สัปดาห์นี้ผมขอยกตัวอย่าง สามเมืองที่เป็นข่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมาวิเคราะห์
การหยิบยกเอา 3 เมืองมากล่าวถึงอาจจะได้เห็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เกิดความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ในด้านสาระ ในด้านความจริง และหลากหลายทางด้านแนวคิด ถ้าเราเข้าใจ เราจะไปสู่ Value Diversity ได้ คือมูลค่าจากความหลากหลายได้แต่ถ้าเราไม่เข้าใจเราก็อาจจะเกิดการขัดแย้งจากความหลากหลายครั้งนี้
ประเด็นที่หลากหลายหรือ Diversity จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจในปัจจุบันว่า โลกกระทบกับความหลากหลายจะให้สิ่งเหล่านี้มาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์อย่างไร?
ในความเห็นของผมจากการหยิบยกเอา 3 เมืองสำคัญมาวิเคราะห์ในสัปดาห์นี้ อาจพูดได้ว่าเราวิเคราะห์แนวคิด Local/Global(มองไทย มองเทศ) หรือมองชุมชนและมองโลกาภิวัตน์พร้อมกันไป
§ มองความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ในโลก ความเสี่ยงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะ เศรษฐกิจ แต่เป็นความเสี่ยงระดับการก่อการร้ายข้ามชาติหรือความเสี่ยงต่อการเสียดินแดนอธิปไตย
§ เมืองแรกคือบอสตันจะมีใครคิดว่า กีฬา การวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นการแสดง Spirit ของวงการกีฬาในระดับโลก แต่อยู่ดีๆไม่มีใครคาดมาก่อน ก็เกิดระเบิดที่เส้นชัย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3คน บาดเจ็บอีกเกือบ 200 คน ในจำนวนนี้กว่า 17 คน ต้องเสียอวัยวะแขนและขา
§ คุณพิชญ์ภูรี พึ่งสำราญ เขียนใน Facebook ถึงผมว่า ผมได้วิเคราะห์ปัญหาก่อการร้ายไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วว่า เป็นส่วนหนึ่งของโลกาภิวัตน์ โลกาภิวัตน์ไม่ใช่แค่ เศรษฐกิจการค้า การเปิดเสรี โดยลดภาษีศุลกากร โลกาภิวัตน์ยังมีเรื่องอื่นๆนอกจากเศรษฐกิจ ยังมี
1. สังคมและวัฒนธรรม
2. การก่อการร้ายข้ามชาติ
3. อาชญากรรมข้ามชาติ
4. โรคภัยไข้เจ็บข้ามพรมแดน
5. พลังงานหมดโลกและแพง
6. สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
ดังนั้นผู้อ่านจะต้องมองโลกาภิวัตน์อย่างกว้างไม่ใช่อย่างแคบ เวลามาวิเคราะห์ ASEAN 2015 มักจะมองเรื่องประชาคมเศรษฐกิจ ASEAN ว่าขยายตลาดเป็น 600 ล้านคน หรือการค้าการลงทุน ลืมไปว่า เราต้องมอง เรื่องความมั่นคงและการเมืองเรื่องสังคมวัฒนธรรมด้วยและเน้นเรื่องการร่วมมือเท่าๆกับการแข่งขัน
ประเด็นที่ บอสตันคือ การก่อการร้ายเป็นส่วนหนึ่งของโลกาภิวัตน์ที่ป้องกันยาก แต่ผลกระทบระดับโลกมีมหาศาล
ในสหรัฐตั้งแต่เกิด 11 กันยายน ตึกถล่มกว่า 10ปีที่แล้ว เรื่องการก่อการร้ายก็เป็นปัจจัยสำคัญมาก ลุกลามมาถึงการปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ของเรา
ส่วนในมุกดาหาร เป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ปัจจุบันเป็นประตูไปสู่ ASEAN ล่าสุด ผมไปจัดสัมมนาที่มุกดาหาร เรื่อง ASAEAN 2015 ได้พบว่าสะพานข้ามไปลาวเชื่อมไปยังสุวรรณเขตลาวข้ามไปลาว มีการขนส่งสินค้าไปเวียดนาม ดานังและจีน มูลค่ากว่าแสนล้านต่อปี และมีแนวโน้มจะสูงขึ้น แต่นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งกรุณาให้เกียรติเปิดงานให้ผม บอกว่า คนมุกดาหารจะได้อะไร?
มุกดาหารเน้นเรื่องเกษตรและท่องเที่ยว เรื่องวัฒนธรรม โดยเฉพาะประเพณีและวัดต่างๆ แต่ปัจจุบันที่ดินแพง ชาวบ้านขายที่ดิน แต่เศรษฐกิจของมุกดาหารไม่มีคุณประโยชน์ต่อชาวบ้านส่วนรวม
แต่ในระยะยาว ประชาชนชาวมุกดาหารต้องได้ประโยชน์ เพราะธุรกิจใหญ่ๆ ธุรกิจโลจิสติกส์ได้ประโยชน์จากสะพานดังกล่าว
ประเด็นก็คือ ทำอย่างไร? จึงจะทำให้ ชาวบ้านได้รับประโยชน์จากโลกาภิวัตน์
ในที่สุดที่ประชุมสรุปว่า ต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างจริงจัง สร้างความตระหนักเรื่อง ASEAN 2015
โดยเฉพาะ กลุ่มแรก คือ ข้าราชการส่วนกลางที่ประจำมุกดาหารและผู้นำท้องถิ่นต้องพัฒนาทุนมนุษย์ เน้น 4 เรื่อง
§ การปรับทัศนคติ (Mindset)
§ การปรับเป็นมืออาชีพ
§ การปรับท่าทีเรื่องความเป็นสากล
§ การปรับ Basic คือทุนทางคุณธรรม จริยธรรม และทุนทางปัญญา ผมคิดว่าจะใช้ทฤษฎี 3 ต. คือ ทำงานต่อเนื่อง เรื่องพัฒนาทุนมนุษย์ให้ข้าราชการและผู้นำท้องถิ่นต่อ
สุดท้ายที่เมืองเฮกประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลโลกกำลังตัดสินปัญหาคดีเขาพระวิหารของไทยและกัมพูชา
ใน ASAENเรามีเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา แทนที่ภายใต้ ASEANเราจะอยู่อย่างสันติ เรากลับขัดแย้งในเรื่องเขตแดน เพราะ
- นักการเมืองอย่างไทยไม่หวังดีต่อประเทศอธิปไตยของประเทศ
- คิดแต่จะเอาประเทศไทยไปแลกผลประโยชน์กับพลังงานในอนาคต
- ดังนั้นเหตุการณ์ทั้ง 3 เรื่องซึ่งเป็นบทเรียนที่ราคาแพงของคนไทยควรจะนำไปคิดให้รอบคอบว่า อนาคตของไทยLocal / Globalจะเป็นอย่างไร? มีทั้งโอกาสและมีทั้งการคุกคาม เราจะอยู่อย่างไร
คนไทยส่วนรวม จะฉลาดในการคิดวิเคราะห์ให้ได้ประโยชน์อย่างไรต่อการเข้าสู่ ASEAN 2015 หรือระดับโลกต่อไป
เหตุระเบิดที่บอสตัน
บรรยากาศการจัดโครงการสัมมนาร่วมกับสโมสรไลออนส์กรุงเทพ รัตนชาติ เรื่อง ความรู้ด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนสำหรับชาวมุกดาหาร ให้กับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชนและวิชาการและประชาชนชาวมุกดาหาร กว่า 100 คน และยังได้รับเกียรติจากคุณสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มาร่วมในพิธีเปิด
เหตุการณ์ศาลโลกในกรุงเฮกตัดสินปัญหาคดีเขาพระวิหารของไทยและกัมพูชา
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์0-2273-0181
ไม่มีความเห็น