"โอบอุ้ม" แก่งคอย

"เช้าวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ พร้อมกันที่หน้าโรงพยาบาลเวลา เจ็ดโมงเข้านะคะพี่น้อง โอบอุ้ม" (Caregiver) เป็นสัญญาที่พวกเรานัดกันไว้เมื่อวันสรุปผลงานของทีมโอบอุ้มแก่งคอย เมื่อกลางเดือน กันยายน หลังจากทำงานร่วมกันมา 2 ปี พวกเรานัดกันว่าจะไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเยี่ยมบ้านกับ CUP ลำสนธิ จ.ลพบุรี เพื่อเป็นการเติมเต็มและเติมพลังแก่กันและกัน

นพ.สันติ ลาภเบญจกุล ผอ.รพ.ลำสนธิ ให้เกียรติบรรยาย "คนลำสนธิไม่ทอดทิ้งกัน"

๑๔๗ คน สำหรับกรุ๊ปนี้ประกอบด้วย ทีมโอบอุ้มที่มาจากอาสาสมัครร่วมเป็นทีมสุขภาพกับพวกเรา ทีมสหสาขาวิชาชีพของ รพ.แก่งคอย เจ้าหน้าที่จาก รพ.สต. ๑๙ แห่ง สาธารณสุขอำเภอ เทศบาล และ อบต. แม้จะเป็นกรุ๊ปใหญ่ แต่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จาก CUP ลำสนธิ ที่รับพวกเราเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกัน อาจเนื่องจากพวกเราเป็นพันธมิตรกันมานาน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันหลายเรื่อง ต้องขอกราบขอบพระคุณ หมอต้อม นพ.สันติ ลาภเบญจกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำสนธิ จังหวัดลพบุรี

โจทย์ของเราคือ ให้ทีมโอบอุ้มทุกคนได้เรียนรู้เรื่องการเยี่ยมบ้าน แล้วคิดว่าจะนำจุดดี จุดเด่น ไปต่อยอดกับการเยี่ยมบ้านการดูแลผู้ป่วยของเราอย่างไร

จากการได้พูดคุย ซักถาม และลงพื้นที่ดูคนไข้จริงในชุมชน พบว่าลักษณะงานที่พวกเราทำไม่ต่างกัน ทุกคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาร่วมเป็นทีมสุขภาพส่วนใหญ่เริ่มด้วยความสมัครใจ มีใจรักที่จะทำงานด้านนี้อยู่แล้ว บางคนมีญาติหรือคนในครอบครัวเป็นผู้ป่วยอยู่แล้ว

ทีมโอบอุ้มของแก่งคอย ทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทน การทำงานคือการทำบุญ เป็นConcept ที่พวกเราพูดกันเสมอ โอบอุ้ม บางคนบอกว่า หมออย่าเอาเรื่องเงินมาพูดเลย มันซื้อศักดิ์ศรีของพวกเราไม่ได้หรอก พวกเราทำงานเพราะอยากทำ มาทำด้วยใจ อยากช่วยคนในหมู่บ้านของเรา เราก็เลยทำงานร่วมกันมาด้วยใจเรื่อยมา

สำหรับ Care Team ของลำสนธิ เริ่มแรกก็ทำด้วยใจ แต่สุดท้ายปัญหาเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ก็ยังเป็นปัญหาสำคัญกว่าความเจ็บป่วยของญาติ ทาง CUP ลำสนธิ จึงจับมือร่วมกันกับเครือข่ายที่มีอยู่ในพื้นและเป็นภาคีที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด ก็คือ อบต. ที่ช่วยสนับสนุนงบประมาณในการจ้าง Care Team เพื่อเข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในหมู่บ้านของตน บางคนญาติไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ เพราะต้องออกไปทำงานหาเงิน ไม่ทำก็ไม่มีกิน ก็จะมีCare Team เหล่านี้ได้คอยดูแลผู้ป่วยให้ โดยผู้ที่จะเป็นCare Team ต้องมาสมัครและทดลองงาน และต้องผ่านประเมินโดยเจ้าหน้าของโรงพยาบาล เนื่องจากการทำงานนี้ ต้องมีใจรัก เพราะเงินค่าตอบแทนที่ได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังพอยังชีพได้ เดือนละ 5,000 5,500 บาท เมื่อผ่านการประเมินก็จะได้รับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยทั้งหมดคนละ 2-3 หมู่บ้าน จะดูผู้สูงอายุทั้งหมดทั้งป่วยและไม่ป่วย ผู้ป่วยติดเตียงทั้งหมด ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช และเด็ก LD ส่งรายงานการเยี่ยมให้กับโรงพยาบาลทุกสัปดาห์ มีการกำหนดเกณฑ์ในการเยี่ยมไว้ ว่ารายใดเยี่ยมได้โดยCare Team เอง รายใดต้องเยี่ยมโดยเจ้าหน้าที่ หรือต้องเยี่ยมร่วมกัน มีการทำงานร่วมกันกับทีม รพ.สต.อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน มีการทำงานโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง มีบ้านผู้ป่วยเป็นฐานให้บริการ CUP ลำสนธิ แบ่งการบริหารจัดการเป็น ๓ โซน แต่ละโซนจะมีเครื่องมือกายอุปกรณ์ที่สำคัญอยู่โซนละ ๑ แห่ง เนื่องจากแต่ละ รพ.สต.อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลมาก การเดินทางมาโรงพยาบาลของผู้ป่วยยากลำบาก ท่านผู้อำนวยการจึงมีแนวคิดยกหน่วยบริการกายภาพบำบัดไปไว้ในพื้นที่ และจะมีนักกายภาพบำบัดออกไปให้บริการในพื้นที่ สัปดาห์ละครั้ง ผู้ป่วยหลายรายมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น จากเดินไม่ได้ก็เดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ จากพูดไม่ได้ก็สามารถพูดเป็นคำๆได้ แต่ก็มีบางรายก็ฟื้นฟูสภาพไม่ได้ บางรายก็เยี่ยมจนตายจากกันไป

ยังมีผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ป่วยจิตเวช ที่รักษาจนดีขึ้นทางโรงพยาบาลรับไว้เป็นลูกจ้างของโรงพยาบาล ด้วยค่าจ้างที่ไม่สูงนัก แต่พวกเขาก็พออยู่ได้ โดยรับไว้เป็นคนสวนปลูกผักปลอดสารพิษ คนเลี้ยงไก่ ผู้พิการส่วนหนึ่งที่รับไว้เป็นพนักงาน ให้โอกาสคนเหล่านี้ ได้มีที่อยู่ ที่ยืน และอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์

พวกเราชาวแก่งคอย ต้องขอกราบขอบพระคุณทีมงานลำสนธิทุกท่าน ผู้ป่วยทุกราย ที่เป็นครูให้พวกเราได้เรียนรู้ในครั้งนี้เป็นอย่างสูงค่ะ

เขียนใน GotoKnow โดย namsha
ใน เรื่องราวผ่านเรื่องเล่า

คำสำคัญ (Tags): #namsha#ทีมโอบอุ้ม รพ.แก่งคอย

หมายเลขบันทึก: 550093เขียนเมื่อ 3 ตุลาคม 2013 02:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2013 10:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน