ซวยแล้ว ประเทศไทย พายุ“แกมี” สิ้นฤทธิ์


ซวยแล้ว ประเทศไทย พายุ“แกมี” สิ้นฤทธิ์

วันนี้ได้อ่านเจอข่าวว่า รบ.โล่งอกปิดศูนย์สู้พายุ“แกมี”สิ้นฤทธิ์กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดรอด ปลอดโว31 ตุลาคม พ้นน้ำท่วมกทม.

เมื่อวันที่ 8ตุลาคม ที่สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ทำเนียบรัฐบาล นายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผอ.ส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา แถลงว่า พายุแกมีจะหมดอิทธิพลหลังเวลา 12.00น.วันที่ 9ตุลาคม อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังจะเกิดฝนตกได้จากตัวแปรอื่น ในแผนที่อากาศเรายังพบพายุโซนร้อนพระพิรุณ ซึ่งจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกและเปลี่ยนไปทางเหนือ  คาดว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนไปประเทศญี่ปุ่น ไม่เคลื่อนมาทางประเทศไทย

                คนไทยทั้งประเทศรู้สึกโล่งอก ที่พายุแกมี ไม่ถล่ม

                ทั้งที่ก่อนหน้านี้คนไทยต่างรู้สึกตื่นตระหนกเมื่อปรากฏข่าว  เวลา 12:10 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2555 ก.สาธารณสุข เตรียมรับมือพายุแกมี คาดจะมี 30 จังหวัดได้รับผลกระทบ หนักสุดคือ จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา โดยจัดตั้งวอร์รูมประจำจังหวัดเป็นศูนย์สั่งการ ช่วยเหลือผู้ป่วยทั้งสุขภาพกายและจิต

 

                และในขณะเดียวกันเมื่อวันพฤหัสที่ 4 ตุลาคม 2555 นายธีระ  วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรฯ กล่าวถึง สถานการณ์ของ พายุแกมี ที่จะส่งผลต่อประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ช่วงเวลา 20.00 น. ว่าต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าจะเป็นโซนร้อน  ดีเปรสชั่น หรือปรับตัวเป็นหย่อมกดอากาศ

                นอกจากนั้นยังถูกตอกย้ำข่าวนี้อีกเมื่อ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูง ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา ระยอง และตราด เพื่อเตรียมความพร้อม รับผลกระทบจากพายุแกมี ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ ตามการคาดการณ์ของกรมอุตอนิยมวิทยา โดยในครั้งนี้มี 30 จังหวัดที่จะต้องเตรียมรับมือ ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน ซึ่งมีโรงพยาบาลที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมสูง 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลปักธงชัย และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลาดยาว จังหวัดนครราชสีมา ที่อาจได้รับผลกระทบจากเขื่อนลำพระเพลิง เนื่องจากขณะนี้มีน้ำในเขื่อนอยู่ร้อยละ 93 ของความจุเขื่อน หากเกิดฝนตกหนักน้ำจะล้นสปริงเวย์แน่นอน

                แม้แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เรียกประชุมร่วมกับผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุแกมี ซึ่งจะส่งผลทำให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร ประมาณ 80% ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ผู้ว่ากรุงเทพ ยังได้กำชับให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เตรียมรับมือ รวมทั้ง 13 เขต 27 ชุมชน ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งให้เตรียมความพร้อมของบุคคลากรและเครื่องมือไว้ล่วงหน้ากว่า 200 จุด ทั่วกรุงเทพ

นอกจากนั้นเมื่อเวลา 16:55:28 น. ของวันที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2555 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคอนเฟอเรนซ์ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการเตรียมความพร้อมรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนแกมี ว่า ดร.รอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดการน้ำ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ประสานข้อมูลการเคลื่อนตัวพายุแกมีว่ามีแนวโน้มที่พายุอาจเปลี่ยนทิศทางจากเดิมขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม เป็นการเคลื่อนตัวลงต่ำผ่านประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่มีแนวภูเขาขวางกั้นที่ทำให้พายุอ่อนกำลังลง จึงส่งให้พายุอาจมีกำลังรุนแรงมากขึ้น โดยคาดว่าพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระยอง และชลบุรี ซึ่งเป็นจุดที่มีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว หากมีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่ม จะทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จากนั้น คาดว่าพายุแกมีจะเคลื่อนตัวออกอ่าวไทยและขึ้นฝั่งทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีภาวะฝนตกหนัก คลื่นลมแรง คลื่นในทะเลสูง 1-3 เมตร

                เมื่อเวลา 10:53 น. วันที่ 08 ตุลาคม 2555 แกมีเข้าศรีสะเกษคนเขมรแห่ซื้อเสื้อกันฝน พายุ“แกมี” พัดผ่านจากจังหวัดเสียมราฐประเทศกัมพูชาเข้าประเทศไทย  ที่ด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  ได้มีลมพัดกระโชกสลับกับฝนตลอดทั้งวัน  ชาวกัมพูชาหวั่นว่าจะเกิดน้ำท่วมซ้ำเหมือนปีที่ผ่านมา ต่างเดินทางขึ้นมาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่ฝั่งประเทศไทยเพื่อกักตุนไว้  นอกจากนี้ยังมีผ้าพลาสติกกันฝนเสื้อกันฝนด้วย        
                จนกระทั่งเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ต.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวประมงบริเวณปากน้ำระยอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ว่า มีเรือประมงเป็นจำนวนมากจอดปิดอ่าวหลบมรสุม คลื่นพายุแกมีพาถล่มอ่าวไทย และทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ระยอง ส่งผลให้บรรยากาศท่องเที่ยว โดยเฉพาะริมชายหาดทะเลต่าง ๆ ดูเงียบเหงา ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแต่อย่างใด

                แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่มีการประกาศและแจ้งเตือนากภาตรัฐ

แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสข่าว สวดยับนักวิชาการ-รัฐบาลมั่วนิ่ม"แกมี"แค่ฝนตก(เวลา 21:53 น วันอังคารที่  9 ตุลาคม 2555 ) ธรรมดานายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า การเคลื่อนตัวของพายุ แกมี ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด โดยไม่มีรายงานน้ำท่วม  น.ส.สมเพชร อินทสุข อายุ 40 ปี เจ้าของกิจการ อ.เมือง สระแก้ว กล่าวว่า การคาดคะเนของกรมอุตุนิยมวิทยาและนักวิชาการสร้างความตื่นตระหนก จะเห็นว่าประชาชนบางส่วนปิดกิจการและยกเลิก เลื่อน วันเวลา การเดินทางทำธุระต่างๆออกไป ทำให้เสียโอกาสทางการค้า และการท่องเที่ยว ที่บริเวณตลาดโรงเกลือมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

                 จากสภาพการณ์ดังกล่าวนี้ จะทำให้คนไทยเชื่อมั่นได้อย่างไร กับการทำนายของกรมอุตุฯและภาครัฐที่อกมาให้ข่าวกันอย่างครึกโครม

                เมื่อมีการทำนายผิดพลาดเช่นนี้ ครั้งต่อไปถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้อีก คนไทยไม่เชื่อ คำเตือน จะเกิดอะไรขึ้น

  อยากตะโกนว่า”ซวยแล้ว ประเทศไทย

 

 

หมายเลขบันทึก: 505079เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2012 22:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม 2012 09:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท