉันออกไปรับประทานอาหาร(ที่ลูกชอบ)นอกบ้านด้วยกัน ตอนเย็นก็กลับมาไหว้แม่และคุณยาย(ของหลานๆ) แม้พวกเราจะรักแม่ทุกวันอยู่แล้วแต่วันนี้ก็เป็นวันพิเศษอีกวันหนึ่ง ฉันรู้ว่าแม่รอลูกๆมาหาในวันแม่ แม่ดีใจสังเกตเห็นได้ชัดจากใบหน้าของแม่ ที่ลูกๆมากราบไหว้ "ขอให้ลูกเจริญๆนะลูก" เป็นพรอันประเสริฐจากแม่ที่มอบให้พวกเราลูกๆทุกปี...อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรกับลูกๆตราบนานเท่านานนะคะคุณแม่ รักแม่ค่ะ ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนก็รักแม่หมดใจ
มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก
กรุ่นกลิ่น "รัก" บริสุทธิ์ผุดผ่องใส
แทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ
เป็นมาลัย "กราบแม่" พร้อมน้อมบูชา
กี่พระคุณจากใครอื่นนับหมื่นแสน
อาจทนแทนเปรยเปรียบเทียบคุณค่า
แต่พระคุณ"หนึ่งหยดน้ำนมมารดา"
ทั้งสามภพจบหล้า...หาเทียมทัน
ลูกไม่อาจเอ่ยแสดงแถลงถ้อย
หรือเรียงร้อยพจนามาเสกสรรค์
เพื่อบรรยายพระคุณนี้ที่ "อนันต์"
จึงตั้งมั่น "กตัญญุตา" ตลอดไป
หนึ่งคำ "รัก" ลูกรักแม่ แม้ค่าน้อย
ต่างเพชรพลอย ตีราคาค่ามิได้
แต่แม่จ๋า... "รักที่หนึ่ง" ของหัวใจ
มิใช่ใคร "ลูก รัก แม่" แน่นิรันดร์
ขอบคุณบทกลอนจาก คุณสัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันแม่)
๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