คราวที่ครูอ้อยประสบอุบัติเหตุ แขนหัก ทำให้ไม่สะดวกในการสวมเสื้อผ้า ดังนั้นเพื่อความสะดวกสบายครูอ้อยจึงต้องจัดหาเสื้อผ้าตัวใหญ่ มีกระดุมหน้าทุกตัว ช่วงนั้นต้องจ่ายเงินในการเลือกซื้อเสื้อผ้ามากมาย
เมื่อครูอ้อยเริ่มจะหายดี สามารถสวมเสื้อผ้าแบบสวมศีรษะได้แล้ว จึงมีความคิดที่จะหยุดเลือกซื้อเสื้อผ้าอีก ประกอบกับ สภาพร่างกายบางลง หมายถึงน้ำหนักลดลงมาก สามารถสวมเสื้อผ้าเดิมๆได้ จึงไม่มีความจำเป็นใดใดที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่อีก
พ่อบ้านของครูอ้อยเป็นคนใจดีมาก ชอบพาไป แนะนำให้ซื้อใหม่ เพราะจะได้สวยเสมอ แต่ครูอ้อยเอง พอใจในสิ่งที่มีเดิม และเคยบอกพ่อบ้านเสมอว่า.......ขอสวยด้วยความสวยที่มีอยู่ ไม่ได้สวยด้วยเปลือกนอกที่แต่งเติม
จากนั้นครูอ้อยก็ยิ้มยิ้มกับเสื้อผ้าเดิมที่มีอยู่ เวลาหยิบจับมาชื่นชมอย่างมีความหมาย เพราะเสื้อแต่ละตัวได้มาจากการทำความดี หรือเข้าร่วมทำความดี หรือเป็นที่ระลึกในงานต่างๆ
จนมาถึงคราวที่จะต้องไปปฏิบัติธรรมในเดือนหน้า ครูอ้อยต้องเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับงานนี้ จำนวน 5 วันอีก เลยต้องเลือกซื้ออีกครั้ง ประกอบกับเดิมๆก็มี เสื้อยืดสีขาวก็มีตั้งหลายตัว อย่าให้การปฏิบัติธรรมครั้งนี้ก่อให้เกิดภาระขึ้นมาเลย อะไรที่มีอยู่พอใช้ได้ ไม่น่าเกลียดนัก ก็ใช้ไปเถิด.....ครูอ้อยคิด
ดังนั้น สัปดาห์หน้านี้ กับสัปดาห์โน้น ครูอ้อยต้องเตรียมจัดหาเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับการอบรมต่อไป
ส่วนผ้าที่ยังไม่ได้ตัดเป็นเสื้อนั้น คงจะต้องเก็บไว้ในบางโอกาส และห่อเป็นของขวัญกับเพื่อนๆในโอกาสสำคัญต่อไป
ยิ้มสดใสสวยงาม มีความสุขกับการเลือกเสี้อผ้าไว้ใส่และเก็บฯนะคะ
ขอบคุณค่ะ
มีความสุข สนุก สบายใจ ไม่ประมาทกับการครองตน ขอบคุณมากค่ะ
ประหยัดได้เป็นดี