ในบทความนี้ มีสองเรื่องที่เป็น 'คนละเรื่องเดียวกัน' คะ
เรื่องแรกขอใช้พื้นที่บันทึก ประสบการณ์เป็น (หนึ่งในทีม) editor หนังสือวิชาการ Palliative care ว่าทำอะไรบ้างคะ
เรื่องที่สองเป็นที่มาของคำว่า 'ชีวิตช่วง editing' :)
------------------------------------------------------------
เรียนรู้งาน Editor
1.ขั้นเตรียมการ
1.1.ร่วมกันวางเค้าโครง theme ของหนังสือ
1.2. ออกจดหมายเชิญผู้ทรงคุณวุฒิส่งบทความ พร้อม 'คำแนะนำสำหรับเขียนต้นฉบับ' และ 'แนวทางเขียนอ้างอิง
จุดสำคัญเพราะแก้ภายหลังยากคือ อ้างอิงจะเอาแบบ อ้างอิง-citation (มีตัวเลขยกหรือวงเล็บท้าย)
หรือ บรรณานุกรม-Biblography (บอกแต่รายชื่อบทความ หนังสือที่อ้างถึง)
2.ขั้นติดตามรวบรวมบทความ
หากเป็นผู้เขียนจากหลายสังกัด ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาเป็นปี และปวดหัวที่สุด บทเรียนสำคัญคือ
2.1 ควรหลีกเลี่ยงการส่งต้นฉบับทางอีเมล์ เพราะต้นฉบับหายเพราะเข้า junk บ้าง สับสนฉบับใหม่เก่าบ้าง การส่งเป็น CD ก็สูญหายง่าย กว่าจะรวมต้นฉบับครบ
2.2 การให้ส่ง submit online น่าจะดีกว่า เพราะเป็นระบบและสามารถขอ email/โทรศัพท์ติดต่อกลับภายหลังได้ด้วย
ภาพหน้าเวบไซต์ joomla ที่สร้างแบบฟอร์มโดย Proforms basic
3. ขั้นตรวจทานและส่งพิมพ์
3.1. ส่วนของเนื้อหา : มักไม่มีปัญหา ที่พบบ่อยคือสำนวนพูด เช่นต้องตัดคำว่า "ก็"
3.2 ส่วนของรูปภาพ แผนผัง ตาราง: ที่เจอบ่อยคือเนื้อหาไม่ได้กล่าวถึงรูป/แผนผัง/ตาราง ที่นำมาแทรก
และ รูป/ผัง/ตาราง ไม่มีระบุที่มา
3.3 ส่วนของอ้างอิง : เป็นปัญหาเจอบ่อยที่สุด โดยเฉพาะหากผู้นิพนธ์เชี่ยวชาญในสาขาที่ไม่นิยมใช้ vancouver
เครื่องมือที่ช่วยได้มากคือ Zotero (มีผู้เขียนแนะนำใน gotoknow นี้คะ)
แต่การอ้างอิง Vancouver จาก Zotero ชื่อ journal ออกมาไม่เป็นชื่อย่อ ต้องไปตรวจสอบชื่อย่อต่อที่นี่คะ
3.4 เมื่อตรวจทานเรียบร้อย ส่งคณะกรรมการโครงการหนังสือตำรา และแก้ไขตามความเห็นของท่าน
แก้ไขเสร็จทำหนังสือชี้แจงส่วนที่แก้ไขให้กรรมการพิจารณาอีกครั้ง
3.5 หากผ่านแล้ว จึงทำ index ท้ายเล่ม ทำก่อนหน้านี้ไม่ได้เพราะเมื่อแก้ไขจะทำให้เลขหน้าเลื่อน
3.6 ดำเนินการขอ ISBN โดยแนบ 'บทคัดย่อ' ของหนังสือ ให้เจ้าหน้าที่ห้องสมุด
3.7 ส่งโรงพิมพ์ ใช้เวลาในการพิมพ์จริงๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์
ต้องขอขอบคุณ ผศ.พญ.บุษยามาส ชีวสกุลยง หัวหน้าทีมบรรรณาธิการ และคุณสุรีย์ ศิริสุภาเป็นอย่างยิ่งคะ
ที่ให้โอกาสข้าพเจ้าได้เรียนรู้ประสบการณ์ร่วมทำ หนังสือการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง เล่มนี้คะ
###
ช่วงชีวิตแห่งการ 'Editing'
...
เสาร์นี้มีโอกาสอ่านหนังสือชื่อไทย (ข้าพเจ้าตั้งเอง) ว่า 'เริ่มเสีย: ตะบันหน้าเจ้าความกลัว'
Start: Punch Fear in the Face, Escape Average and Do Work that Matters
เขาพูดถึงชีวิตคนไว้ว่า
ช่วงอายุ 20's ลองผิดลองถูก ทำนั่น โน่น นี่เยอะแยะไปหมด
= Learning
ช่วงอายุ 30's เริ่มรู้ตัวว่าเราไม่ได้เจ๋งไปทุกเรื่อง เริ่มต้องเน้นทำสิ่งที่สำคัญ
= Editing
ช่วงอายุ 40's หากเลือกในตอน 30's ได้เหมาะสม เลือกทำในสิ่งที่รักก็จะทำได้อย่างผู้เชี่ยวชาญ
= Mastering
ช่วงอายุ 50's ตอนนี้คนที่ mastering จะได้ชื่อว่าเป็น Expert ในงานของตน การเก็บเกี่ยวความภาคภูมิใจ
= Harvesting
ช่วงอายุ 60's เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว เริ่มแนะนำแนวทางแก่คนรุ่นหลัง
= Guiding
ที่น่าสนใจคือ ในหนังสือบอกแม้ต้องเริ่ม editing, mastering,harvesting,guiding ก็อย่าหยุด learning
วิถีชีวิตมีสองทางโดย วิถีเฉลี่ย (Average path) กับวิถีสุดยอด (Awesome path)
ทั้งสองทางเริ่มที่ learning และลงท้ายด้วย guiding ทั้งคู่
..ต่างกันที่ 'ความชันและแคบ' ของเส้นทาง..และ guide ด้วยอารมณ์ไหน
...ข้าพเจ้าจึงเข้าใจว่า
I am not an expert, I am only an editor (and learner)
อาจารย์เป็น "คุณหมอบางเวลา" ของผมไงครับ ;)...
ดูคล้ายๆ กับหลัง "อาศรม 4 " ของศาสนาฮินดูเลยนะครับ ที่เขาแบ่งช่วงชีวิตออกเป็น 4 ช่วง คือ
1.พรหมจารี เป็นช่วงวัยเด็ก เป็นช่วงของการศึกษาเล่าเรียน
2. คฤหัสถ์ เป็นช่วงของการครองเรือน แต่งงาน มีบุตรธิดาสืบสกุล
3. วานปรัสถ์ เป็นช่วงชีวิตสันโดษ ปฏิบัติธรรมหาความสุขทางใจ (เนื่องจากบุตรธิดาเติบโต เรียนจบและทำงานแล้ว)
4. สันยาสี เป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต จะออกบวชเพื่อบำเพ็ญธรรมให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
ไม่ว่าถึงขั้นตอนไหน.. ขออย่าหยุด learning
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ป.
มีหลายช่วงในวัย 46 ปีค่ะ คุณหมอ กลับไป-กลับมา อยู่ 2-3 อย่างยังไม่ถึง Harvesting และ Guiding
หากอายุเกินจาก harvesting and guiding ไปเยอะหลายจะว่าอย่างไรหนอ 5555
ขอบคุณความรู้และเนื้อหาสะกิดใจค่ะ คุณหมอ ป. สะกิดให้ปรับปรุงด่วนก่อนจะเลยวัยค่ะ 555
มาเรียนรู้ค่ะ คงจะแพ้ภาษาeng จึงไม่คล่องเลย อิอิ
ขอบคุณค่ะที่ Editing จนทำให้ครูนกรู้ว่า Mastering ซึ่งคงต้องทุ่มเท และอดทนในการเป็น good learner
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆ มาฝากค่ะ
ขอบคุณบทความดี ๆ นะคะอาจารย์หมอป.
ตั้งแต่เริ่มทำงาน พยายามสร้างโอกาสให้มีสัดส่วนได้เลือกทำงานที่รักมากกว่างานที่ถูกกำหนดให้ทำ
ช่วงนี้สัดส่วนเป็นที่น่าพอใจมากแล้วค่ะ คงไม่ได้ดั่งใจไปทั้ง ๑๐๐ %
ยอดภูของการเป็น Expert อาจไม่สูงนัก (เพราะยังไม่ถึง ๕๐ อิ อิ)
เรียนรู้และเก็บเกี่ยวผลสำเร็จอย่างมีความสุขไประหว่างทางเสมอ
เรียน อาจารย์หมอครับ
ผมเพิ่งรู้วัยที่แท้จริงครับ...."ลองผิดลองถูก ทำนั่น โน่น นี่เยอะแยะไปหมด"
เป็น Learning ที่ผิดมากกว่าถูก (แต่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นนะครับ) ...แต่ผิดเป็นครูนะครับ
ผมคงไม่ค้นหา "ตัวตน" แล้วครับ...แต่พยายามเดินทางตามอัตภาพ
บนเส้นทาง "การเดินทางที่แสนพิเศษ" ครับ
ชอบบันทึกที่กลั่นและย่อยออกมาแล้วเกี่ยวกับบันทึกนี้มากครับ....มีประโยชน์เสมอครับ
>>>>
"สวนดอกไม้ล่องหน"...ผมไปเจอเจ้าของสวน...ที่เชียงคาน
เราไม่ได้เจอกันนานแล้วครับ...ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของสวนดอกไม้ถึงสี่ร้อยดอก
เขาเพียรพยายาม ซื่อสัตย์ และอดทนทั้งชีวิตในการปลูกสวนดอกไม้ครับ
ผมรู้ว่า...ดอกไม้ที่เขาปลูก...ปลูกยากก็ยาก แต่ปลูกง่ายก็ง่าย
ผมเห็นความงดงามของดอกไม้ในสวนของเจ้าของสวน
เขามอบดอกไม้ให้ผมหลายดอก
ในหนึ่งนั้น...ขอมอบให้อาจารย์หมอนะครับ...
ผมรู้ว่า อาจจะไม่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนให้อาจารย์ดอมดม...แต่อยากให้เก็บดอกไม้นี้ไว้นะครับ
และอาจารย์ไม่ต้องส่งอะไรมาให้ผมเช่นเคยนะครับ
เพราะผมก็เป็นเจ้าของสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้มากมายล้นสวนแล้วครับ
ขอบคุณคะอาจารย์ เป็นหมอบางเวลา ที่กำลังจะลอกคราบแล้วนะคะ :)
ขอบคุณ คุณอักขณิช นำ wisdom ทางตะวันออกมาอธิบายด้วยคะ
สำหรับตัวเอง กระโดดไปมาระหว่าง พรหมจรรย์-คฤหัสถ์-สันโดษ นี่แหละคะ
Learning เป็นสัญญาณของการมี Live นะคะ ขอบคุณคะ :)
ชื่นชมในความช่างคิดของคุณ Bright lilly คะ
หากเลย Harvesting กับ Guiding ไปอีกจะเป็นอะไร
คิดว่าน่าจะเป็นตำนาน (Legacy) คะ
สิ่งดีๆ ให้ระลึกถึง เคยฟังเรื่องความดีของอาารย์แพทย์ท่านหนึ่งผ่านพยาน
เวลาผ่านมา 30 ปี ก็ยังไม่ลืมเลือนคะ
เหมือนกันคะ เลยต้องใช้บ่อยๆ พิมพ์ผิดบ้าง เราก็มียามภาษาใจดีอย่างพี่โอ๋เตือนให้นะคะ :)
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณคะครูนก
สำหรับบางคน หนทาง editing ก็วกวนเหลือเกินคะ
ขอบคุณคะครูทิพย์ สำหรับบันทึกอาหารจานด่วนน่าสนใจหลายเมนู ขอเชิญร่วมสนุกกันอีกนะคะ
ประทับใจความเห็นของพี่หมออ้อคะ
พยายาม 'สร้างโอกาส' ให้มีสัดส่วนได้เลือกทำงานที่รักมากกว่างานที่ถูกกำหนดให้ทำ
ขอบคุณมากคะ สำหรับของขวัญที่มาถึงวันนี้ ยิ่งรู้ที่มายิ่งภูมิใจ :)
เป็นกำลังใจให้กับ "การเดินทางที่แสนพิเศษ"
มองคุณหมออดิเรก อย่างชื่นชมในความเป็นผู้ให้..ให้ในสิ่งที่น้อยคนจะทำได้
คือ ให้ความสำคัญ ให้คุณค่า กับเพื่อนมนุษย์คะ
ขอบคุณคะ :)
ขอใช้พื้นที่บันทึกอีกประสบการณ์หนึ่ง ในการเป็น Reviewer ของ Abstract งานวิชาการนานาชาติคะ
หลักสำคัญ ที่ได้คำแนะนำจาก อ.สกล และ อ.เต็มศักดิ์
1. Oral presentation ควรเข้มงวด Methodology เป็นพิเศษ
2. Poster presentation อาจไม่ต้องเข้มเรื่อง Methodology แต่ยังต้องตรวจทาน Plagiarism
เวบในการตรวจทาน Plagiarism
http://www.thepensters.com/plagiarism_checker/plagiarism-report.html?
เวบดูรูปแบบการเขียน Grammar ในภาพรวม แต่ดู Plagiarism ไม่ดีนัก
http://www.grammarly.com/?q=plagiarism&gclid=CLSuluK5s7cCFZCe4Aod2ncAwg
<a href="HTTP: //www.plagiarismsearch.com/plagiarism-check.h ..."></a>