ความเอาจริงเอาจังของยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ เจ้าแห่งระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของโลกที่จะสกัดกั้นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ชักจะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากริเริ่ม Windows Genuine Advantage หรือ WGA มาได้สักสองสามปี
ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศนโยบาย Software Protection Platform (SPP) สำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ วิสต้า ซึ่งจะเริ่มออกสู่ท้องตลาดราวๆ เดือนมกราคมปีหน้า เป็นมาตรการที่เข้มข้นขึ้นอีกระดับ
เดิมทีนั้น WGA สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะถูกตรวจสอบทันทีเมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ กรณีไม่ใช่ของแท้ก็จะมีไอคอนและข้อความเตือนขึ้นมาตลอดตราบเท่าที่เครื่องยังเปิดใช้งานอยู่ และปฏิเสธให้บริการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์อัพเดตแก่ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย หรือไม่ผ่านการตรวจสอบลิขสิทธิ์
ส่วน SPP มาตรการใหม่ล่าสุดนั้น เมื่อผู้ใช้เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา หากระบบตรวจสอบพบว่าเป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ตัวระบบปฏิบัติการจะถูกลดทอนความสามารถในการใช้งานลงมา หากไม่ลงทะเบียนแสดงตนเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ของแท้ด้วยการกรอกรหัสลงทะเบียนซอฟต์แวร์
ในห้วง 30 วันดังกล่าว วินโดวส์ วิสต้า จะเตือนผู้ใช้ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง และในที่สุดหากไม่มีการลงทะเบียน เมื่อเปิดเครื่อง บราวเซอร์ก็จะเปิดขึ้นมาแทน นำเสนอทางเลือกสำหรับซื้อและลงทะเบียนซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์
โดยที่จะไม่มีสตาร์ตเมนู, เดสก์ทอป ไอคอน แม้กระทั่งภาพพื้นของเดสก์ทอปก็จะถูกเปลี่ยนเป็นสีดำ
แม้ว่าบราวเซอร์ยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างสมบูรณ์ แต่ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากเปิดเครื่องขึ้นมา ผู้ใช้งานจะถูกตัดออกจากระบบทันทีโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
เท่ากับว่าหลังจากพ้นระยะ 30 วันไปแล้วคอมพิวเตอร์จะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเชื่อมอินเทอร์เน็ตคราวละ 1 ชั่วโมง
ส่วนก่อนระยะ 30 วัน ซึ่งยังไม่เข้าสู่โหมดตัดการทำงานแบบสมบูรณ์ สมรรถนะในการทำงานก็ยังคงถูกลดลงมาด้วยเช่นกัน เช่น ความสามารถทางด้านกราฟิก เป็นต้น
ดูแล้วปฏิบัติการสกัดซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายของไมโครซอฟท์นี้ค่อนข้างหนักหนาสาหัสสากรรจ์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานทั่วๆไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ใช้อย่างผิดกฎหมายกันมากๆ ในบ้านเรา จะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้ากันค่อนข้างมาก รวมไปถึงผู้ขายคอมพิวเตอร์ที่ลงวินโดวส์ วิสต้า ให้กับลูกค้าก็จะร่วมรับความยุ่งเหยิงในการบริการหลังการขายที่ตามมาด้วย
การซื้อปริมาณมากๆ แบบองค์กรหรือหน่วยงานก็จะพบกับระบบการตรวจสอบแบบใหม่ที่ละเม ิดได้ยากขึ้น คีย์ รีจิสเตอร์จากแผ่นโออีเอ็มที่หลุดๆ ออกมาน่าจะถูกจำกัดในทางใดทางหนึ่ง ให้ไม่สามารถใช้ได้อย่างเสรีเหมือนเดิม
เว้นแต่จะมีคน "แฮก" จนสามารถข้ามระบบการตรวจสอบไปได้
ความเป็นไปได้อีกด้านหนึ่ง ระบบปฏิบัติการทางเลือกอื่นๆ อาจจะได้รับความนิยมมากขึ้น เตรียมรับมือกันให้ดีเถอะครับ
จาก คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก
โดย ศิริพงษ์