ประเทศไทยเข้าสู่ขั้นวิกฤติอีกช่วงหนึ่งจะรอดูต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นยังดีที่เสาไฟฟ้าไม่ชนะเลือกตั้ง กทม. ถ้าชนะก็จะพูดได้ว่าทุกพื้นที่ของประเทศไทย พรรคเพื่อไทยเก็บหมด
แต่ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยยังไม่หยุด
ผ่านวาระหนึ่งของการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราไปแล้ว
- ผ่านกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แรกไปแล้ว
- กฎหมายปรองดองก็เลื่อนวาระมาเร็วขึ้น
- กดดันศาลรัฐธรรมนูญ ยกพวกเสื้อแดงไปหน้าศาลและขู่ว่าจะตัดเงินเดือนผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญด้วย
กลุ่ม ‘เสื้อแดง’ ชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญ
------------------------------------------------------------
รัฐบาลภายใต้การนำของคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้รักษากฎหมาย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นมองไม่เห็นและไม่เห็นความผิด ไม่ยุติธรรมต่อทุกฝ่ายและประชาชนทั่วไป
แต่เมื่อเสธ.อ้าย ระดมคนมาประท้วงรัฐบาล ตำรวจมากันเต็ม พฤติกรรมตำรวจไทยน่าเศร้ามากๆ ศักดิ์ศรีตำรวจอยู่ที่ไหน? ตำรวจทำงานให้ใคร?
การรุกของรัฐบาลเสียงข้างมากเข้มข้นขึ้น เพราะเข้ามาเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปีแล้ว ต้องพยายามทำตัวให้มีคุณค่าให้นายใหญ่พอใจและหาทางชนะเลือกตั้งอีกครั้ง กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
พรรคประชาธิปัตย์ ถูกมองว่าเลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้ เรื่องนี้ต้องดูว่าพรรคประชาธิปัตย์จะแก้และปรับอย่างไรถ้ามีพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค แต่เลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้ตลอดคนไทยจะคาดหวังได้อย่างไร
พรรคประชาธิปัตย์ ต้องปรับตัวให้เร็วแต่ทำได้หรือไม่ยังไม่ทราบ ประเด็นคือ พรรคต้องทำให้เห็นผลด้วยวิธีการที่ฉลาดเอาชนะจุดอ่อนให้ได้ซึ่งจะต้องมีการปรับตัว ต้องทำจริงๆ ให้สำเร็จได้ผลชัดขึ้นโดยเฉพาะขยายฐานการเมืองให้กว้างขึ้น ดึงเอาพันธมิตรหลายๆ ฝ่ายมาร่วม
กลุ่มประชาชนทั่วๆ ไปก็ต้องเข้มแข็งและรวมตัวกันมากขึ้น นักวิชาการที่ไม่ขายตัว ต้องมีสื่อที่เป็นกลาง และที่มีความหวังมากๆ ก็คือ Social Media
กลุ่ม Social Media ต้องขยายวงไปยังรากหญ้า และรวมตัวกันเป็นพันธมิตรใหญ่ระดับชาติมากขึ้น
ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ
-----------------------------------------
ตัวผมเองไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ แต่เมื่อไปพบกับคนในภาคอีสานหรือภาคเหนือก็จะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากประชาชนชาวอีสานและเหนือ เห็นว่าคนอีสานและคนเหนือที่ไม่ฝักใฝ่เสื้อแดงยังมีอีกเป็นจำนวนมากและพร้อมที่จะเลือกพรรคอื่นๆ แต่ต้อง
มีทางเลือกมากขึ้น ทำให้เขาเหล่านั้นน่าสนใจ
สุดท้ายต้องมี Hero ในประเทศมากขึ้น เช่น มีข้าราชการดีๆ อย่าง ดร.วีรชัย พลาศรัย ออกมามีบทบาทมากขึ้น มีหมอหรืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่กล้าและดีออกมาแสดงจุดยืนกันมากขึ้น
สำหรับงานของผมได้ทำอย่างต่อเนื่อง งานแรกคือจะมีการประชุม ASEAN Anti-Corruption Youth Camp ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน-9 พฤษภาคม 2556 ขอขอบคุณศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เห็นความสำคัญและมอบให้ผมทำงานร่วมกับป.ป.ช. ถึงแม้ว่า จะเป็นจุดเล็กๆแต่ถ้าทำดีๆ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ทำให้ได้เรียนรู้ประเทศอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ต่อต้านคอร์รัปชั่นได้ดีกว่า เช่น สิงคโปร์ หรือมาเลเซีย เรายังเป็นสังคมบ้าอำนาจ บ้าเงิน เงินซื้อเกือบทุกอย่างได้ อุดมการณ์ดีๆของคนไทยหายไปไหนหมดทำให้การคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาใหญ่ของเรา
เรื่องที่ 2 ผมกำลังฝึกคนในภาคการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างต่อเนื่องและต่อเนื่องมาจากส่วนแรกที่ทำการวิจัย ค้นพบว่าการท่องเที่ยวและกีฬารองรับ ASEAN 3 เรื่อง
การประชุม Pre-Planning เเนวทางส่งเสริมองค์ความรู้ด้าน
การท่องเที่ยวเเละกีฬาเชิงบูรณาการรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี
---------------------------------------------------
1.ท่องเที่ยวและกีฬาต้องไปด้วยกัน
2.ต้องพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิด 3V คือ Value added, Value creation และ Value diversity โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวชุมชน
3.ต้องให้การขยายตัวกับความยั่งยืนให้ไปด้วยกัน (Growth and Sustainability) พัฒนาตัวละคร 4 กลุ่มให้ทำงานเป็น Network โดยทำอย่างต่อเนื่องและไปสู่ความสำเร็จ
- ผู้ประกอบการธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยวและกีฬา
- ผู้นำชุมชนและท้องถิ่น อบจ. อบต.และเทศบาล
- ฝ่ายวิชาการ
- ข้าราชการส่วนกลางของกระทรวงต่างๆ ที่ดูแลการท่องเที่ยว เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม มีวิธีการ 3 ขั้นตอน ดังนี้
- Pre-Planning (หารือร่วมกันเพื่อเตรียมการ)
- จัด Workshop แบบเชิงลึก
- ติดตามนำข้อเสนอมาปฏิบัติจริง
อาทิตย์นี้ ผมทำขั้นตอนที่ 1 คือ ไปทำ Pre-Planningที่จังหวัดอุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี มาได้รับการตอบรับที่ดีมาก
นอกจากนี้ มีโอกาสไปพูดเรื่องการเตรียมตัวของคนไทยในการเข้าโลกาภิวัตน์ และเชื่อมโยงกับ ASEAN ที่มหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนสุนันทาได้ความคิดว่า ASEAN 2015 เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งแต่ไม่ใช่เป้าหมายใหญ่
เป้าหมายใหญ่ คือ ต้องบูรณาการ ASEAN ไปสู่โลกหรือโลกาภิวัตน์ให้ได้ อย่าให้เก่งแค่ ASEAN เล็กพริกขี้หนูต้องเก่งเพื่อไปสร้างความเข้มแข็งในโลกใบใหญ่ซึ่งทำให้ ASEAN เป็นพันธมิตรร่วมมือกันทำงานเป็นทีมมากกว่าการแข่งขันเท่านั้น
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์ 0-2273-0181
กรรมของผมด้วย