เผาผลาญให้.....ตาย


เผาผลาญให้.....ตาย


โดย แซมมี่ เวปพลังจิต
เรื่องนี้ติดใจผมมากว่า ๑๐ ปีครับ 

สมัยเมื่อผมปิดเทอมให้ จะขึ้น ปวส. นักศึกษาวิทยาลัยเกษตรบางส่วน จะไม่ได้กลับบ้านอย่างเด็กคนอื่นครับ จะต้องมีการฝึกงานภายในวิทยาลัย และถ้าเป็นเด็กหมวดปประจำงานฟาร์มแล้ว ยิ่งไม่ได้กลับบ้านใหญ๋ กินนอนเฝ้าแปลง เฝ้าบ่อ เฝ้าคอกอยู่อย่างนั้นครับ ผมอยู่หมวดประจำไม้ดอก ไม้ประดับ ๕ ปี ปวช.ถึง ปวส.เลย เหตุที่มาอยู่ตอนนั้น ง่ายๆครับ และมันคือจุดเปลี่ยนในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ มาอยู่หอเพราะไม่อยากเห็นพ่อเมา และไม่อยากห้าม พ่อ กับแม่ เวลาตีกัน คู่นี้เขาเป็น พ่อแก้ว นางแก้ว ของกันและกันจริงๆ ครึ่งกลมแรกพ่อบุกก่อน พูดจาเสียดแทงบ้าง ด่าเอาบ้าง หรือหนักหน่อยก็ขอใกล้ๆมือนั้นก็ เล็งเอาสิครับโดนบ้าง ไม่โดนบ้าง แต่เมื่อผ่าน ๓ส่วน๔ กลมไปแล้ว แม่ผมเป็นต่อครับ แกไม่ได้กินด้วย ก็จัดให้สัก ดอก ๒ ดอก เหมือนกัน สรุปแล้ว พอกัน อันนี้เล่าได้นะ เพราะโตแล้ว 



แต่เมื่อ ๑๕ ๑๖ ตอนนั้นนี้มันแรงว่านี้นะ ใครมีคนเมาในบ้านแล้วจะทราบว่าผมต้องเจออะไรมาบ้าง ตั้งแต่เกิด จำความได้ก็ หงษ์ทอง มาแล้วครับ มันไม่อยากอยู่บ้านนะ กลัวใจตัวเอง จะว่าพ่อ ทำร้ายพ่อเอา เราเป็นลูกนี่ทำไม่ได้เลยนะ นรกขุมไหนก็ใส่ไม่พอ ถ้าทำร้าย พ่อและแม่ บังเกิดเกล้า เลยตัดสินใจไปอยู่หอพัก หมวดประจำที่ วิทยาลัย แรกๆพ่อกับแม่ก็ไม่ให้มาครับ เวลาดีท่านรักลูกมาก เพราะคนโตก็เรียน กรุงเทพแล้ว คนกลางก็ อยู่ ม.ขอนแก่น เหลือผมลูกล่า ลูกแหง่คนเดียว และกำลังจะทิ้ง พ่อ แม่ ให้อยู่กันสองคนตายายแล้ว แต่ก็ชักม่น้ำทั้ง ๕ ครับ คนจะไปอ่ะเหตุผลมันเยอะ เดือน จะได้กลับบ้านสักที บางอาทิตย์ พ่อก็มารับไปกินข้าวบ้าง ไปเทียว วัดพิกุลทอง ไหว้พระกันบ้าง ก็อบอุ่นดีครับ แต่ก็ได้ผลครับ 


ผมออกจากบ้านมา พ่อกับแม่ไม่ค่อยทะเลาะกันเหมือนตอนเราอยู่บ้านวุ๊ย ปรองดองกันดีตีกันได้ไง เหลือแค่ ๒ คนแล้ว ที่วิทยาลัยเกษตรก็สอนดีมากครับ สากกะเบือยันเรือรบ ปีหนึ่งแทบไม่รอด ปวช.๑ กลับบ้านแม่เห็นมือผมแม่ร้องไห้เลยครับ มือคุณหนู ที่ไม่เคยหยิบจับอะไรในบ้านเลย มันแตกยับเลยครับ แตกซ้อนที่แตกไปแล้ว พี่สาวคนโตมาเห็นบอกว่าเขาไม่ให้จับปากกาหรือ อันนี้เจ็บครับหาว่าเราสมองหมาแรงควาย แม่จะให้ลาออก มาเรียนเทคนิคใหม่ สงสารลูกไม่เคยทำงานหนัก "พ่อแม่รังแกฉัน" เห็นๆ จะป้อนข้าวป้อนไปจนตายเลยได้ไง ผมก็อายเขาครับให้เรียนซ้ำนี่ไม่เอาด้วย ทนเอาครับ จากเด็ก ๕๐๐ คน ขึ้นปี ๒ เหลือ ๒๐๐ กว่าครับ ลูกชาวนา ลูกชาวไร่ทั้งนั้นเลยที่ยอมแพ้ไปเยอะมากครับ มีเราเป็นลูกข้าราชการ แทบจะคนเดียวในห้องเลยก็ว่าได้ครับ 


แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนได้จนจบ เพราะความชอบจริงๆครับ และที่นี่หละที่ผมไปทำบาปมากที่สุดในชีวิต ผ่าต่อมปลาดุก ฟันหัวกระจาย ตายไปหลายพ่อพันธุ์ กรีดไข่หมูตอนไปหลายตัว พ่นยาฆ่าแมลงไปก็มาก แต่นั้นมันไม่เท่ากับการให้ไฟเผา สัตว์พวกนี้เขาตายมีประโยชน์ ตายเป็นครูเรา แต่เมื่อผมขึ้น ปวส.มีรังต่อหัวเสือ รังหนึ่ง ใหญ่มากครับ ครึ่งถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตรได้ มันอยู่ที่ ต้นเต่าร้าง รุ่นพี่ใช้กระสอบป่าน ชุบน้ำมันก๊าส ใช้แป๊ปเหล็กยกชูขึ้นเผารัง เพรากลัวว่าจะทำร้ายเด็กที่มาลงงานเช้า เผาจนตัวต่อเต็มไวร่วงลงบนใบไม้ดัง เหมือนฝนเม็ดใหญ่ตก ไม่ช้ารังก็ร่วงลงพื้น รุ่นพี่คนหนึงก็บอกว่า ตัวอ่อนกินได้นะ โค ตะ ระ อร่อยเลยมึง อ่ะเรื่องกินเรื่องอยู่เด็กเกษตรมันต้องครบเครื่องครับ ตายมาลงจานให้กิน กินทั้งนั้น จัดการดึงตัวอ่อนออกจากรัง ตัวอ้วนมากครับ ได้กะมังใหญ่ๆ ผมเองไม่ได้เผาเลยครับ ยืนดูเฉยๆเลยครับ ไม่ยินดีด้วยครับ แต่เสือกมายินดีเอาตอนกินได้นี่หละครับ "นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแดก ทำงานเหงื่อไม่แตก แดกเหงื่อท่วมตัว" นี่หละ สโรแกนเรา ผมลงมือผัดใส่กระทะเองครับ ไม่ได้คิดเลยว่าตัวอ่อนต่อ เขายังไม่ตายเลย ยังกระดุกกระดิกอยู่ ชม.นั้นมันจะกินอะ น้ำมันใส่นิด เกลือหน่อย ซอสภูเขาทอง พริกไทย อย่าให้ขาด โอแม่เจ้า มันซะหัวแทบแตก กินกัน สามวันครับกว่าจะหมด เยอะมาก เรื่องนี้ลืมไปเกือบปีครับ คิดว่าไไม่มีผลอะไรกับชีวิต 


พอผมขึ้น ปวส.๒ เท่านั้นครับผมก็จำ เรื่องตีรังต่อได้อีกครั้ง เมื่อเด็กคนหนึ่งจุดเทียน ทิ้งไว้ในหอพัก เป็นเพิงพักขนาด ๕คูณ๕ ม. เท่านั้น อยู่กัน สี่ หนุ่ม เตียง สองชั้น ผมหัวโจก ข้าวของเยอะกว่าใคร อยู่มา ๕ ปีเลย หนังสือ เสื้อผ้า รองเท้า วิทยุ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา มิโด ออโต้อีกหนึ่งเรือน พระเครื่ออีกหนึ่งพวง ที่น้อนอย่างดีจากเมืองจีน ถามผมไปเรียน เพือนๆต้องมาแอบนอนเตียงผมอยู่เสมอ วันนั้นไฟดับ น้องไม่หล่อครับจุดเทียนแต่ ตี ๕ ส่องหน้า ดูความหล่อมัน อือแต่มันหลอจริง ผมเรียกมันว่า พระเอกลิเก ผมมันพี่ใหญ่เขาแล้วตื่นสายหน่อย ลงงาน ๖ โมงเช้า ตื่น ๖ โมงเช้าครับ แปรงฟันอย่างเดียว โดดเข้าฟิวงานเลย เสื้อผ้าหน้าผมไม่สน เรามันหล่อโดยกำเนิดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่ง

เวรกรรมมีจริง ตื่นมาไม่เห็นเปลวเทียนที่จุด เพราะแสงมันเริ่มสว่างขึ้น ผมก็ออกจาหอเลยไม่เห็นครับ น้องก็หวังดีอยากให้รุ่นพี่แต่งตัว แม่งไม่ดับเทียน ดีไม่เผาผมไปด้วย ๑๕ นาทีเท่านั้นครับ ตอยังไม่เหลือ ไหม้หมดพระเครื่องนี่หลอมรวมกันเลยครับ ไฟมันแรงมาก วันนั้นมันแนวมาก ผมนึกยังไงไม่ทราบ นุ่งกางเกงยีน ใส่เข็มขัดหนังของวิทยาลัย รองเท้าหนัง เสื้อขาวนักเรียนออกคุมรุ่นน้องทำงาน นั้นหละครับเหลือแค่นั้นจริงๆ ไฟไหม้หมดไม่เหลือ ผมกับรุ่นน้อง เพื่อนอีกคนเป็นเด็ก นานาชาติไปเดือนนึง กว่าจะมีเสื้อผ้าใส่ไปเรียนได้อีกครับ นึกขึ้นได้ว่า เราไปเผาบ้านเขาไว้นี่หว่า จับลูกๆเค้าทอดน้ำมันทั้งเป็น กินอย่างบ้าคลั่ง ไม่ถึงปีจริงๆครับ ผมเหลือแต่ตัว 


ทุกวันนี้กลัวไฟไหม้บ้านมาก ไปไหนมาไหน ถ้าคิดว่าไม่ได้ถอดปลั๊กอะไรต้องหันหัวกลับมาดูบ้านทันที กลัวจริงๆครับ ผมก็ขออโหสิต่อเหล่านั้นไปแล้วเมื่อครั้งบวช ทุกวันนี้ก็นั่งสมาธิให้อยู่ตลอดไม่ได้ขาด 


ทุกวันนี้อะไรที่ตายทรมาน ผมจะไม่กิน ไม่ซื้อ ไม่สั่งฆ่าโดยเด็ดขาด หอยแครงโลหนึ่ง กี่ตัวครับ เราสั่งเขาลวกน้ำร้อน เผาไฟให้เราทันทีเลยใช่ไหม หอยแครงคำนึงท่านกินกี่ตัวครับ ช้อนหนึ่งสง สาม ตัว ไปกัน สี่ ห้า คน โลนึงอยู่ไหม น้ำร้อนลวก ไฟเผาเราเจ็บเพียงใด หอยเค้าก็เจ็บจนตาย เหมือนเราครับ ปลากระพง ๑ ตัว กินอิ่ม ได้ สี่คน ก็ ๑ ชีวิต แต่หอย ชามนึงกี่ชีวิตครับ แกงคั่วหอยขม ในท้องเขายังมีลูกๆเค้าอีก ชามเดียว เป็นร้อยชีวิตครับ ไอ้ที่ว่า เปิดหัวลิง แล้วคีบสมองกินเลยนี่ ทั้งๆที่ลิงยังร้องอยู่ กินได้ยังไง อสูรกายชัดๆ 

ก็ขอร้องครับพี่ น้อง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ก็อิ่ม เหมือนกันครับ

ประเภท สั่งเป็น สั่งตายนี่ 

ขอนะครับ สงสารสัตว์โลก

------------------------------------------------------------------------------------------------
หอยแคลงเผา !! ง่ะ......พูดไม่ออกเลยค่ะ เขียนซะเห็นภาพเลย ลืมคิดถึงเลย
ไม่สั่งกินอีกแน่ค่ะ ขอให้ระลึกได้ทีเถอะ สาธุ 
เคยกินแต่ก็ไม่บ่อย แหมไม่ทันคิดจริงๆแสดงว่าจิตดิฉันยังหยาบอยู่ ก็ขออนุโมทนา
เจ้าของกระทู้ค่ะ ธรรมทานเตือนใจ สาธุ



สนในอ่านเรื่อง ช่วยคนที่เรารัก โดยแซมมี่ แล้วคุณจะได้อะไรเป็นข้อคิดมากมาย มากกว่าคุณร้องขอเสียอีก รู้ไว้ตอนนี้ยังดีเสียกว่าไปรู้ตอนแก่ เพราะว่า เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้กับชาติหน้า อย่างไหนจะมาก่อนกันครับ



คำสำคัญ (Tags): #กฏแห่งกรรม
หมายเลขบันทึก: 515322เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2013 20:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม 2013 22:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

 ตอนเด็กๆเคยเอาปีนเอารังนกที่มีลูกนกเอาลงมาดู ตอนหลังก็เอากลับไปคืนแต่ไม่รู้กิ่งเดิมหรือเปล่า พ่อแม่นกหาลูกไม่เจอก็เลยไม่กลับมามั้ง พอฝนตกพ่อแม่นกไม่อยู่ ลูกนกโดนฝนตายกันหมด นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเองเป็นโรคภูมิแพ้มั้งคะ เวลาน้ำมูกไหล บางครั้งเจ็บคอเจ็บโพรงจมูกเหมือนคนสำลักน้ำ แต่ก็ทำบุญให้กับมันเมื่อมีโอกาสค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท