วันที่ว่างๆ

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555 เป็นอีกวันที่ร้านเงียบไม่ค่อยจะมีลูกค้า เป็นช่วงลงนาเกี่ยวข้าว ตีข้าว ถ้าไปหาเกษตรกรตามบ้านตอนนคงเจอแต่บ้าน กิจกรรมพบปะ อบรมเลิกไปเลย บางบ้านเอามื้อ ลงแขกกันยาว ติดต่อกันกว่าจะครบรอบทุกคนที่มาช่วยลงแขกเป็นเดือนทีเดียว .. ผู้เขียนหว่านแมงลักไว้หน้าบ้านจะว่าหว่านก็ไม่เชิงพอดีต้นเก่ามันแก่ก็รูดดอกมันทิ้งตามโคนรอบต้นเก่าพอไม่นานก็งอกกอใหม่มามากมาย  วันนี้ว่างก็ออกไปชื้อดินปลูกมา1ถุง ตัดขวดน้ำดื่มเล็กๆพอเป็นถุงปลูกใช้หัวแร้งเจาะรูที่ก้นระบายน้ำ แล้วก็ดึงย้านต้นแมงลักออกมาชำง่ายๆแค่นี้แหละ เอาไว้แจกลูกค้าที่ชอบของแถม ไม่ลดราคาแต่เราแถม เราต้องบอกสรรพคุณของแจกเราด้วยเดี๋ยวไม่ชอบของแจกว่า.......แมงลักนำไปใช้ได้ทั้งใบและเมล็ด ใช้ประกอบอาหารเช่นเดียวกับกะเพราและโหระพา ส่วนมากจะใช้รับประทานกับขนมจีน หรือใส่เครื่องแกงต่างๆ ส่วนเมล็ดแมงลักใช้ทำเป็นขนมอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ เมล็ดแมงลักนำมาทำเป็นยาระบายและอาหารเสริมลดความอ้วนได้..ว้าวอยากได้ประมาณนั้น

แมงลักมีโปรตีน 3.8 กรัมต่อน้ำหนักใบสด 100 กรัม ซึ่งสูงกว่ากะเพราและโหระพา ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย รายงานว่า แมงลัก 1 ขีด มีบีตา-แคโรทีนสูงถึง 590.56 ไมโครกรัม เทียบหน่วยเรตินัล สูงกว่ากะเพราและโหระพา และให้แคลเซียม 140 มิลลิกรัม ส่วนกรมส่งเสริมการเกษตรระบุว่า ใบแมงลักให้พลังงาน 0.032 กิโลแคลอรี่ วิตามินเอ 9,164 หน่วยสากล และวิตามินบี2 ประมาณ 0.14 มิลลิกรัม ซึ่งน้อยกว่ากะเพราและโหระพา แต่แร่ธาตุอื่นๆ มีสูงกว่า เช่น มีไขมันสูงถึง 0.8 กรัม แป้งมากถึง 11.1 กรัม แคลเซียม 350 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 86 มิลลิกรัม เหล็ก 4.9 มิลลิกรัม วิตามินบี1 0.30 มิลลิกรัม และวิตามินซี 78 มิลลิกรัม ข้อมูลนี้มาจากวิกิพีเดียครับ 

ปลูกแมงลักเสร็จยังว่างอีก คราวนี้แม่ยายบอกว่าลูกค้าที่เคยมาขอคำแนะนำการเลี้ยงเป็ดเอาไข่เป็ดมาให้ 

30 ฟอง จะเอาทำอะไรก็ทำนะหลายวันแล้ว 

ทันที่ครับ ผู้เขียนไม่รอช้าเอาไข่เป็ดล้างแล้วนำไปแช่น้ำเกลือเข้มข้นในขวดโหล ใส่ไข่ได้ 25ฟองพอดีเลย