เรื่องราวเด็ก
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน บันทึกนี้ขอเล่าเรื่องราวที่นักเรียนและผมได้ร่วมกันดูแลแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เมื่อพบปัญหาก็ร่วมกันแก้ไขปัญหานั้นๆ เป็นการเรียนรู้ผสมกับความสนุกสนาน (PLAY + LEARN = PLEARN) เพลินจริงๆ ครับ....(ฮา)
.........................................................................................................................................
ปรับหน้าดินต้นทุนต่ำด้วย "ปอเทือง"
ผมสังเกตดินหลังอาคารเรียนมาระยะหนึ่งครับ ทั้งบนพื้นดินธรรมดาและดินในแปลงผัก จนกระทั่งลองปลูกพืชในแปลงแต่ผลที่ได้นั้นคือ ผักไม่สามารถเจริญเติบโตได้เท่าที่ควรครับ
วันหนึ่งค้นหาข้อมูลจากโลกออนไลน์เกี่ยวกับ "การปรับปรุงดิน" อันดับแรกที่คิดได้คือ หญ้าแฝก ซึ่งเป็นพืชมหัศจรรย์ที่สามารถพลิกฟื้นแผ่นดินได้ดีอย่างมากครับ แต่ดินที่ผมต้องการฟื้นนั้นเป็นเพียงดินในระดับไม่ลึกมาก เพราะปลูกเพียงผักสวนครัวครับ เช่น ผักกาด, ผักกวางตุ้ง ฯลฯ จึงคิดว่าวัตถุประสงค์จริงๆ คงเพียงแค่ปรับดินเพื่อปลูกผักเหล่านี้ได้ก็พอครับ (คิดแบบสั้น ง่าย)...ไม่รู้จะยั่งยืนหรือเปล่าครับ!
ถุงนี้ไปขอมาจากชาวบ้านครับ
จนคลิ๊กไปเจอ "ปอเทือง" เป็นพืชตระกูลถั่วที่สามารถเป็นปุ๋ยพืชสด โดยมีความสามารถปรับสภาพดินได้โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ประโยชน์ของต้นปอเทือง มีดังนี้;
1. ลดอัตราการชะล้างพังทลายของดิน
2. ช่วยทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย สะดวกในการไถพรวนและเตรียมดิน
3. เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำรักษาความชื้นให้แก่ดิน
4. เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน
5. ช่วยบำรุงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน
6. เพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหารของดินให้สูงขึ้น
7. ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี และเพิ่มผลผลิตของพืชให้สูงขึ้น
เมื่อทราบประโยชน์ของปอเทืองแล้ว ผมก็ได้ไปรู้จักกับลุงเฒ่าหรือหมอดินประจำตำบลครับ ท่านเป็นนักการฯ ของ อบต.บางปลา ซึ่ง อบต.ก็ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ รร.ตลาดเกาะแรต ที่ผมฝึกสอนอยู่ ดังนั้น ผมจึงได้ขอคำปรึกษาและขอเมล็ดปอเทืองจากลุงเฒ่า เพราะที่บ้านลุงแกมีทุกชนิดที่สามารถปรับสภาพดินได้ (ลุงเฒ่าบอกว่า "ที่บ้านผมมีหมดแหละ เพราะผมต้องลองให้รู้จริงๆ")
ปฏิบัติการ!
เมื่อลุงเฒ่านำเมล็ดพันธุ์ปอเทืองมาให้ผมแล้ว นักเรียนและผมจึงช่วยกันแคะเมล็ดออกจากฝัก เช้านี้อากาศสดใสดีจึงได้ให้นักเรียนประมาณ 4-5 คน มาช่วยกันเตรียมแปลง 3 แปลง เพื่อเป็นแปลงทดลองปลูกต้นปอเทือง เมื่อดินมีสภาพดีขึ้นจริงจะได้ปลูกทุกแปลงเลยครับ ที่โรงเรียนมีแปลงเกษตรประมาณ 10 แปลง เพราะนักเรียนทุกชั้นเรียนจะต้องมีครับ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1- ม.3
ในวันนี้ก็มี ฟลุค, เบิ้ล, แบงค์และแชมป์ มาช่วยกันขุด, พรวนดินและรดน้ำ โดย 4 คนนี้ ต่อไปจะเป็น "อัศวินพิทักษ์ดิน" ครับ
แล้วผมจะนำภาพของ 4 อัศวินพิทักษ์ดินมาฝากท่านผู้อ่านครับ
ปล. ต้องขอความช่วยเหลือให้ พี่เพชรน้ำหนึ่ง 
เป็นผู้ให้คำแนะนำเรื่องแก้ไขดินด้วยครับ
.........................................................................................................................................
สร้างสรรค์ชิ้นงาน...ยามว่าง
หลายๆ โรงเรียนก็ทำกันครับสำหรับนำวัสดุมา Recycle => Reuse นักเรียนสามารถหาสิ่งเหล่านี้ได้ในโรงเรียนและชุมชน นั้นคือ "กล่องนม" ครับ
นักเรียนเรียนรู้วิธีการเย็บและถักเรียบร้อยแล้ว ก็นำความรู้มาสร้างชิ้นงานในเวลาว่าง เช่น พักกลางวัน เป็นต้น ไม่ว่าเป็นนักเรียนหญิงหรือชายก็ประดิษฐ์กันได้ทุกเพศ ทุกวัยครับ
นักเรียนไม่ได้ทำเพื่อไปแสดงในนิทรรศการเพียงอย่างเดียว แต่เป้าหมายหลักจริงๆ คือ การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงครับ โดยนักเรียนที่โรงเรียนของผมก็ไม่ค่อยจะธรรมดากันเท่าไร เพราะนักเรียนชอบการร่ายรำเป็นอย่างยิ่งครับ (ฮา) สังเกตหลายงานละครับ
นอกจากใช้สอยได้จริงแล้ว นักเรียนยังสามารถสร้างรายได้เสริมยามว่างได้เช่นกันครับ
........................................................................................................................................
หนูอยากเก็บเห็ดจังเลย!
นักเรียนกลุ่มหนึ่งเรียกร้องว่าอยากเก็บเห็ด แต่ทำไมเห็ดไม่ค่อยจะออกเลย? เมื่อวิธีการทางธรรมชาติต้องใช้เวลานาน เลยไปสอบถามชาวบ้านที่เพาะเห็ดขายเป็นอาชีพว่าจะทำอย่างไรดี ได้รับคำปากเล่ามาว่าให้ใช้ "ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตของพืช" ทีแรกฟังก็นึกว่าเป็นฮอร์โมนเห็ดโดยเฉพาะครับ พอไปหาซื้อร้านค้าบอกว่า "เป็นยาครอบจักรวาล" (อย่างนี้ผมฉีดนักเรียนผมคงโตเร็วเช่นกันครับ ฮ่าๆๆ)
ฉีดๆๆ ....
นักเรียนให้ความสนใจที่จะดูแลเห็ดและดิน ทุกเช้าและเย็นนักเรียนส่วนมากที่พบหน้าผม ถ้าช่วงเช้าประมาณ 7.50 น. ช่วงเย็นประมาณ 15.00 น. พวกเขาจะเรียก "ครูอาร์มครับ! ไปเก็บเห็ดกัน" ทุกวันนี้ตลกมากครับ เด็กเจอหน้ามักชวนเก็บเห็ด รดน้ำผัก
ย้อนกลับมาในคาบเรียนภาษาอังกฤษ นักเรียนจะเข้าตรงเวลา มีความสนใจเรียน พอท้ายคาบจะพูดว่า "ครูครับเก็บเห็ด" (ฮ่าๆ) ถ้าบางวันผมเข้าช้า นักเรียนจะวิ่งมาตามให้ไปสอน (แอบอายนักเรียนครับ เขาตั้งใจเรียนแต่ผมดันไปช้า นิดเดียวก็วิ่งมาแล้ว) แต่ถ้าไม่มีงานอย่างอื่นผมเข้าตรงเวลานะครับ! สงสัยติดใจเวลาเรียนผมมักแกล้งเขา(พูดอังกฤษทั้งคาบเลย) แต่ประสงค์ให้มีความรู้แบบซึมซับ โดยสร้างบรรยากาศการเรียนภาษาอังกฤษให้สนุกสนานน่าสนใจ แรกๆ เขาก็ไม่เข้าใจหรอกครับ...
พูดช้าๆ ชัดๆ บางครั้งผมก็ถามคำศัพท์หรือประโยคให้นักเรียนบอกความหมายแข่งขันเอาคะแนนพิเศษ สักพักนักเรียนจะหายไปประมาณ 2-3 คน เพื่อวิ่งไปหยิบพจนานุกรมมาให้เพื่อนครบทุกคน ดังนั้นเวลาเรียนภาษาอังกฤษนักเรียนทุกคนจะมีพจนานุกรมในมือ ไม่รู้ก็เปิด(กำลังสร้างนิสัยให้เคยชินกับการค้นคว้าด้วยตนเองครับ)
การที่พจนานุกรมติดมือนักเรียนตลอดเวลานั้น สร้างความประทับใจให้อาจารย์นิเทศก์จากมหาวิทยาลัยผมไม่น้อยครับ อาจารย์เอ่ยปากชื่นชมนักเรียนทุกคนครับ
.........................................................................................................................................
เรื่องกล้วยๆ กับ ด.ช.ฟลุค
วันนี้ขอนำเรื่องราวของนักเรียนชั้น ม. 1 ที่เป็นหัวโจกของห้อง ผมให้เขาเป็นจอมขมังเวทย์คนหนึ่งครับ เพราะที่ตัวฟลุคมีพระเครื่องสารพันประมาณ 20 องค์ครับ เขาบอกว่าพ่อและแม่เป็นห่วง
เรื่องนี้มีที่มาฟลุคมีพี่ชาย 2 คน คนแรกประสบอุบัติเหตุทางถนนเสียชีวิต, คนสองจมน้ำเสียชีวิต ดังนั้น เครื่องรางของขลังมีทุกรูปแบบครับที่ฟลุค (ฮา)
ตอนบ่ายๆ ผมเดินตรวจหลังโรงเรียนแลไปเห็นต้นกล้วยที่มีเครือและปลี เลยเดินไปที่อาคารเรียนไปหยิบมีดมาตั้งใจจะมาตัดปลีกล้วยออก ด.ช.ฟลุค เห็นผมถือมีดในมือ ถามว่า "ครูครับไปไหนหรอครับ?" ผมตอบ "ไปตัดกล้วยครับ"
ฟลุค : บ้านผมมีกล้วยเต็มเลยครับ ผมกินจนหน้าจะเป็นกล้วยอยู่แล้วครับ
ผม : ไหนไปดูให้ครูซิ ว่ารู้จริงไหม?
ผมสังเกตฟลุคเมื่อเดินเข้ามาในดงต้นกล้วยหลายต้น เขามองหาเครือและปลีกล้วยพร้อมทั้งสังเกตดูปลี และบอกผมอย่างมั่นใจ "แบบนี้ยังตัดไม่ได้ครับ เพราะมันยังโตไม่เต็มที่" ... "อันนี้ตัดได้แล้วครับ"
ฟลุคจัดแจงถอดเสื้อปีนบันไดที่เตรียมไว้ขึ้นไปตัดปลีกล้วย แล้วก็บรรยายให้ผมฟังว่าทำเมนูอะไรได้บ้าง...ทั้ง ต้มจิ้มน้ำพริก, ชุบแป้งทอด, แกง, ยำ ฯลฯ เขาก็อธิบายเรื่อง กล้วยๆ มาให้ฟังเท่าที่เขาจะเล่าได้
ถึงแม้เขาจะซน(ตามประสา) แต่เขาก็มีจุดน่าสนใจและมีความรู้รอบตัว ถึงไม่ได้เก่งมากแต่ก็ไม่อดตายละครับ ด.ช.กล้วย เอ้ย! ด.ช.ฟลุค คนนี้
.......................................................................................................................................
