ในการสำรวจจำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยจัดทำประจำในต้นเดือนตุลาคมทุกปี ปรากฎว่า ในปี พ.ศ.2548 มีชาวญี่ปุ่น ในประเทศไทยจำนวน 36,327 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 12% เมื่อเทียบกับสถิติในเวลาเดียวกันของปี พ.ศ.2547 และสูงเป็นอันดับที่ 7 ของโลก * และมีแนวโน้มว่าจำนวนประชากรญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้น อันเนื่องมาจาก ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ (1)
ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับไทย มีประวัติยาวนานนับร้อยปี และมีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการโดยการลงนามในปฏิญญาทางไมตรี และการพาณิชย์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2430
ที่ผ่านมาไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและราบรื่น ความร่วมมือของทั้งสองประเทศครอบคลุมทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ ไทยได้มุ่งกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับญี่ปุ่นให้พัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ (strategic and economic partnership)
การเยือนสำคัญในระดับพระราชวงศ์ คือ การเสด็จฯ เยือนไทยของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี เมื่อวันที่ 11 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2549 เพื่อทรงเข้าร่วมในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการเยือนไทยเป็นครั้งที่ 2 ของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ภายหลังเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ และเป็นการเสด็จเยือนซ้ำประเทศที่เคยเสด็จเยือนแล้วเป็นครั้งแรก
ในขณะเดียวกัน ในปีเดียวกันนั้น พระบรมวงศานุวงศ์ของไทยก็ได้เสด็จเยือนญี่ปุ่นหลายครั้ง โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติได้เสด็จเยือนญี่ปุ่นเป็นการส่วนพระองค์ ระหว่างวันที่ 14 - 19 มกราคม พ.ศ. 2549
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จเยือนญี่ปุ่น เพื่อทรงเข้าร่วมการประชุมเรื่อง Globalization: Challenges and Opportunities for Science and Technology จัดโดยมหาวิทยาลัยสหประชาชาติและองค์การยูเนสโก ระหว่างวันที่ 21 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2549 และศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จเยือนญี่ปุ่น เพื่อทรงเป็นองค์ Keynote Speaker and Lecturer ในการประชุมวิชาการ “1st International Conference on Cutting-Edge Organic Chemistry in Asia” ที่จังหวัดโอกินาวา ระหว่างวันที่ 14 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2549 และเสด็จเยือนญี่ปุ่น เพื่อทรงเข้าร่วมในการประชุม Members of President’s Council ของมหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างวันที่ 12 - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
ความสัมพันธ์ระดับประชาชนของทั้งสองประเทศก็มีความใกล้ชิดแนบแน่น ปัจจุบัน มีชาวไทยที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ในขณะที่มีชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศไทยประมาณ 40,000 คน
ในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 120 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้มีการเฉลิมฉลอง โดยได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจร่วม ไทย - ญี่ปุ่น ว่าด้วยการฉลอง 120 ปี ความสัมพันธ์การทูตขึ้นเพื่อกำกับและเตรียมการกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้นทั้งที่ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น โดยมีกิจกรรมตลอดทั้งปีและมีกิจกรรมหลักร่วมกัน 3 กิจกรรม คือ พิธีเปิด (Curtain Raiser) ในประเทศไทยในวันที่ 16 มกราคม และในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สำหรับในวันที่ 26 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ไทยและญี่ปุ่นได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์ เมื่อ พ.ศ. 2430 ฝ่ายไทยมอบศาลาไทยให้เป็นของขวัญแก่ฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งถูกจัดตั้งเป็นการถาวรที่สวนสาธารณะอุเอะโนะ ในกรุงโตเกียว นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะจัดงานเทศกาลไทย (Thai Festival) ครั้งที่ 8 ที่สวนสาธารณะโยะโยะงิ ในกรุงโตเกียว ตามด้วยกิจกรรมส่งเสริมความมั่นใจต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย โดยฝ่ายญี่ปุ่นจัดงาน Japan Festival ในกรุงเทพฯ ขึ้นในเดือนธันวาคม(2)
1. พันแสงรุ้ง : คนญี่ปุ่นในประเทศไทย
1.1 พันแสงรุ้ง : สัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น ตอน 1
1.2 พันแสงรุ้ง : คนญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ 2
1.3 พันแสงรุ้ง : คนญี่ปุ่นในเชียงใหม่ ตอน 3
2. พันแสงรุ้ง ตอนลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น
2.1 พันแสงรุ้ง ตอนลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น 1
2.2 พันแสงรุ้ง ตอนลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น 2
<p></p>
<p></p>
ไม่มีความเห็น