ช่วงนี้ศึกษานิเทศก์ทุกคนในเขตฯ กำลังถูก "ความเครียด" รุมเร้า เนื่องจากภารกิจรอบด้านที่รัดตัว ดิฉันเองถึงขั้นนอนไม่หลับ บางครั้งนอนไม่หลับติดต่อกันถึง 3-4 คืน หลังจากนั้นจะเกิดอาการปวดบีบบริเวณขมับ
ซึ่งช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาดิฉันมีอาการปวดสะบักไหล่ร่วมด้วย เนื่องจากนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานเกินไป จนถึงกับต้องเข้ารับการรักษาอาการเจ็บป่วยดังกล่าวด้วย "การนวดกดจุด" ที่ศูนย์การแพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลบางปลาม้า จึงได้ทุเลาลงบ้าง
นึกย้อนไปว่าเมื่อช่วงรวมตัวกันเป็นเขตฯ ใหม่ ๆ ดิฉันเคยมีอาการเช่นนี้เหมือนกัน ซึ่งคิดว่าเจ้าตัว "ความเครียด" นี้น่าจะเป็นต้นเหตุหนึ่งของโรคเกี่ยวกับ "หูชั้นใน" ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของดิฉันไปแล้วในขณะนี้ด้วย
พอรู้สึกว่าเครียดเต็มที่ จะทำให้รู้สึกอยากปล่อยวางขึ้นมาทันที ช่วงนั้นสบโอกาสเหมาะที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีโครงการให้ข้าราชการได้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยไม่ถือเป็นวันลา ซึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ก็มีวัดให้เราเลือกเข้าร่วมปฏิบัติธรรมได้โดยช่วงเวลาของแต่ละวัดนั้นไม่ตรงกัน
ดิฉันตัดสินใจเข้าร่วมโครงการด้วยมุ่งหวัง "ใช้ธรรมะละลายความเครียด" โดยเลือกช่วงวันที่ดิฉันพอจะทิ้งงานยุ่ง ๆ ไปได้สักระยะ จึงลงตัวที่ช่วงวันที่ 7-11 กรกฎาคม 2547 ซึ่งเป็นการปฏิบัติธรรม ณ วัดเขากำแพง อ.อู่ทอง
การเข้าร่วมปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นในครั้งนั้น ช่วยให้ดิฉันคลายความเครียดลงไปได้เยอะ เป็นการใช้เวลา 6 วันเพื่อฝึกจิตให้สะอาด สว่าง สงบ ได้ระดับหนึ่งทีเดียว และการที่ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ ได้ทำให้ตัวเองสัมผัสถึง "คุณงามความดี" ของพระภิกษุรูปหนึ่ง นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหากมลศิลป์ กมสินโน เจ้าอาวาสวัดเขากำแพง ซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสุวรรณประชานุกูล นั่นเอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดิฉันสังเกตว่า "หลวงพ่อ" เป็นภิกษุที่สมถะ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยเมตตา และมีวิญญาณของครูอยู่ในกายและใจเสมอ ดูเหมือนท่านจะยึดถือ "ความกตัญญูรู้คุณ" เป็นที่ตั้ง และสิ่งที่ "หลวงพ่อ" ปฏิบัติอยู่เสมอคือการเป็น "ผู้ให้" ซึ่งดิฉันจะกล่าวถึงในด้านการให้แก่วงการศึกษา
โรงเรียนบ้านเขากำแพง สังกัด สพท.สุพรรณบุรี เขต 2 ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัด ได้รับการอุปถัมภ์จากท่านเป็นอย่างมาก นักเรียนได้รับทุน วัสดุ-อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า อาหาร อยู่เป็นประจำ ล่าสุดท่านมอบทุนทรัพย์ให้สร้างอาคารเรียนพร้อมติดตั้งจานดาวเทียมและเครื่องรับโทรทัศน์ให้กับนักเรียนทุกห้องเรียนด้วย
ไม่เพียงแต่นักเรียนของโรงเรียนใกล้วัดแห่งนี้เท่านั้น นักเรียนของโรงเรียนทั่วไปที่กระจายอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีหลายร้อยแห่ง ต่างก็ได้รับความเมตตาจากท่านเช่นกัน นอกจากท่านจะสนับสนุนการศึกษาด้วยการยกระดับด้านกายภาพ อันเป็น "รูปธรรม" แล้วทางด้าน "นามธรรม" ซึ่งเป็นการยกระดับจิตใจ ท่านก็ไม่ได้ละวาง
ท่านมีกุศโลบายที่จะดึงนักเรียน ครู ผู้บริหารฯ เข้าวัดอยู่เสมอ โดยเป็นผู้ให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของพวกเรา เรียกว่า ขอให้เข้ามาจัดกิจกรรมที่วัดเถอะ ทางวัดมีข้าวปลาอาหารเลี้ยงทุกคนได้ทุกงาน แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ... ลูกศิษย์ลูกหาของท่านเยอะแยะจากทั่วสารทิศพร้อมให้การสนับสนุน นำอาหารมาเลี้ยงเด็ก ๆ ได้ทุกงานที่เราไปจัด เช่น ค่ายคุณธรรมนำอัจฉริยะ โครงการคุณธรรมนำอาชีพ โครงการคุณธรรมนำความรู้สู่ความดี โครงการทุกวันพระพาเด็กเข้าวัด โครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติ โครงการศีลจาริณี ฯลฯ
ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละครั้ง ท่านจะสอดแทรกเรื่องการปลูกฝังคุณธรรมผ่านธรรมะไปสู่เด็ก ๆ เยาวชนเสมอ รวมไปถึงครูและผู้บริหารฯ ด้วย หลายครั้ง "หลวงพ่อ" ลงไปร่วมเป็นวิทยากรด้วยตนเอง และที่เห็นท่านลงไปสอนธรรมะให้กับเด็ก ๆ อยู่เป็นประจำ ก็คือ ที่โรงเรียนบ้านเขากำแพงนั่นเอง
ดิฉันเคยมีโอกาสนั่งฟัง "หลวงพ่อ" ท่านพูดคุยกับเด็ก ๆ นอกจากจะได้ยินท่านพร่ำสอนให้ประพฤติดี ประพฤติชอบแล้ว ที่ขาดไม่ได้ทุกครั้งท่านจะพูดให้เด็ก ๆ ระลึกถึง "พระคุณของพ่อแม่" อยู่เสมอ นักเรียนทุกคนที่กลับออกไปจากวัดจะได้รับขนมหรือผลไม้ติดมือกลับไปฝากพ่อแม่ของตัวเองทุกครั้ง
"หลวงพ่อ" เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนในเรื่องของการศึกษาเป็นเวลาผ่านมานานหลายปีแล้ว และวันนี้รวมถึงวันข้างหน้าท่านก็ยังคงเป็น "ผู้ให้" อยู่เสมอ โดยเฉพาะการให้ทาง "ปัญญา" แก่พวกเรา เคยมีการพานักเรียนระดับมัธยมฯ ต้น ที่เข้าขั้นเกเรจนครูชักจะดึงไว้ไม่อยู่แล้ว มาเข้าค่ายบวชเป็นสามเณรที่นี่ หลังสึกแล้วกลับกลายเป็นเด็กที่ "เอาถ่าน" กับเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะ "หลวงพ่อ" ท่านมีกุศโลบาย และมีจิตวิทยาในการเข้าถึง "กิเลส" ของเด็ก ๆ เหล่านั้นนั่นเอง
ได้ยินว่าทางวัดกำลังมีโครงการให้ครู ผู้บริหารฯ ไปปฏิบัติธรรมที่วัดในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งโรงเรียนปิดภาคเรียนแล้ว ดิฉันวางแผนไว้ว่าจะขอเข้าร่วมปฏิบัติธรรมด้วย เพราะช่วงนี้ "เครียด" เหลือเกินจนรู้สึกว่าอยากจะหนีไปอยู่วัดแล้วล่ะค่ะ....
ตามมาพบบันทึกดีๆนี้ได้เพราะ GotoKnow แม้ๆเชียวค่ะ ขอบคุณคุณปวีณาที่นำมาเผยแพร่ค่ะ เรื่องดีๆของคนดีๆทำให้เรามีพลังจริงๆนะคะ
ขอให้ผลบุญกุศลที่คุณปวีณาได้นำมาเผยแพร่นี้ จะช่วยดลบันดาลให้ "หายเครียด" ได้นะคะ และขอนำบันทึก"เพียงเพื่อกำลังใจ"มาฝากค่ะ อยู่ทำประโยชน์ให้บ้านเราก่อนสักพัก แล้วค่อยไปอยู่วัดทีหลังนะคะ
รักเขากำแพง
ท่านให้ชีวิตให่มกับผมท่ามมีบุญคุณกับผมมากรวมถึงโยมทุกๆคนที่อยู่ที่วัดเช่น ป้าทิน ป้าอ้วน ลุงสิต และทุกๆคน
ท่ามีโอกาสผมอยาจะไปกลาบท่าน.................(อชิตะ)