การปรับค่าตอบแทนพนักงานราชการ ณ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗

                   จากประสบการณ์ในการทำงานด้านบุคลากรของภาครัฐมานานนับ ๒๕ ปี การปรับเงินเดือนของข้าราชการในช่วงสมัยก่อน กว่ารัฐบาลจะปรับให้นั้น ยากมาก...นาน ๆ ครั้งถึงจะปรับให้ แต่มาช่วงระยะ ๕ ปี ที่ผ่านมานี้ ภาครัฐปรับเงินเดือนให้กับข้าราชการที่บรรจุใหม่ ตลอดจนพนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ที่ใช้งบบุคลากรให้บ่อยจัง!!!...อาจเรียกว่า ถี่...เพราะปรับเมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ และก็ช่วงก่อนหน้านั้นอีก และมาปัจจุบันก็วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และยังมี ๑ มกราคม ๒๕๕๗ เรียกว่าประมาณ ๔ ครั้งแล้วกระมังที่ปรับ ภาครัฐแจ้งว่า...ปรับเพื่อสำหรับการครองชีพ...จริงหรือไม่...เพราะถ้าปรับสำหรับการครองชีพจริง ๆ ไม่ใช่ว่าปรับให้แต่กับเด็กยุคใหม่ที่จบการศึกษาระดับตรี โท เอก...แต่ควรปรับให้กับข้าราชการเดิมด้วยที่เขาก็ได้ชื่อว่า "มนุษย์เงินเดือนเช่นกัน กว่าพวกคนเหล่านี้จะได้เงินเดือนซึ่งปัจจุบันสูงกว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่เท่าไร...แต่ภาครัฐควรดูเหตุผลด้วยว่า...การที่ข้าราชการเดิมได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นมาเหตุเพราะทำงานมานาน ยิ่งทำงานนาน ประสบการณ์ที่ได้ในการวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาในการทำงานก็ยิ่งมากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็กจบใหม่ได้เลย และจะทำให้การทำงานของภาครัฐไม่สำเร็จ

                    แต่การที่ภาครัฐเอาใจสำหรับเด็กใหม่ที่จบวุฒิ ป. ตรี โท เอก อย่างเดียวแบบนี้ ผู้เขียนคิดว่า...ไม่เป็นธรรมสำหรับข้าราชการเก่าที่ทำงานมาให้กับภาครัฐมานาน จะทำให้ข้าราชการเหล่านี้เกิดการท้อใจ ขาดขวัญ กำลังใจในการทำงาน ใช่ว่า เด็กจบการศึกษาใหม่มาแล้วจะคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์งานให้จนเบ็ดเสร็จได้เลย ยังต้องอาศัยข้าราชการผู้มีประสบการณ์ในการช่วยตัดสินใจอีกด้วย...ที่เขียนมา...มิได้มีเจตนา อิจฉาหรือริษยาแต่อย่างใด แต่ต้องการให้ภาครัฐ คิด ทบทวนในการปรับเปลี่ยนเงินเดือนในทั้งระบบด้วย เพราะปัจจุบันเท่าที่ทราบ ภาครัฐทำให้กับเด็กรุ่นใหม่ฝ่ายเดียว...ผู้เขียน ได้แต่รับข่าวมาว่า ภาครัฐจะทำการปรับเปลี่ยนทั้งระบบให้ แต่ก็ยังไม่ทราบผลว่าจะออกมาเช่นไร ยิ่งถ้าเปลี่ยนรัฐบาลอีก เรื่องก็คงจะจบ...แล้วก็เริ่มต้นใหม่...การทำงานในสังคมโดยรวมของประเทศ ภาครัฐควรมองไปทั้งระบบ เหตุที่เขียนเพราะเป็นผู้บริหารระดับกลาง...มีความรู้ ประสบการณ์ ทักษะต่าง ๆ ก็ไม่แพ้กับเด็กรุ่นใหม่ ๆ เลย เพราะยังเคยแซวน้อง ๆ ในที่ทำงานด้วยว่า...เงินเดือน ค่าตอบแทนของพวกเธอจะเท่ากับเงินเดือนของพวกพี่แล้ว ขนาดระยะเวลาการทำงานของพี่ทำงานให้กับรัฐมาถึง ๒๕ ปีแล้วนะเนี่ย!!!...น้อง ๆ ก็ได้แต่ยิ้มและก็เห็นด้วยว่า...ภาครัฐควรปรับเงินเดือนทั้งระบบ..."ขนาดเด็กรุ่นใหม่ เขาก็ยังคิด...ว่าควรปรับทั้งระบบ แล้วภาครัฐล่ะ คิดเช่นไร?"...ไม่ใช่ว่า พอคิดแล้วเห็นเม็ดเงินที่จะต้องใช้ให้กับข้าราชการทั้งระบบ แล้ว ตกใจเลยล่ะ"...ถ้าเช่นนั้น ก็ยังไม่ควรจะปรับ...เพราะทุกคนทำงานให้กับภาครัฐเช่นกัน...ไม่ควรเลือกปฏิบัติ...อย่าลืมว่า!!!...ข้าราชการทุกคนมีภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพเหมือนกันทุกคน...ในช่วงสถานการณ์ที่แต่ละบุคคลแบกรับภาระอาจมีความแตกต่างกัน...แต่จงเข้าใจว่า...ทุกช่วงสถานการณ์ของแต่ละคนนั้นมีภาระค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งสิ้น...ไม่มีสถานการณ์ช่วงไหนที่ต้องการค่าครองชีพสูงกว่ากันเลย...

