เมื่อกลางเดือนเดือนเมษายนที่ผ่านมา มานั่งตรึกตรองเรื่องที่พี่สาวคนโตบอกว่าตระกูลเรามีแต่คนอ้วน วันนี้มาดำหัวพี่สาวดูแต่ละคนอ้วนลงพุงรวมทั้งตัวผมเองด้วย
เมื่อเริ่มเดือนพฤษภาคม ก็ตั้งใจว่าเอาหละงวดนี้เราต้องทำจริงจัง ก็พูดคุยกันบนโต๊ะอาหารของครอบครัว สามคนพ่อแม่ลูกว่างวดนี้พ่อเอาจริงนะ อ้วนมากเดินขึ้นดอยแทบไม่ไหว ลูกชายก็แนะว่าเอาอย่างนี้สิ หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น ผอมแน่ ส่วนแม่บ้านก็ไม่ยอมน้อยหน้าบอกว่าต้องออกกำลังด้วยสิไม่ออกกำลังมันก็ไม่เห็นผลหรอก ครับงานนี้ผมต้องพิสูตรให้ได้ว่า เราทำได้เราเอาจริง
ให้สัจจะกับตัวเองจะทำตาม หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็นอย่างเคร่งครัด วันที่ ๑ ตตีห้าผมลุกขึ้นมาวิ่งในหมู่บ้านสองรอบราวๆหนึ่งกิโลเมตรท่าจะได้ มีเหงืออกในรอบที่สองตอนปลายๆ พอหยุดเข้าบ้านรดน้ำต้นไม้เหงือจะออกมากเลย อาหารเช้าโอเค หนัก แต่เที่ยงไปกินที่ทำงานบางวันก็เบบางวันก็ยังถือว่าหนักอยู่ เย็นพอได้แค่น้ำเต้าหู้ไส่เม็ดเม็งลักอิ่มพอหิวรีบนอนก่อนครับ
ทำอย่างนี้หนึ่งเดือนจากน้ำหนัก ๕๒ กก.ไม่ยอมลดครับ ลงมาตอนเช้าเย็นขึ้นอีก ชั่งวันที่ ๓๐ ได้ ๕๑.๖๕ กก.แหมชักท้อ แต่ก็อเสียดายอดทนมาตั้งเดือน ลองอีกเดือนน่าจะดีเพราะตอนนี้ถึงน้ำหนักไม่ลดแต่รู้สึกได้ว่าคล่องตัวไม่เหนื่อยง่าย
มิถุนายนทำต่อครับตอนนี้ได้๒๐กว่าวันแล้วดีใจครับ ชั่งเช้านี้เหลือ ๔๙.๕๐ กก.สุดยอด เราทำได้ แล้วสิ้นเดือนจะมาเล่าต่อครับ
เห็นพุงดูไม่ดีเลยนะครับ สูง140 ก็น่าจะหนักสัก 40-45 กก.ถ้าลดได้สัก 45 กก.ก็พอใจแล้วครับ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ครูแกงก็กำลังให้กำลังใจตัวเองเหมือนกัน
นอกจากที่กำลังปฏิบัติตัวอยู่ ขอแนะนำวิธีที่อิ่มอร่อยและลดได้แน่นอนคือวิธีการที่หมอโภชนาการแนะนำ คือวิธิการกินอาการเป็นยา นั่นคือต้องกินประเภทอาหาร มื้ออาหารที่ถูกต้อง เป็นเวลาเช่นเดียวกับการกินยาตามหมอสั่ง ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการเผาผลาญหรอเมตาบอลิสซึ่มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อาหาร หลักการเน้นโปรตีน ผัก น้ำ งดแป้ง น้ำตาล ไขมัน ผลไม้
มื้ออาหาร 4 สี่มื้อ ห่างกัน 4 ชั่วโมงต่อมื้อ มื้อแรกห่างจากตื่นนอน 2 ชั่วโมง
ตัวอย่าง มื้อเช้า 8.00 น เครื่องดื่มโปรตีน 1 แก้ว (300 CC ดื่มน้ำตาม 1 แก้ว)
มื้อที่ 2 12.00 น เนื้อสัตว์ (ยกเว้นเนื้อวัว ควาย) 1 ชิ้นขนาดเท่าฝ่ามือ (ประมาณ 1 ขีด) ไม่มากไม่น้อยกว่านี้ไม่ติดมัน ปรุงโดยการปิ้ง ต้ม อบ ดีกว่าทอด
ผัก อาจเป็นสลัดผัก ส้มตำไม่จำกัดจำนวน ไม่ควรใส่น้ำตาลและถั่วลิสง
เครื่องดื่ม น้ำ หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล หรือใส่น้ำตาลเทียมถ้าติดหวาน
มื้อที่ 3 16.00 น. เกาเหลา 1 ถ้วย
มื้อที่ 4 8.00 น. ( 2 ทุ่ม) เกาเหลา 1 ถ้วย
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร ผักวันละครึ่งกิโล
อิ่มอร่อยมาก ๆ มาก ๆ อย่าลืม ห้ามผลไม้ทุกชนิด ห้ามหวาน ไมีมีข้าว ขนมจีน แป้ง ขนม เด็ดขาด
ถ้าทำได้ 3 วัน ก็ทำได้ตลอดไป 1 เดือนอาจลดได้ 5 กก. (ทำได้มาแล้ว) ถ้าให้หมอตรวจเลือดดูความสมบูรณ์ของเลือดด้วยก็จะดี ควรเสริมวิตามินซี แคลเซียม วิตามิน บีรวมด้วย ถ้ามีปัญหาท้องผูกให้กินเครื่องดื่มไฟเบอร์ระหว่างมื้อ 1 ซอง ซื้อได้ที่ร้านขายยา แก้หิวได้ด้วย
กินแบบนี้นอกจากน้ำหนักลด ไม่เหี่ยวแล้ว โรคภัยที่มากับความอ้วนก็จะดีขึ้นหมด ความดัน น้ำตาล ปวดเข่า ปวดเมื่อย เก๊าท์ เมื่อน้ำหนักลดจนพอใจก็กลับมากินตามปกติได้ แต่อย่ามากเหมือนก่อนลด และหลีกเลี่ยง แป้ง น้ำตาล ไขมันเหมือนเดิม น้ำหนักจะคงที่หรือเพิ่มช้า ๆ เราก็ควบคุมเอง ไม่ให้เกิน 1800 คาลอรีต่อวัน
โชคดีทุกคนค่ะ
อ่อยย..ที่พูดมา..ของโปรดทั้งนั้นเลยค่ะ..
รออ่านต่อขอเป็นกำลังใจให้ครับ