ความสุข แต่ละท่านก็มีหลากหลายรูปแบบ สำหรับครอบครัวของครูอ้อย แซ่เฮ กับ สะมะนึก แซ่เฮ มีความเรียบง่าย แต่ปรุงความรักด้วยความใส่ใจกันและกัน
หลายอย่างที่ครูอ้อยชอบ แต่เธอไม่ชอบ แต่พอครูอ้อยอธิบาย พูดให้เข้าใจ เธอก็เริ่มชอบแบบครูอ้อย
หมายถึงมีอะไร ต้องพูดจากันด้วยเหตุผล การที่ครูอ้อยมีเหตุผลนี่เอง นอกจากงานนั้นจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ยังมีคนข้างเคียงเข้าใจ เอาใจช่วย หากช่วยได้ ก็ร่วมด้วยช่วยกัน
แต่มีเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราสองคนมีความคิดตรงกันคือ ก่อนออกจากบ้านต้องแสดงความรักกัน กอดกัน หอมแก้มกัน ทำแบบนี้ทุกครั้งจนคนรอบข้าง ลูกทุกคน พี่น้องทุกคน มองว่าเป็นเรื่องปกติ
วันนี้ ครูอ้อยต้องไปราชการ 3 วัน ครูอ้อยต้องหอมพ่อบ้าน 3 ทีและพ่อบ้านก็จะหอมแก้มครูอ้อย 3 ที
ดังนั้น เวลาไปโชว์ตัวที่ไหน มีเสียงเรียกร้องให้ เราสองคนหอมแก้มกัน เราจึงปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว และไม่เขินเลย
เรื่องนี้เป็นความสุข ที่ลอกเลียนแบบได้ ยังไม่สาย ไม่มีคำว่าสาย
เชื่อเสมอว่า body language ที่แสดงความรักนี้ จะจรรโลงความสุขให้ได้ทั้งวัน
ก่อนออกจากบ้าน ต้องหอม 3 ครั้ง เพราะไปราชการ 3 วัน
เอ..........แก้มข้างไหนจะถูกหอมซ้ำหนอ อิ อิ
สวัสดีวันอาทิตย์คะพี่ครูอ้อย
...เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขทั้งใบหน้าโดยเฉพาะที่ดวงตานะคะ...การหอมแก้มกันเป็น body language ทางวัฒนธรรมนะคะ...ขอบคุณค่ะ
ขอหอมด้วยคนค่ะ
ฝากความระลึกถึงท่านด้วยค่ะ ครูอ้อย คุณสะมะนึกจะจำน้องสาวได้ไหมหนอ...
น่ารักจังเลยค่ะ ครอบครัวปิยะวัฒน์ทั้งพ่อแม่ลูกก็บอกรักกันทุกวันค่ะ I love you :)