                    ได้ข่าวมาว่า ภาครัฐจะปรับให้ทั้งระบบ ก็หวังว่า...คงเป็นเรื่องจริง มิใช่ข่าวลือ...ใช่ว่า ผลออกมาปรับให้เพียง ๕ % ต่อ ๑ ครั้ง แล้วอีก ๑๐ ปี ก็ปรับให้อีก แบบนี้ก็ไม่ควรทำ ผู้เขียนทราบว่า ภาครัฐต้องใช้เงินจำนวนมาก...แต่ถ้าจะให้ยุติธรรม ก็ควรปรับให้ทั้งระบบ ถ้าเงินมีจ่ายไม่พอ ก็ยังไม่ควรทำ เพราะถ้าทำให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้ว ก็ควรรีบทำให้กับอีกกลุ่มโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรม...เหตุที่เขียน เนื่องจากเป็นประสบการณ์ที่ตนเองได้รับ เมื่อประมาณ ๕ ปี ที่แล้ว ภาครัฐปรับให้เพียง ๕ % แล้วก็หายเงียบไปเลย แต่ก็มาปรับให้กับผู้ที่ได้รับการบรรจุ (ใหม่) และมีวุฒิการศึกษาสูงขึ้นนี้ประมาณ ๔ ครั้งแล้ว ซึ่งเรียกว่า...ไม่ยุติธรรม...ต่อข้าราชการเดิม...มีบางคนบอกว่า...ข้าราชการเก่าเงินเดือนสูงแล้ว ไม่ควรได้เงินเดือนสูงอีก...ฝากให้คิดว่า..."ใช่หรือไม่"..."ถูกต้องแล้วหรือ"...แต่ก็ยังมีบางส่วนราชการที่ภาครัฐขึ้นเงินเดือนให้เพิ่มขึ้นมากกว่าข้าราชการอีกส่วนราชการหนึ่งทั้งที่อยู่ในกระทรวงศึกษาธิการเช่นกัน ปรับให้มากกว่าถึง ๓ % นี่ก็ไม่เป็นธรรมอีกเช่นกัน...แล้วอะไร? ล่ะ ที่จะทำให้ระบบการทำงานภาครัฐเกิดความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติสำหรับการทำงานภาครัฐ เพราะทุก ๆ คน ที่เป็นข้าราชการก็กินเงินภาษีของประชาชนเช่นเดียวกัน...ภาระรับผิดชอบในเรื่องการทำงานก็แตกต่างกันสำหรับบางส่วนราชการ

                ถึงเวลาแล้วหรือยัง...ที่ภาครัฐจะรื้อระบบเงินเดือนของข้าราชการใหม่ทั้งระบบ ไม่ใช่ทำแต่เพียงบางส่วนราชการเท่านั้น...เหตุที่เขียนเพราะต้องการเห็น "การบริหารจัดการของภาครัฐ" เป็นไปด้วยความยุติธรรม ถูกต้อง ไม่เลือกปฏิบัติ แล้วจะทำให้สังคมการทำงานเต็มไปด้วยความสุขทั้งที่บ้านและความสุขจากที่ทำงานตามที่ภาครัฐต้องการ...สำหรับครั้งนี้ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ พนักงานราชการก็ได้ปรับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกับข้าราชการใหม่...และก็ยังมีอีกสำหรับค่าตอบแทนใหม่ ณ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ เช่นเดียวกับข้าราชการใหม่เช่นกัน ศึกษารายละเอียดได้ตามหนังสือด้านล่างนี้..."ยินดีด้วยค่ะที่ได้รับค่าตอบแทนใหม่...แต่อย่าลืม!!! ภาครัฐให้สำหรับเป็นค่าครองชีพนะคะ...ไม่ใช่เห็นว่า ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นแล้วก็สร้างภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นตาม...แบบนี้...ภาครัฐให้เท่าไรก็คงไม่พอหรอกค่ะ...เพราะทำงานบุคคลงานนาน เห็นเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า...พอเงินเดือนขึ้น ค่าตอบแทนขึ้น ก็มาขอให้งานบุคคลรับรองเงินเดือนเพื่อไปทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินต่าง ๆ...โปรดอย่าเห่อไปตามกระแสวัตถุนิยมเลยค่ะ (ใช้เท่าที่จำเป็นและรู้จักพอ ใช้ชีวิตที่พอเพียง พอสำหรับฐานะการเงินของเราเอง)...เพราะไม่เช่นนั้น...เงินเดือน ค่าตอบแทนมากเท่าไร ก็ไม่รู้จักพอหรอกค่ะ...

หนังสือคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ ที่ นร ๑๐๐๘.๕/๗ ลงวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เรื่อง การปรับค่าตอบแทนพนักงานราชการ

[ครูนอกระบบ]

     เห็นด้วยค่ะ ทำงานมานานปรับค่าตอบแทนพนักงานราชการทั้งคนเก่าและคนใหม่เท่ากัน  ที่สำคัญเด็กรุ่นใหม่มองไม่เห็นเรา(ข้ามหัว) ถือว่าค่าตอบแทนเท่ากัน ความรู้ ป.ตรีเท่ากัน รัฐบาลน่าจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาที่เป็นการสรา้ง ขวัญ และกำลังใจบุคลากรที่ทำงานมานานหลายปีด้วยจึงจะถูกต้อง  (แต่ต้องดูว่าอยู่นานเพราะทำงาน ไม่ใช่ทำงานอยู่นานแบบเช้าชาม เย็นชาม   สมควรไม่ต้องขึ้นค่าตอบแทนให้ จะได้รู้ว่าไม่ทำงานก็ไม่ได้รับขวัญ  กำลังใจและการดูแลจากผู้บังคับบัญชาค่ะ)  

                                                          

[บุษยมาศ]

ตอบ ครูนอกระบบ 

           ในการปรับเงินเดือน ค่าตอบแทนให้สำหรับผู้ที่จบวุฒิการศึกษา ตรี โท เอก เมื่อปรับให้ทุกคน ก็ควรปรับให้กับข้าราชการเดิมทุก ๆ คน เช่นกัน เพราะถ้าเลือกปรับเช่นที่คุณบอก นั่นคือ การประเมินผลของการเลื่อนขั้นเงินเดือน แต่สำหรับกรณีนี้เป็นการปรับให้กับค่าครองชีพ ควรปรับให้เท่ากันทุกคน ไม่ว่าจะพัฒนาหรือไม่พัฒนา เพราะเป็นการปรับกันทั้งระบบเกี่ยวกับเรื่องค่าครองชีพ...สำหรับข้าราชการที่ปฏิบัติยังเช้าชามเย็นชาม ควรนำไปคิดในกรณีของผลการพิจารณาเงินเดือน เพราะคนละประเด็นกันค่ะ...เพราะคนที่บรรจุใหม่ เราก็ไม่สามารถทราบได้ว่า เขาทำงานกันดีมีคุณภาพกันทุกคนหรือไม่ (วัดยากมาก) เพราะเท่าที่เห็นบางคนก็เป็นเช่นข้าราชการเช้าชามเย็นชามเช่นกัน แต่เขาจะไปมีผลในการเลื่อนค่าตอบแทนตอนช่วงพิจารณาความดี ฯ ค่ะ...ก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่า...ควรปรับให้เท่ากันทั้งระบบค่ะ การประเมินความดี ฯ ก็ขึ้นอยู่กับระบบคุณธรรมของผู้บริหารส่วนราชการด้วยว่ามี "คุณธรรม" ยุติธรรมมากน้อยเพียงใดค่ะ

[เอกชัย กศน.ผักไห่]

ขอเรียนถามว่า ลูกจ้างประจำ จะได้ปรับค่าจ้างในวันที่ 1 มกราคม 2556 อย่างไรครับ

[บุษยมาศ]

ตอบ คุณ เอกชัย กศน. ผักไห่ 

ตอนนี้ ต้องรอหนังสือสั่งการค่ะ เนื่องจากเงินเดือนของข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ อยู่ในหมวดเงินงบบุคลากร เมื่อขึ้นให้ ข้าราชการ พนักงานราชการแล้ว ซึ่งตอนนี้มีหนังสือสั่งการมาให้ปฏิบัติแล้ว เหลือแต่หนังสือสั่งการของลูกจ้างประจำค่ะ คิดว่าคงส่งมาให้ส่วนราชการปฏิบัติเร็ว ๆ นี้แหล่ะค่ะ...รอนิดหนึ่งค่ะ คงอยู่ระหว่างการดำเนินการแจ้งมาค่ะ แต่ถ้ามาแล้ว มรพส. ได้รับมาเมื่อไรจะนำมาแจ้งให้กับลูกจ้างประจำได้ทราบกันค่ะ

[นงนาท สนธิสุวรรณ]

อยู่อย่างพอเพีนง...ชีวิตเป็นสุขอย่างมั่นคงนะคะ

[บุษยมาศ]

ใช่ค่ะ พี่นงนาท 

แต่คนสมัยนี้ ชอบเห่อตามกระแสวัตถุนิยมเสียจริง ๆ ค่ะ ไม่ค่อยดูที่กะตังค์ในกระเป๋าตัวเอง

[เอกชัย กศน.ผักไห่]

ขอบคุณมาก ๆ ครับ ( จะคอยนะครับ )

[พนักงานราชการ]

การปรับค่าตอบแทนพนักงานราชการ ตั้งแต่ 1 ม.ค.56 จริงๆ แล้วไม่ได้ปรับหมดทั้งคนเก่า คนใหม่  พนักงานราชการที่บรรจุมานานแล้ว เงินเดือน ประมาณ 14,400 บาท ลองคิดค่าตอบแทนดูนะค่ะว่าจะได้รับการชดเชยตามที่ ระเบียบออกมาหรือเปล่า เราทำงานมานาน แต่ค่าตอบแทนไม่ขยับ สำหรับผู้ที่บรรจุใหม่ 1 ม.ค.56 วุฒิ ปวส. จะได้รับประมาณ 12,000 บาท  แต่เราทำงานเป็นพนักงานราชการมาตั้งแต่ปี 2547 คิดดูแล้ว บางรายค่าตอบแทนน้อยกว่าเดิม บางรายเท่าเดิม แล้วระเบียบออกมาว่าปรับทั้งระบบ ชดเชย 0.67 ให้ผู้ที่บรรจุก่อนได้อย่า่งไร  แบบนี้ ไม่ยุติธรรมเลย ไม่รู้ค่ะว่าออกระเบียบมาไ้ด้อย่างไร  ลองถามไปที่ สำนักงาน กพ.แล้ว ก็ได้คำตอบว่า บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้  แล้วจะออกระเบียบมาทำมั้ยว่า ชดเชยให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบที่บรรจุก่อน หากจะปรับค่าตอบแทน น่าจะปรับทั้งระบบ แบบนี้ คนที่ได้รับบรรจุใหม่ ค่าตอบแทนเกือบเท่ากับคนที่บรรจุมาแล้ว 8 ปี ยุติธรรมดีนะคะ ขวัญกำลังใจของคนทำงานอยู่ที่ไหนค่ะ  ถ้าสำนักงาน กพ. จะปรับค่าตอบแทน ก็ควรจะปรับทั้งระบบและชดเชยให้คนที่บรรจุก่อนด้วย ตอนเราบรรจุ เมื่อปี 2547 วุฒิ ปวส.เราได้ประมาณ 8,000 บาท ปัจจุบันประมาณ 12,000 บาท แล้วไม่ชดเชยให้เรา

