ทำความรู้จัก สำรวจ " ชุมชนของเด็กพิเศษ... ของเรา "


เป็นการสำรวจเด็กพิเศษ 1/2 ห้อง โดย กลุ่ม.. ไม้ใหญ่ใจดี.. อีก1/2 ที่เหลือห้องยังไม่เคยให้ข้อมูล ช่วงนี้ปิดภาคเรียนครับ เด็กๆอยู่บ้าน เราเลยทำอะไรไม่ได้มาก จึงเตรียมพร้อมกัน

กะว่าเปิดเรียนข้อมูลจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แม้เท่านี้ก็ช่วยให้แนวทางแก่พวกเราได้มากที่จะทำงานให้เด็กๆ

เิปิดภาคเรียนนี้ เราอยากพบสมาชิกผู้ปกครอง-ครอบครัว เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจ ขอความเห็นและขอความร่วมมือ

กิจกรรมต่างๆ เราจะระดมลงมือกัน 1/พ.ย./56 plan ดังนี้ครับ

  1. เด็กทุกคนจะต้องมีเป้าหมายที่เสริมทักษะการเรียนรู้ โปรแกรมพัฒนา การรักษา ของแต่ละคน
  2. โดยวางแผนทั้งกิจกรรมบุคคลเดี่ยว และหรือ กลุ่ม อย่างต่อเนื่อง
  3. เราจะประเมินผลการติดตามความคืบหน้าเด็กแต่ละคนเป็นระยะๆ พร้อมกับ แสดงน้ำใจจากผู้คนและภาคส่วนที่ร่วมด้วยช่วยกัน

" ให้กำลังใจพวกเรา ด้วยการเมตตาและให้โอกาสเด็กพิเศษเหล่านี้ ที่อยู่ใกล้ตัวท่าน ให้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ แล้วจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง"

สำรวจเด็กพิเศษ.pptx

หมายเลขบันทึก: 550303เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2013 17:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม 2013 17:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

แวะมาชื่นชมและขอบพระคุณคุณหมอ คุณพยาบาล และทุกๆท่านที่กำลังช่วยเหลือเด็กพิเศษ หากมีอะไรให้ผมช่วยเหลือก็ยินดีเสมอครับ ตอนนี้ผมมีโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่บันทึก http://www.gotoknow.org/posts/564960 หากทางทีมคุณหมอต้องการสมัครเรียนรู้ในหัวข้อที่สนใจ ติดต่อผมได้นะครับผม ขอส่งความสุขปีใหม่ไทยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับผม

สวัสดีค่ะคุณหมอ

ลูกสาวเรียนร้องเพลงเพราะชอบดนตรีร็อค (โกทิคร็อค) ไม่ได้ขัดลูกค่ะแม้ว่าจะห่วงเรื่องแนวเพลง การแต่งกาย และรวมไปถึงเรื่องสุขภาพหากต้องประกอบอาชีพด้วยการร้องเพลงจริงๆ

แต่ตอนนี้ดีใจกับลูกค่ะ เพราะเค้าเบนเป้าหมายมาเป็นครูสอนร้องเพลง และได้สอนประจำที่โรงเรียนสอนร้องเพลงเล็กๆแห่งหนึ่งที่รับสอนเด็กพิเศษด้วย (เพราะโรงเรียนใหญ่ๆอย่างมีฟ้า KPN ไม่รับสอนเด็กเหล่านี้) แม้ว่าจะยังเรียนไม่จบ และตัวเค้าเองก็ดีใจค่ะ ที่เป็นส่วนหนึ่งในพัฒนาการของเด็ก

ลูกเล่าว่าเด็กบางคนมีปัญหาก็เพราะความคาดหวังของพ่อแม่ด้วยค่ะ อย่างเด็กคนหนึ่งพูดด้วยเสียงโทนเดียวกันหมด และไม่ยิ้ม เพราะพ่อแม่เคี่ยวเข็ญมากเกินไปทั้งๆที่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ จนหมอบอกว่าให้ใช้ดนตรีบำบัด

เล่าว่าสอนเด็กพิเศษเหนื่อยค่ะ แต่เค้าก็ภูมิใจ

ขอบพระคุณคุณหมอด้วยค่ะที่ไปเยี่ยมและให้กำลังใจกันในบันทึกล่าสุดค่ะ

ขอบคุณ  อาจารย์ณัฐรดา และ ดร ป๊อป คุณวอญ่าด้วยนะครับ ที่มีส่วน ทุ่มเทกับเด็กพิเศษ 

ตอนนี้ กิจกรรมช่วยเหลือเด็กๆ เราก็ทำอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมบำบัด และตั้งใจว่าจะนำนักศึกษาแพทย์ ปี 4 ทั้งชั้นปี

ไปทำกิจกรรม กับเด็กๆ ทุกปี ไป " กิน เต้น เล่น เล่า" กับกลุ่มเด็กๆ ครูสอนเด็กพิเศษก็มีกำลังใจ รร.ก็พอใจที่เราให้ความสำคัญ  ...ที่สำคัญเด็กๆ happy มาก

" ที่สำคัญเด็กๆ happy มาก "

อ่านแล้วเกิดปีติค่ะ

ดีใจที่เห็นกิจกรรมกับเด็กพิเศษ

มีอะไรพอช่วยได้บอกนะครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ

ขอบคุณ เป็นอย่างสูง นะครับ อ.ขจิต อ. ณัฐรดา

ตอนนี้ เด็กๆ ได้รับการฝึกฝนดูแลหลักๆ จาก เจ้าหน้าที่ กิจกรรมบำบัด ซึ่งเป็นบุคลากรเฉพาะทาง ที่มีคุณค่ามาก แต่มีบุคลากรเรียนสาขานีี้น้อย และต้องทำอย่างสมำ่เสมอ ใช้เวลารักษากันระยะยาว เด็กๆเขาเรียกกันว่า คุณครู ผู้ฝึกฝน สอน และที่มีบทบาททางการบำบัดรักษา ที่สำคัญ

วิชาชีพ นี้แหละครับที่ ทำให้ผมเห็นชัดว่า "ครูกับหมอ" หรือผู้สอน กับ ผู้บำบัดรักษาทับซ้อนกัน บรรจบกันในวิชาชีพเดียว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท