บ้านเรากับข่าววันที่โลกจะแตก

           ข่าวประโคมกันยกใหญ่ว่าโลกจะแตก 21 ธันวาคมนี้  เราก็นึกว่าแม่จะตกใจที่ไหนได้ ...แม่สบายๆ ไม่สนใจแถมยังไปเที่ยวลาวกับเครือญาติอย่างสบายใจ  ปล่อยให้เราไปเฝ้าบ้าน เลี้ยงสิงสาราสัตว์ให้  ส่วนคุณน้องสาวบอกว่าถ้าจะแตกขอให้แตกแบบบรึ๊มไปเลย อย่าเอาแบบจมน้ำนะ  ไม่ชอบสำลักน้ำ มันทรมาน  คุณป้าคนกรุงเทพกังวลหนักกว่าใครบอกว่าให้ใส่เสื้อชูชีพไว้เผื่อน้ำท่วมโลก...คือจริงๆคุณป้าโทรมาเตือนแม่ตั้งแต่สมัยเด็กชายปลาบู่แล้ว...ก็ขำๆ กันทั้งบ้าน  วันนี้ก็เลยรวบรวมข้อมูลเรื่องโลกจะแตกไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษากัน  แต่ถ้าเผื่อโลกแตกจริงก็คงไม่มีประโยชน์เนาะ....แต่ก่อนจะถึงวันโลกแตกเราคิดจะทำอะไรดีๆ กันดีน้าาาาาาาาา....

      เพราะถ้าโลกแตกตามคำทำนาย ตอนนั้นเราก็คงหลับอยู่ ....มีไอ้จิ๋วและนังเอ็มเป็นเพื่อน (หมาและแมว)  ไม่ต้องกลัวเหงา

ทางวิทยาศาตร์ กล่าวว่า วิถีโคจรของดาวนิบิรุ(Nibiru) เป็นดาวปริศนาดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาล..จะโคจรเข้ามาใกล้โลกและมันจะโคจรเข้าเป็นเส้นตรงพอดีในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ก็คือ ดวงอาทิตย์ โลก และนิบิรุ อยู่ในระนาบเดียวกันพอดี วันนั้นจะเป็นวันวิบัติซึ่งจะมีผลดังนี้
1.สร้างความปั่นป่วนให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้า
2.น้ำจะขึ้นสูงมากๆจนเกิดวิกฤตการณ์ที่เรียกว่า น้ำท่วมโลกหรือซุปเปอร์ซึนามิ
3.แผ่นดินไหวและภูเขาไฟไปทั่วโลก
4.ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)
5.การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
6.ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก
7.สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
8.กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น
9.แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (มนุษย์น่าจะกระโดดได้สูงขึ้นกว่าเดิม)
10.DNA จะเกิดการผันแปร

ทางวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ - "วันนั้นจะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า 'การพลิกขั้วกลับของสนามแม่เหล็กโลก'บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น

เรื่องราวจากปฏิทินชาวมายา กล่าวว่า 21-12-2012 หมายถึง วันที่ 21 เดือนธันวาคม ค.ศ.2012 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในปฎิทินชาวมายัน...ปฏิทินโบราณของชนเผ่าที่ชื่อว่า "มายัน" (บางทีจะเรียกว่า 'มายา') ในสมัยโบราณนั้น ชนเผ่ามายัน เป็นชนเผ่าที่มีความสามารถในการคำนวณปีทางสุริยคติได้อย่างแม่นยำที่สุด ปัจจุบันปฏิทินที่เราใช้กันอยู่ก็มาจากชาวมายันนั้นเอง ทฤษฎีนี้คิดค้นขึ้นโดยชนเผ่ามายัน วันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน โดยปฏิทินลอง เคาต์ เล่มล่าสุดนั้น เริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดี ก่อนเริ่มต้นของ 13 รอบบักตุน เรียกได้อีกอย่างว่า “อาทิตย์ดวงที่ 5” ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะเวียนมาบรรจบเพื่อก่อกำเนิดดวงอาทิตย์ครบ 5 ดวง ในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 โดยคำทำนายระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารไล่เรียงตั้งแต่ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่งไปจนถึงสงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนใดมีชีวิตรอด

ข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ซูเปอร์โวลคาโน หรือภูเขาไฟใต้น้ำ ครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่จะทำงานหรือระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือโศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการระเบิดของซูเปอร์โวลคาโน อาจไม่ใกล้ไม่ไกลบริเวณที่เคยเกิดสึนามิมาก่อน

คำทำนายของพระพุทธเจ้า   ทรงตรัสแก่พระอานนท์ สรุปว่า "ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของตถาคตถึงกึ่งพุทธกาล  ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศ  คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี ไฟจะลุกลามไหม้วัด  คนบ้านรุกรานป่า สัตว์ป่าหากินในเมือง สงครามต่างๆทั่วทิศ ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ยักษ์หินที่ถูกสาบ  จะตื่นขึ้นมาอาละวาด คนไม่อยู่ในศีลธรรม ติดสินบน คดโกง ผู้คนถืออำนาจไม่เป็นธรรม คนเชื่อคำคนโกงคนกล่าวเท็จ คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบกลับไม่มีใครเคารพยำเกรง พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อมีธรรมมิกราช  ซึ่งอยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระโพธิสัตว์ผู้ทรงธรรม  ซึ่งทั้งสองพระองค์จะสถิตย์ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ  จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง พ.ศ. ๕,๐๐๐ ดูก่อนอานนท์ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำลายให้สิ้นสูญ  คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน"

[พ.แจ่มจำรัส]

ขอบคุณกับข้อมูลดีๆครับ ไม่ได้อ่านและฟังรายละเอียดมากนัก เพิ่งมาอ่านในบันทึกนี้ล่ะ...