[ใครอยากย้ายกลับภูมิลำเนาบ้างค่ะ ยกมือขึ้น นับดูแล้วก็เยอะอยู่นะค่ะ]

ณ ขณะนี้ยังไม่มีระเบียบใดๆ ที่สามารถให้พนักงานราชการสามารถโอน หรือ ย้าย กลับภูมิลำเนาได้ เว้นเสียแต่หน่วยงานที่ท่านทำงานอยู่ ให้ไป ช่วยราชการ ดิฉันเป็นพนักงานราชการคนหนึ่งที่ทำงานมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550 บรรจุเป็นพนักงานราชการ อยู่ กทม. ก็เบื่อหน่ายสุดๆๆๆ ค่ะ อยากย้ายกลับบ้านมาก ด้วยภาระการเงิน ครอบครัว อยากให้ออกระเบียบให้พนักงานราชการสามารถโอนย้ายไปต่างจังหวัดได้ นะค่ะ 

[บุษยมาศ]

ตอบ คุณพนักงานราชการ

        ข้าราชการก็เป็นเช่นกับพนักงานราชการนั่นแหล่ะค่ะ คนที่ทำงานมานานไม่ได้ขึ้นเช่นกันค่ะ...การโยกย้ายพนักงานราชการ น่าจะทำไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นสัญญาจ้างไงค่ะ เป็นการจ้างเฉพาะของแต่ละหน่วยงานค่ะ ไม่สามารถโยกย้ายได้ ระเบียบไม่เหมือนข้าราชการค่ะ เพราะคำจำกัดความก็แตกต่างกันอยู่แล้วค่ะ...ถ้าต้องการกลับบ้านก็ต้องไปสอบเข้าในหน่วยงานที่ใกล้ ๆ บ้านของเราค่ะ

[บุคคลทั่วไป]

อยากทราบว่าปัจจุบันมีการบรรจุเป็นข้าราชการรึป่าวค่ะ หรือว่ามีแค่พนักงานราชการค่ะ

[บุษยมาศ]

ตอบ บุคคลทั่วไป

        มีเป็นบางส่วนราชการค่ะ สำหรับมหาวิทยาลัย ไม่มีแล้วค่ะ จะได้กรอบอัตรากำลังเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย กับ พนักงานราชการที่ได้มาจากการเกษียณอายุของลูกจ้างประจำค่ะ

[วินนี่]

ทำงานมานานเงินเดือนไม่เพิ่ม เด็กรุ่นใหม่ทำไม่กี่วัน เงินเดือนจะข้ามหน้าแล้ว นี่และสังคมไทยกับรํฐบาลชุดนี้

[กร]

เมื่อไรจะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานราชการครับทีพนักงานมหาวิทยาลัยยังมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเลย

[สุรชัย]

พนักงานราชการจะมีโอกาสเป็นแบบลูกจ้างประจำมั้ยครับคือว่าพ่อแม่ลูกเมียเบิกได้และมีบำนาญ….

[สุรชัย]

ผมอยากทราบว่าพนักงานราชการจะมีโอกาสมีสิทธิเหมือนลูกจ้างประจำมั้ยครับ…เกี่ยวกับการเบิกค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ลูกเมียค่าการศึกษาบุตรและบำเน็จบำนาญเเบบลูกจ้างประจำ…กรุณาช่วยตอบด้วยครับ!

[mooba]

อยากทราบว่าเมื่อไรพนักงานราชของกรมอาชีวถึงจะได้รับเงินเดือนที่ปรับขึ้นสักทีค่ะ