ในโลกเงียบแห่งความมืดมิด


    เคยไหม.....นั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง   เคยไหม.....รู้สึกอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ไม่มีน้ำตาสักหยดเพราะมันไหลย้อนลงไปในอกหมดสิ้นแล้ว.    เคยไหม..... ที่ไม่อยากพูดกับใครเลย.  


    ค่ำคืนจะเป็นช่วงที่ทรมานที่สุด คือการนอนไม่หลับ จนต้องใช้ยานอนหลับเข้าช่วย. เวลากลางวันเป็นเวลาที่มีความสุขที่ได้ทำอะไรคนเดียวโดยที่ไม่มีใครรบกวน. เสียงพูดแทบจะไม่ออกจากปากเลยสักคำ. มีแต่ความคิดที่วนเวียนอยู่ในสมองทั้งในเรื่องดีและไม่ดี


    ความอดทนมีขีดจำกัด ความเงียบไม่ใช่การยอมแพ้แต่เป็นการเงียบที่เต็มไปด้วยความโกรธที่รุนแรง แต่ยังไม่แสดงออกมา และความก้าวร้าวรุนแรงจะแสดงออกมาเมื่อเจอคนพูดจาไม่ดีด้วย รุนแรงมาก มากเกินไปชนิดว่าสามารถทำลายทุกอย่างให้ย่อยยับไปกับตา


    ถูกต้องนี่คือ อาการหนึ่งของ "โรคซึมเศร้า".  หลายๆคนเป็นโรคนี้แต่ยังไม่ยอมรับ หรือไม่รู้ตัว มีทางแก้ไข คือพบจิตแพทย์ ซึ่งในบ้านเรามักจะไม่ค่อยนิยมนักเพราะคิดว่าการพบจิตแพทย์คือคนบ้า 

    

     คนที่เป็นโรคนี้น่าสงสารนะคะ เพราะเหมือนอยู่ในโลกมืดที่เงียบเชียบและเดียวดาย   เพราะจะตัดขาดจากสังคมเพราะเกิดความกลัว ระแวง ไม่ไว้ใจ กลัวการทรยศหักหลัง เบื่อคำติฉินินทา จึงเลือกที่จะอยู่คนเดียว คิดและทำอะไรเงียบๆคนเดียว ไปไหนคนเดียว นอนคนเดียว ทำกิจวัตรต่างๆคนเดียว เพราะเกือบทุกครั้งที่เข้าสังคมมักมีคนหลายประเภท ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ในสังคมเราจะมีคนหลากหลาย  จึงทำให้เบื่อคำพูดที่ซุบซิบหยุมหยิม ที่เข้าหูตลอดเวลา แล้วเอากลับมานอนคิดในเวลากลางคืนว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวหรือเกี่ยวกับตัวเองก็จะคิดมากไปกันใหญ่โต


       โรคทางกายหายขาดได้แต่โรคทางใจ หายขาดยาก ยากมากจริงๆ อีกทางที่จะแก้ไขได้คือการปฎิบัติธรรม แต่ทำอย่างไรในเมื่อการเป็นโรคซึมเศร้าจะหลีกหนีทุกอย่าง จะปิดตัวเอง ขังใจตัวเองไว้ในกรงไขกุญแจแล้วโยนลูกกุญแจนั้นทิ้งไป แล้วใครล่ะจะช่วยไขกุญแจนั้น.....


      โลกเงียบที่แสนจะมืดมิดนี้ ก่อนหน้านี้มีสาเหตุ เกิดในแต่ละคนในหลายกรณี แต่ทุกสิ่งนั้นมักมาจากการบาดเจ็บทางใจ อย่างรุนแรง แล้วเก็บเอาไว้ ไม่พูดไม่บอกกับใคร เกิดเป็นตะกอนทับถมเป็นชั้นที่หนา จนยากที่จะเยียวยาแก้ไข บางคนถึงขั้นทำร้ายตัวเอง คิดแต่เรื่องตาย หมดหวังในชีวิต  แต่บางคนที่น่ากลัวก็คือคนที่พยายามควบคุมตัวเอง จนไม่มีใครรู้แม้แต่คนใกล้ชิดว่าตนเองเป็นอะไร มองภายนอกแทบไม่รู้เลย เพราะจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ อยู่อย่างคนปกติ แต่หารู้ไม่ว่า ในทุกๆวัน จะต้องรับประทานยาระงับประสาทประมาณอุ้งมือ หากวันใดขาดยา จะหนาวในอกและมีอาการสั่นสะท้าน ควบคุมตัวเองไม่ได้ พร้อมที่จะแสดงสิ่งที่เก็บกดไว้ในใจออกมา ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เมื่อถึงขณะนี้ยากิน เอาไม่อยู่แล้วค่ะ ต้องให้ยาระงับประสาทฉีดเข้าทางเส้นเลือด จับมัดข้อเท้าและมือกับเตียงเพื่อป้องกันการทำร้ายตัวเอง และต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด


      แต่เป็นไม่นานหรอกค่ะเมื่อยาออกฤทธิ์ และได้รับยาในระยะเวลาที่ต่อเนื่อง ก็จะกลับมาเป็นคนปกติคนเดิม แต่ไม่เต็มร้อย เพราะอาการบาดเจ็บทางใจมันยังไม่หาย ......โลกมืดที่เดียวดาย จะหายหรือจะตายเพราะตนเอง มีทางเป็นไปได้เสมอ ในโลกนั้นหนาวเหน็บไปถึงหัวใจ เย็นไปทั้งกาย ร่องรอยแห่งความเจ็บปวดนั้นจะแสดงออกมาทางดวงตา ที่ปิดไม่มิด เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ .........


    โลกมืดนี้ยังคงมืดต่อไปรอแสงตะเกียงส่องสว่างนำทางออกมาจากความมืดนั้น. 


     ยังไม่จบแค่นี้นะคะคราวหน้าเราจะมาทราบถึงสาเหตุและชนิดของ " โรคซึมเศร้า". กันค่ะ


    

หมายเลขบันทึก: 510786เขียนเมื่อ 3 ธันวาคม 2012 10:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 16:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท