หน้าแล้งที่ผ่านมาฝนทิ้งช่วงร่วม ๕๐ วัน(๓ มี.ค- ๒๐ เม.ย.) อุณหภูมิสูงสุดเมือต้นเดือนเมษายน ๔๑.๒ C และที่คนดูแลสวนรายงานว่าต้นยางตายประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ ต้น นั่นจริงเท็จอย่างไร เมื่อสงสัยจากข้อมูลประมาณการ เลยใช้คน ๓ คน เวลา ประมาณ ๑๒ ชม. นับดูพบว่าต้นยางอายุประมาณ ๖-๑๑ เดือนตายไปเฉลี่ย ๒๓% ขึ้นปีที่ ๒ ต้องปลูกซ่อมกันอีกรอบ รอให้ถึงฤดูฝนแบบเต็มตัวซะก่อน ยังไม่สาย แต่งานนี้เสียหายนับแสนบาท เลยทีเดียว
จากการประเมินเบื้องต้น หลังจากปลูกยาง ๒ พันธุ์ คือพันธุ์ RRIT 251 และ RRIM 600 พบว่า พันธุ์ยาง RRIT 251 ไม่เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่แห้งแล้งยาวนานอย่างพื้นที่ภาคเหนือครับ (แล้งตั้งแต่ พย. ธค. มค. กพ. เม.ย. ร่วม ๕ เดือน) ปรากฏว่า RRIT 251 มีอาการต้นตาย เปลือกแห้ง แต่ RRIM 600 สามารถทนอยู่ได้มากกว่า อัตราการเจริญเติบโตดีกว่า แม้ RRIT 251 จะให้ผลผลิต ต่อไร่ ต่อปี จะดีกว่า แต่คงไม่ใช่ในที่แล้งจัดอย่างพื้นที่ภาคเหนือ ถ้าเป็นพื้นที่ปักษ์ใต้ (ที่มีฤดูแล้งยาวเเพียง มี.ค. - เม.ย.) ผลผลิตย่อมดีกว่าแน่นอน แต่คงไม่ใช่ที่แล้งยาวตั้ง ๕ เดือน ดังกล่าว
ดีจังค่ะ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะคะ
รออ่านบันทึกต่อไปค่ะ