ความสุขเล็กๆ


           เงียบไว้...เย็นไว้... ไม่โต้ตอบ... เป็นความรู้สึกส่วนลึก หรือคำสั่งในสมองส่วนใด มิอาจรู้ได้ แต่มันอัตโนมัติทุกครั้ง ที่พวกเรา ชาว ER” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือแม้แต่คนงาน ก็ตาม ทุกสถานการณ์ สิ่งแวดล้อมในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ มันต้องเร็ว...รีบร้อน...เร่งรีบ อยู่ตลอดเวลา นาทีต่อนาที ทุกอย่างกลายเป็นความต้องการ ที่รวดเร็วเกือบเสียทั้งหมด ดีที่สุด...ผิดพลาดน้อยที่สุด แต่เหมือนจะถูกลืมเลือนไป ว่าเราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แรก ๆ เมื่อจบมาใหม่ การทำงานของแพทย์และพยาบาล เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และความท้าทาย….อยู่เสมอ..


   


           หลายปีผ่านไป  9ปี ... 10ปี ความรู้สึกเหล่านี้ แม้มันจะมืดหาย เหมือนจะดับมอดเป็นพัก ๆ แต่มันก็ยังคงมีกลิ่นอายอยู่บ้าง “Safe life”พวกเราทำได้ทุกอย่าง... ไม่สิ พวกเราต้องทำให้ได้ต่างหาก แม้บางครั้ง สภาพแวดล้อม การเรียกร้องสิทธิ์ที่มันเกินพอดี มันดิบ...เถื่อน เกินกว่าจะบรรยาย ในงาน Emergency Room

            ผู้รับบริการ ญาติ และทุกคน เรียกร้องให้เคารพ ในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่เขาคงจะลืมไปว่า มันคือสิ่งที่เราทุกคนมีเหมือน ๆ กัน พวกเราตระหนักดีว่า เราไม่มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายร่างกายและจิตใจของใคร ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่หลายสิ่งที่เราได้รับ จากผู้ป่วยและญาติ ผู้ซึ่งเป็นลูกค้าของเรา วาจาก้าวร้าว การพูดจาที่ดูถูกวิชาชีพ และศักดิ์ศรี ฯลฯ หรือว่าบางที ความมีน้ำจิตน้ำใจ ของผู้คนสมัยนี้ มันเบาบางเหลือเกิน

                     “ โอ๊ย... เจ็บนะโว๊ย ”

                     “ แกล้งผมทำไม เป็นหมอมั่งจะเจ็บมั้ย ”

                     “ เร็ว ๆ หน่อยสิ จะตายอยู่แล้ว ”

                     “ หมอ..ใหญ่.....อยู่ไหน ”

                     “ ผอ. อยู่ไหน จะฟ้อง ”  ฯลฯ

              แล้วตามด้วยคำด่า คำต่อว่าต่อขาน ทุกรูปแบบ การแซงคิว การให้ช่องทางแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน และรุนแรง มีดปักท้อง เด็กชัก ใส่ท่อช่วยหายใจ CPR ฯลฯ ที่พวกเรากุลีกุจอ ทำด้วยความตั้งใจ และเต็มที่ เราก็จะถูกด่า และต่อว่าต่อขาน อยู่บ่อยๆ แม้ว่าเราจะมีป้ายบอก ที่ชัดเจน มีการแจ้งและประชาสัมพันธ์... มีภาพความวุ่นวายให้เห็นอยู่....จะ...จะ... มันคงเป็นธรรมชาติ ของความต้องการของมนุษย์ ที่ปัญหาของตนเอง ต้องสำคัญ และยิ่งใหญ่ก่อนเสมอ


   


                 เมื่อมี Risk (ข้อร้องเรียน) มันคือ ความเครียด และความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างแสนสาหัส ในหลาย ๆ คน บ่อยครั้ง ความผิดถูกโยนให้ กับความเป็นอัตลักษณ์ และปัจเจคบุคคล และการอ่อนด้อยของการสื่อสาร (Communication) แต่จะมีสักกี่คนไหม ที่ถามพวกเราว่า...ไหวไหม...เหนื่อยไหม...ท้อแท้ใจแค่ไหน...เรารู้สึกอย่างไร...พี่จะช่วยอะไรได้บ้าง...หรือขอแค่คำปลอบใจ...การรับฟัง แค่เข้าใจเราเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอ... ถึงแม้งานหน้าตัก ที่เราไม่สามารถกำหนดได้ ความเครียด ความเค้น ในแต่ละวัน แต่ละเวร และภาระความรับผิดชอบ ที่หัวหน้าเวรแบกไว้ แล้วแต่โชค และดวงของวันนี้...  เวรนี้...

                การออกคำสั่ง และคำแนะนำ เป็นอีกเรื่อง ส่วนการกระทำตาม ทำได้หรือไม่ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งจริง ๆ

                     “ เวรบ่ายยุ่งมาก  2  Tube เลยพี่ มีออก EMS ด้วย ”

                     “ เมื่อคืน ER แทบจะแตก สติแตก ไม่ไหวจริง ”

                     “ เมื่อไหร่จะเพิ่มคนให้เราซักที ”

                     “ เมื่อคืน เวรบ่ายลงเวรตี 2 ยังไม่ได้ลง point เลย ”

                     “ เช้านี้มึนหัว ตากลับ ไม่ไหวแล้วพี่ ”

                     “ เมื่อคืน ตาม ward ออกมาช่วย 2 รอบ ”

                     “ เมื่อคืนมีปัญหา ............ฯลฯ ”


   


                  เสียงบ่น...เสียงรำพึง รำพัน...  ที่ได้ฟังทีไร ก็ไม่เคยชินเสียที โดยเฉพาะ น้องเวร” ความเหนื่อยล้า คงจะเกินขีดจำกัดของร่างกาย ตามอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี  เหลือก็แต่หัวใจดวงเล็ก ๆ ที่จำเป็นต้องสู้ต่อไป

                    ในเลวก็ยังมีดี... ในความโชคร้าย ก็มีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ เหมือนที่ว่ากันว่า  ไม่มีสีขาว..สีดำ  จริงๆ หรอก  มีก็แต่สีเทา ให้เราปรับตัวอยู่ได้

              หลายครั้ง...ที่ความเหนื่อยล้า...ที่ความหนักอึ้ง... ตอบแทนด้วยรางวัลที่ได้รับเล็ก ๆ น้อย ๆ การบอกลา...การยิ้มแย้ม ของผู้ป่วยและญาติ สีหน้าแช่มชื่น ความรู้สึกพอใจ ความรู้สึกเจ็บปวดที่บรรเทา ความเวทนาน่าสงสารที่ได้รับการเยียวยา หลาย ๆ คำขอบคุณ... หลายมือพนม... ของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแม้แต่ความรู้สึกที่พวกเรา ให้เขาได้ดีที่สุด แผลที่หายดี คนป่วยที่ D/C

                “ กลับก่อนนะคะ/ครับ หมอ ”

                “ ขอให้หมอเจริญ เจริญนะ ”

                “ อายุมั่น ขวัญยืน นะลูก ”

                “ ขอบคุณค่ะ/ครับ ”  ฯลฯ 

         เหล่านี้ คือ ความสุขเล็ก ๆ ที่อยู่ในส่วนลึก ๆ  ที่เป็นน้ำหล่อเลี้ยง ให้เราอยู่ได้ด้วยความ พอใจ...ภูมิใจ...พึงใจ  เพียงรอยยิ้มเล็ก ๆ เชื่อเหลือเกินว่า จะทำให้หลายคนหายเหนื่อย...กับความสุขเล็ก ๆ ที่อยู่ลึก ๆ ที่ผู้ป่วยรอด  ...  ญาติพอใจ

          ER  เราอาจเป็นหน่วยตั้งรับ เชิงรุกได้ไม่ชัดเจนนัก แต่นั่นแหละ งานใคร....... ก็ยิ่งใหญ่ในงานของมัน อาชีพอย่างเรา ๆ เป็นอาชีพที่ละเอียดอ่อน แต่จะบอกให้ ...  ชีวิตมีทางเลือกเสมอ

You have two choice  ถ้าเราคิดว่างานคือความสุข ชีวิตก็สุข ความสุขหาได้กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ... 


    


ท้ายนี้ ขอฝากข้อคิด จากการทำงานให้สัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์ (ว.วชิรเมธี 2553)

                   1.  งานทุกงาน มีรางวัลในตัวของตัวเอง จงหาให้พบ เราจะมีความสุข

                   2.  การทำงานหนัก ช่วยให้นอนหลับอย่างมีความสุข ดีกว่าไม่มีอะไรทำ

                   3.  สนุกกับงานที่ท้าทาย อย่ายอมทนอยู่เพื่อทำอะไรง่าย ๆ

                   4.  ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และมองการเปลี่ยนแปลงคือโอกาส

                   5.  อย่าวัดความก้าวหน้าจากเงินเดือน การเลื่อนขั้น หรือตำแหน่ง (จงศรัทธาในตนเอง)

                   6.  คิดเสมอว่า เขาและเรา ทำให้สำเร็จได้

                   7.  เราคือทรัพยากรที่มีค่าขององค์กร

                   8.  อย่ากลัวปัญหา และอุปสรรค เพราะปัญหาและอุปสรรค คือความท้าทาย

ท้ายนี้ เราหวังว่า พวกเราชาวโรงพยาบาลแก่งคอย จงทำงานให้สัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์

                                              อัญชุรีย์  มันตะเข...งานอุบัติเหตุฉุกเฉิน


หมายเลขบันทึก: 522178เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2013 15:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม 2013 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ให้กำลังใจทุกคนนะคะ

ให้มีกำลังใจ...สร้างได้ด้วยตัวเอง  ยืนนาน ๆ เติมกำลังใจตัวเองบ่อย ๆ นะคะ

ขอบคุณบทความดี ๆ สะท้อนความเป็นตัวจริง  เสียงจริงมาก ๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณชยันต์ เพชรศรีจันทร์  ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา  ความสุขเล็กๆที่พวกเรามีหาได้จากตัวเรานี่เองค่ะ  กำลังใจที่ยิ่งใหญ่คือกำลังใจจากตัวเราเอง  เติมได้ตลอดเวลา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท