เข้าใจแบบเข้าใจ
ในการทำงาน เรามีเพื่อนร่วมงาน ไม่มากคนก็น้อยคน
ที่บ้านหลังเลิกงาน เรามีคนของครอบครัว ซึ่งนอกเหนือไปจากเราคนเดียว
บางครั้งบางเหตุการณ์ บางเวลา เราเกิดความเห็นไม่ตรงกัน
ข้อคิดเห็น ความคิดในใจ หรือคำพูดที่ไม่ตรงกัน หากกล่าวออกไปแล้ว จะไม่สามารถเรียกกลับคืน
คำพูดของเราเอง มีหลายวัตถุประสงค์ต่อการพูดออกไป
พูดออกไปเพื่ออธิบาย
เพื่อโต้ข้อขัดแย้ง
เพื่อแก้ตัว
เพื่อกล่าวพาดพิง
หรือเพื่ออื่น ๆ อีกหลายประการ
ทุกครั้งที่เราพูด อธิบาย โต้ แก้ตัว กล่าวพาดพิง หรืออื่น ๆ ออกไปนั้น
อาจไม่ได้ผล
ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในทางบวก
ไม่ได้ก่อให้เกิดความเข้าใจกัน
ลองปรับเปลี่ยนวิธีการบ้าง
เปลี่ยนเป็นฝ่ายเงียบ รับฟังแต่เพียงฝ่ายเดียว
รับฟังแบบตั้งใจฟังจริง ๆ
รับฟังแบบละทิ้งอัตตา ตัวตน
รับฟังแบบ เราไม่ใช่เรา
รับฟังแบบเรามีความรักในการรับฟัง และตัวผู้พูด
รับฟังแบบให้เกียรติผู้พูด
เราคือเขา ผู้พูด
ถ้าเราคือเขา
เราฟังแล้วเราเข้าใจเจตนาผู้พูดหรือไม่
ถ้าไม่เข้าใจอีก ลองหยุด ปล่อยวางเรื่องนี้ไว้ก่อน
บางคนอาจบอกว่า อีกฝ่ายยังไม่หยุด
ไม่เป็นไร เราหยุดฝ่ายเดียว
ปล่อยให้เกิดความเงียบ
ปล่อยให้เกิดช่องว่างเงียบ ๆ
เหมือนอ่านหนังสือแล้วมีหน้าว่าง ๆ ให้พักสายตา
เมื่อเงียบ หยุด ฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายจำต้องหยุดโดยปริยาย
เมื่อมีสภาวะการณ์ สถานการณ์ที่ดีขึ้น
เราสองคน สองฝ่าย สองด้าน สองกลุ่ม
อาจเข้าใจกันแบบเข้าใจ
โดย ไม่ต้องใช้การพูด
เข้าใจ...
ไม่มีความเห็น