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมครับ
ความเห็น (14)
เป็นบันทึกที่ดี น่าสนใจมากจ้ะ
มีคั่วแม่เป้งมาฝากด้วยจ้ะ
-สวัสดีครับน้องว่าที่ครูอาร์ม..
-ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า"ลุงเฒ่า"หมอดินที่อยู่ใกล้โรงเรียนเป็นคนที่มีความรู้เรื่องดินและสามารถให้คำปรึกษาได้ดีทีเดียวครับ..
-สำหรับพี่หากจะแนะนำเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องดินอย่างง่าย ๆ ก็คือ การใช้ปุ๋ยหมัีกหรือปุ๋ยคอกมาปรับปรุงดินน่ะครับ..
-หากดินมันแข็งมาก ๆ ก็ให้นำแกลบดิบจากโรงสีมาใส่ลงไปคลุกเคล้ากับปุ๋ยคอกด้วยเพื่อเป็นการปรับโครงสร้างของดิน..
-ที่แน่ ๆ ต้องให้เครดิตหมอดิน"ลุงเฒ่า"เป็นผู้แนะนำในเรื่องนี้...รับรองว่า"ตรงจุด ตรงใจ แก้ไขปัญหาดินได้แน่นอนคร้าบ!!!!
-น่าสนใจ"ยาครอบจักรวาล" ฮ่า ๆ
-เป็นกำลังใจให้ว่าที่ครูอาร์ม..อย่าลืมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มาก ๆนะครับ
ปล..เขาว่าหมูย่างเมืองตรัง หรอยจังฮู้!!!!! ฮ่า ๆๆ ๆๆ
ขอตามอ่านบันทึกมีชีวิตที่สนุกด้วยคนครับ ดีจังมีโอกาสได้อ่านบีนทึกดีดีครับ
สวัสดีครับ ว่าที่ ครูวศิน
- แนวคิด (PLAY + LEARN = PLEARN) โอเค มากมายครับ
- ขอให้กำลังใจ ฟลุ๊ค, เบิ้ล, แบงค์และแชมป์ "อัศวินพิทักษ์ดิน" และ จะรอชม ภาพ อันหล่อเหลา ของ 4 อัศวิน นะครับ
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง...เราจะค้นพบอะไรมากมาย
อย่างท้าทายและคิดไม่ถึง...จริง
นักเรียนนั้นแหละคือส่ือการสอนท่ีสำคัญท่ีสุด
ความคิดอันบันเจิดก้เกิดจากเด็กนักเรียน
เมื่อสอนให้เขาคิดเป้นก้จะพบว่า
เด็กฉลาดเกินความคาดหมาย
ครูหยินเป็นกำลังใจ...และยินดีช่วยเหลือครุอาร์มเด้อคะ
555
เยี่ยมเลยครับ
- ขอบคุณ คุณมะเดื่อ ครับ
- แวะมาเมื่อไรมีของฝากตลอดเลยนะครับ
- ขอบคุณ พี่เพชรน้ำหนึ่ง ครับ
- ตั้งใจจะให้ลุงเฒ่ามาสอนนักเรียนเรื่องปุ๋ยต่างๆ ครับ
- สำหรับแกลบดิบหาได้ทั่วเลยครับ
- แถวโรงเรียนมีประมาณ 5-6 โรงสีเลยครับ 555
- ขอบคุณ คุณ nobita ครับ
- ยินดีที่ได้รู้จักครับ
- ขอบคุณ คุณ Joy ครับ
- จะนำอัศวินพิทักษ์ดิน มาแนะนำให้รู้จักครับ
- PLAY+LEARN ผมก็เคยได้ยินครับแต่ไม่เข้าใจความรู้สึก
- สำหรับตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความสุขในการเรียนการสอนแล้วครับ
- ขอบคุณ แม่หยิน ครับ
- "นักเรียนนั่นแหละคือสื่อการสอนที่สำคัญที่สุด"
- เด็ดไปเลยครับ
- เรื่องเรียนนอกห้องเรียน เด็กๆ ชอบมากครับ
- เรื่องบางเรื่องนักเรียนก็รู้แล้ว แต่ผมก็ถือว่าเขาได้ทบทวนความจำที่เคยเรียน
- และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลาครับ
- ขอบคุณ คุณ พ.แจ่มจำรัส ครับ
- ที่มาเยี่ยมชม
บันทึกนี้เป็น "แกงโฮะ" (อาหารเมืองเหนือ) เลยนะคะ มีสารพัดเรื่อง ดีๆ ทั้งนั้น
ที่อาจารย์แม่ชอบที่สุดคือ ว่าที่ครูอาร์มทำให้นักเรียนอยากเรียนภาษาอังกฤษ แบบนี้ถ้าอาจารย์แม่สอนเรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้ จะบอกว่า เป็นการเปลี่ยนเจตคติ (Attitude) ของนักเรียนจากไม่ชอบเป็นชอบ โดยการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคตามทฤษฏีของ Pavlov
บริการเพื่อนภาษา "คลิ๊ก" ที่ถูกต้องไม่ต้องใส่วรรณยุกต์ใดๆ คือ "คลิก" คำว่า "ฟลุ๊ค" ก็เช่นกัน ที่ถูกคือ "ฟลุค" นะคะ
เห็ดไม่ค่อยออกใช่ไหม เข้าใจว่าระบบการรดน้ำและอุณหภูมิมีปัญหาครับ
- สวัสดี อาจารย์แม่ ครับ
- เรียนกันแบบสนุกสนานครับ
- และขอบพระคุณ "โครงการบริการเพื่อนภาษา" ครับ ที่ได้มาตรวจสอบการสะกดคำให้ครับ
- ดีมากๆ เลยครับ
- ขอบคุณ อ.ขจิต ครับ
- ผมคิดว่าเรื่องอุณหภูมิมีปัญหามากเลยครับ
- ร้อนมากๆ ครับ
- คงส่งผลมาจากเตาเผาขยะของโรงเรียนครับ
- อีกทั้งโรงเพาะเห็ดตั้งอยู่ในจุดรับแดดเต็มๆ ครับอาจารย์
ครูทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น
.
ขอสิ่งดีงามติดคามตัวครูอาร์มไปด้วยนะครับ
ชื่นฃม ครับ
ได้องค์ความรู้มากมายกับประสบการณ์ดีๆเช่นนี้...มาให้กำลังใจค่ะ...
ว่าที่คุณครูน้องอาร์ม นี่ เยี่ยมจริงๆครับ ขึ้นว่า ครู คำนี้ยิ่งใหญ่เสมอ เราเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเด็กอยู่แล้วสร้างความสนิทสนมและสานสัมพันธ์กับเด็ก ดีมาก เพราะในบางเวลาเราก็เป็นทั้งเพื่อนและครูในเวลาเดียวกัน พร้อมกับเป็นผู้สร้าง ผู้ให้ความรู้ กิจกรรมที่นำมาเสนอให้ชมนั้นเยี่ยมจริง แต่อยากได้เห็ดมาทำกับข้าวจังเลย แต่เก็นว่าเห็ดไม่ค่อยออก T_T อิอิ ให้กำลังใจนะครับว่าที่ครูน้องอาร์ม
ด.ช.ฟลุ๊ค ตัดหัวปรี
อาจาร์อาร์มจอมบรรยาญชอบเขียนเกี่ยวผมเดียวเถอะ