คือผู้เลี้ยง ผู้รักษา


“ผมเห็นใจคนที่ไม่มีโอกาสในสังคม ถูกบีบคั้นถูกเอาเปรียบทุกอย่าง ประเทศไทยจะดีขึ้นถ้าคนที่มีโอกาสยอมสละโอกาสบ้าง เราช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ ผมอยากเห็นสังคมดีขึ้น”

 

    หลายบันทึกมานี้ผู้เขียนนำเรื่องเล่าเกี่ยวกับการทำงานของคุณสืบ  นาคะเสถียร ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ การช่วยเหลือ การตามล่าผู้ทำร้ายสัตว์ ที่จริงยังมีอีกหลายตอนที่อยากเขียนถึง แต่วันนี้ เรามาพักกันไว้ก่อน จะขอเล่าเรื่องการเป็นผู้นำที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์ของคุณสีบ ที่ได้ดูแลรักษา ปกป้องเพื่อนร่วมงานของตนเองบ้าง

 คุณสืบเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาว่า เพื่อนร่วมงาน กินอยู่เหมือนกัน อดด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกัน แต่เวลาถึงคราวเสี่ยงคุณสืบจะออกหน้าก่อนเสมอ

 ผู้เขียนคิดว่าเนื้อแท้ของน้ำใจท่านนั้น มันสะอาดบริสุทธิ์ จนมองเห็นสิ่งรอบกายว่า เป็นสิ่งที่เขาต้องปกป้องดูแลจึงจะสมบูรณ์  เรื่องหนึ่งที่เพื่อนร่วมงานได้เล่าไว้ (ขออภัยที่ไม่ทราบชื่อ เพราะเวลาอ่านบทความเกี่ยวกับท่าน ก็จะมีการอ้างถึงเหตุการณ์ เป็นเรื่องเล่าจากปากคนร่วมงานทั้งสิ้น) การอนุมัติเบิกจ่ายเงินของทางราชการบางครั้งก็ล่าช้า กว่าเบี้ยเลี้ยงจะตกเบิกมาถึง เวลาก็ล่วงเลยไปหลายเดือน คุณสืบเห็นความขัดสนของหลายๆคน แต่ก็ยังคงทำงานไม่ได้ลดคุณภาพลงเลย ด้วยความเป็นผู้บริหาร เป็นผู้นำที่ละเอียดอ่อน เห็นความทุกข์ของคนอื่นยิ่งใหญ่กว่าของตนเสมอ ทั้งๆที่ต่างก็รอเงินก้อนเดียวกัน มีบันทึกเอาไว้ว่า

  "คุณสืบซาบซึ้งเป็นอย่างดีว่าถึงปัญหาและความยากลำบากในการทำงานของพนักงานพิทักษ์ป่าซึ่งเป็นลูกจ้างรายวัน ที่ไม่มีสวัสดิการใด ๆ และไม่มีหลักประกันใด ๆ ทั้งสิ้นให้กับตัวเขาและครอบครัว นอกจากเงินเดือนของลูกจ้างรายวัน ขาดแคลนอาวุธ วิทยุสื่อสาร สืบจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเงินทุนเพื่อมาเป็นสวัสดิการและประกันชีวิตแก่เจ้าหน้าที่ระดับล่างของห้วยขาแข้ง เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการทำงานที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตายจากการปฏิบัติหน้าที่ สืบรักลูกน้องมากยอมแบกภาระที่ทางราชการจ่ายเงินเดือนให้ลูกน้องช้า ด้วยการไปขอยืมเงินจากแม่เดือนละ 20,000 บาท เพื่อนำไปให้ลูกจ้างรายวันในป่ายืมก่อน เพราะเงินเดือนของพวกเขาตกเบิกช้ามาก "
  

“ผมเห็นใจคนที่ไม่มีโอกาสในสังคม ถูกบีบคั้นถูกเอาเปรียบทุกอย่าง ประเทศไทยจะดีขึ้นถ้าคนที่มีโอกาสยอมสละโอกาสบ้าง เราช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ ผมอยากเห็นสังคมดีขึ้น”

 นอกจากนี้ คุณสืบ ยังพยายามวิ่งเต้นหาสวัสดิการและประกันชีวิตให้กับพนักงาน เพราะพวกเขาเสี่ยงภัยตลอด และขาดความสนใจจากหน่วยเหนือโดยสิ้ยเชิงเมื่อสิ้นชีวิตลง ที่สุดก็สามารถหาเงินบริจาคได้ แต่ต้องผ่านมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องโดนหัก10 เปอร์เซนต์ของยอดเงินทั้งหมดด้วย  ผลประโยชน์ มีให้เห็นและกลายเป็นธรรมเนียมบาปไปแล้ว

 หลายสิ่งหลายอย่างที่หลายคนไม่ทำ หรือทำไม่ได้ แต่คุณสืบก็ทำจนได้ เหล่านี้เป็นต้นแบบของคนในอุดมการณ์เดียวกันในเวลาต่อมา แม้คุณสืบจะจากพวกเราไปแล้วก็ตาม

 

 

หมายเลขบันทึก: 551595เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2013 21:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม 2013 21:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณนะคะคุณหมอที่นำมาแบ่งปันให้ได้ศึกษาเกี่ยวกับ คุณสืบ  นาคะเสถียร  

ชื่นชอบ ศรัทธาในการทำงานของท่านมากคะ

 

สวัสดีค่ะคุณอร วรรณดา ด้วยความยินดีค่ะ จะไปเยี่ยมบ้านท่านในการจัดเฮฮาศาสตร์11ระหว่างวันที่6-10ธค.ค่ะ เลยถือโอกาสทำความรู้จักกับท่านอย่างลึกซึ้ง ยิ่งรู้จักก็ยิ่งซาบซึ้งศรัทธาเช่นกันค่ะ

ขอมอบดอกไม้กำลังใจจากทุกท่านและในโอกาสต่อไปให้แก่คุณความดีของคุณสืบ นาคะเสถียรนะคะ

อ่านแล้วนึกถึงคุณสืบ...นะคะ ...ขอบคุณค่ะ

ยังไม่ได้ตอบและสอบถามรายละเอียด เรื่องงานเฮฮาศาสตร์ครับ

แต่บอกคุณแม่บ้านและลูกสาวแล้วว่าอยากไป ทั้งสอง บอกอยากไปด้วย

ไปได้ไหมครับ 555

สวัสดีค่ะคุณดร.พจนา ระลึกถึงด้วยความจริงใจ ประทับใจในน้ำใจของท่านค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพ.แจ่มจำรัส ยังเปิดให้เข้าร่วมเฮฮาศาสตร์ถึงวันที่8พย.นี้ เพื่อจะได้สรุปและจัดเตรียมงานค่ะ ติดต่อสอบถามรายละเอียดนะคะ เชื่อว่าจะได้พบกันค่ะ

สวัสดีค่ะพี่หมู มาแล้ว มาแล้วตามหาอยู่หลายวัน ติดต่อกลับพี่บางทรายแล้วใช่ไหมคะ พร้อมเมื่อไหร่วางแผนการเดินทางกันค่ะ คิดถึงงงงงงงงงง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท