นโยบายหาเสียงไม่รอบคอบ หาทางออกอย่างไรชาติจึงจะไม่ล่มจม


  • บทเรียนจากความจริง

    ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
  •  

    บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

นโยบายหาเสียงไม่รอบคอบ หาทางออกอย่างไรชาติจึงจะไม่ล่มจม

 ต้องยอมรับว่าการเมือง ถ้าเน้นเรื่องของการแพ้ชนะการเลือกตั้ง ชนะอย่างเดียวไม่พอ ต้องบริหารประเทศให้อยู่รอด

  หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศมาเกิน 2 ปี เริ่มเกิดปัญหาที่ออกนโยบายประชานิยมอย่างรีบร้อน ต้องปฏิบัติตามสัญญาไว้ บัดนี้ได้ประจักษ์แล้วว่าขั้นตอนการกำหนดนโยบายไม่รอบครอบขาดการใช้ข้อมูลวิเคราะห์อย่างละเอียดจึงกลายเป็นปัญหาวิกฤติต่อประเทศ

  วิธีการแบบนี้อาจเรียกว่า  ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ คนไทยต้องช่วยกันแก้

  ขอยกตัวอย่างนโยบายหลักๆแค่ 2 เรื่อง

เรื่องแรกคือการจำนำข้าว ทุกเม็ด 15,000 บาท ปัญหาแรกคือ

ข้าวที่เกิดความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล

-  รัฐบาลคิดว่าจะทำให้เกษตรกรเลือก “พรรคเพื่อไทย” เพื่อให้ได้เสียงข้างมากเป็นรัฐบาลเท่านั้น

-  ไม่คิดให้รอบคอบว่าบริหารจัดการจะยุ่งยาก และต้องใช้ทรัพยากรมากมาย

-  คิดว่าจะมีโอกาสหาเงินเข้าพรรค เพื่อเป็นเงินทุนในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ซึ่งบัดนี้ได้พบข้อเท็จจริงว่า การกำหนดนโยบายดังกล่าวมีผลเสียอย่างมากมาย

-  ใช้เงินมากเกินไป 5 แสนล้านต่อปี

-  ต้นทุนในการบริหารเพราะต้องจำนำทุกเม็ด

-  ขาดทุนอย่างมหาศาล 2 แสน 6 หมื่นล้าน

-  เก็บไว้นานข้าวเสื่อมสภาพ

-   มีการสวมสิทธิ์จากข้าวของประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจากประเทศกัมพูชา

-  การส่งข้าวออกตกต่ำสุดขีดในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา

-  ทำลายระบบการค้าข้าวเสรี

-  และในที่สุดรัฐบาลก็ต้องออกมากลืนน้ำลายตัวเอง ยอมรับว่าการกำหนดราคาจำนำข้าวไม่รอบคอบ สูงเกินความจริงไป จึงลดลงมาเหลือ  12,000 บาทต่อตัน

ผมคิดว่าจุดอ่อนก็ คือ

-  หวังผลทางการเมืองในระยะสั้นมากเกินไป ไม่มองกระบวนการทำงานให้ครบว่าเมื่อนำไปใช้แล้วจะเกิดปัญหาหลักอะไร

  นโยบายที่ ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ และคนไทยทุกคนต้องช่วยกันแก้ อีกเรื่องคือค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

  บัดนี้ได้สร้างปัญหาให้แก่ธุรกิจไทย โดยเฉพาะระดับ SME อย่างมากมาย

  การกำหนดตัวเลข 300 บาท กำหนดขึ้นมาลอยๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงความจำเป็นขั้นพื้นฐานและความพร้อมของผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตาม

  จุดอ่อนของนโยบายก็คือ

-  กำหนดราคาค่าจ้างเดียวกันทั้งประเทศ ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน

-  ทำให้ธุรกิจ SME อยู่ไม่รอด

-  ธุรกิจต้องปิดตัวลงคนงานถูกปลดออก ถูกลอยแพ

-  ทำให้ธุรกิจต้องย้ายไปประเทศเพื่อนบ้าน

-  ทำให้ค่าครองชีพแพงทั้งประเทศ โดยไม่มีความจำเป็น

จะเป็นระเบิดเวลาลูกที่ 2 ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน ก่อนที่จะระเบิดออกมาแบบนโยบายจำนำข้าว

เพราะทางออกจะยากกว่าการลดราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาท เป็น 12,000 บาท อย่างที่ได้ประกาศไปแล้ว

นโยบาย 300 บาท เป็นนโยบายที่อันตรายต่อประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะทำให้บิดเบือนค่าจ้างในตลาด

วิธีการคิดของคุณทักษิณคือหวังให้ผู้ใช้แรงงานลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยแต่ไม่ได้คิดถึงปัจจัยอื่นๆและผลกระทบที่ตามมา จะสร้างปัญหาในระยะยาว ยังไม่มีวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม

วิธีการแก้ไขจะเป็นอย่างไร ต้องดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆคือสร้างปัญหาให้ประเทศอย่างมากมายมหาศาลในอนาคต

แรงงานไร้ฝีมือที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทจากรัฐบาล

ลองมาคิดทางออกดู

-  จะประกาศลดค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาท เป็น 250 บาท ซึ่งน่าจะทำได้ยาก

-  มีมาตรการ การคลังที่อุดหนุนผู้ประกอบการอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของค่าแรง 300 บาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจกำลังขออยู่แต่ยังไม่ได้ตอบสนอง

-  ต้องวิจัยผลกระทบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์  ว่ามีสาขาใดบ้างที่ถูกผลกระทบและต้องหยุดกิจการ

-  ภาวะของแพงที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะนโยบาย 300 บาท จะแก้อย่างไร

-  พัฒนาฝีมือแรงงาน ทุ่มงบประมาณเพื่อการพัฒนาแรงงานไร้ฝีมือ โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่ม Productivity (ผลิตภาพ) ของทุนมนุษย์เหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรม

ผมคิดว่าการปล่อยให้ค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท โดยไม่มีการแก้ไขจะทำให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศในระยะยาวมากมาย

จีระ หงส์ลดารมภ์

[email protected]

www.gotoknow.org/blog/chiraacademy

แฟกซ์ 0-2273-0181


หมายเลขบันทึก: 542353เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2013 10:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม 2013 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มีคนแบบเราเห็นด้วยวันมันอันตราย

แต่พวกที่เลือกก็ยังเลือกเขาเหมือนเดิม อันนี้เราก็ไม่รู้จะแก้อย่างไรแหละค่ะอาจารย์

..เห็นๆ..อยู่ว่า..ของแพง.ๆๆมั้กๆ..ตั้งแต่ไม่มีประกาศขึ้นค่าแรง...คนระดับหนึ่ง..ในโรงงาน..ได้ค่าแรง..ขั้นต่ำประจำวัน..๑๕๐ บาท..ต่อวันหรือต่ำกว่านั้น..มานานหลายปีดีดัก...ต้องกินต้องใช้..เท่ากับคนเงินเดือน..๓๐๐๐๐.บาท...(ข้าวสาร..สิบห้ากิโล..ราคาเกินร้อย..ขึ้นไป..)มาม่า..กว่าเจ็ดบาท..ไข่ลูกละ..สามสี่บาท..น้ำปลาเทียม..ก็แพง..จะเอามาคลุกข้าว..กินแบบจนๆเหมือนคนสมัยก่อน..ก็คงไม่ได้..จนๆอีกหน่อยคงต้อง..ตักน้ำคลองเน่าๆ..มากินแทน..อิอิ.(..เป็นมานาน..แล้ว...ไม่ว่า..รัฐบาลไหน...อ้ะะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท