หลังสะลึมสะลือลืมตาตื่นรับสายแม่เมื่อเช้านี้ พลันอดคิดถึงบรรยากาศที่บ้านไม่ได้
เสียงไก่ขันดังแทรกมาไม่ขาดระยะ อากาศที่บ้านคงหนาวแล้ว แม่กับพ่อคงง่วนอยู่กับการเก็บข้าวขึ้นเล้า หรือไม่พ่ออาจยุ่งอยู่กับ
การเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อสูบจับปลา บรรยากาศแบบนี้ทำให้คนที่ห่างบ้านมาไกลอดไม่ได้ที่จะคิดถึงบ้าน
เสียงแม่เสมือนสายน้ำไหลเย็นใจทุกครั้งที่ได้ยิน แม่โทรมาเล่าว่า สะเดาที่บ้านผลิดอกแล้ว มะกอกนาก็สุกลูกหอมหล่นโอบโคนต้น
พ่อก็เตรียมสูบสระจับปลา วานแม่ให้โทรหาลูกชายหน่อย
พ่อไม่เคยบอกว่าคิดถึง แต่ทุกครั้งก็บอกผ่านแม่ด้วยการกระทำบางอย่าง ความทรงจำในวัยเยาว์ มักผุดพรายขึ้นทุกครั้งที่ฉันกลับบ้าน
เรื่องเล่าเก่าๆ ในวงสนทนามักเป็นเรื่องเดิมที่เล่าแล้วเล่าอีกอย่างไม่รู้เบื่อบ้างก็ผ่านเสียงแม่ บ้างก็ผ่านเสียงทุ้มแบบพ่อ สำหรับฉันทำได้
เพียงเฝ้าฟังอย่างมีความสุข อาจมีบ้างแย้งพ่อในเรื่องวีรกรรมของตัวเองสมัยเด็ก
หลังวางสายฉันบอกแม่ว่า ไม่ต้องหาเตรียมอะไรให้วุ่นวายนะแม่ (แต่ทุกครั้งคำพูดของฉันก็เท่านั้น แม่ก็คือแม่ ลูกเคยกินอะไร
ชอบอะไรแม่ย่อมรู้ โดยเฉพาะน้ำพริกแม่) ที่แม้ฉันมาทำงานอยู่ไกลบ้าน แม่ก็ยังวานให้พ่อขับรถมาส่งไปรษณีย์ให้ไม่ขาด
ทางกลับบ้านจากถนนลูกรังสู่ถนนคอนกรีต
แม้ฤดูกาลผันผ่านมายาวนาน
ฉันเองไม่เคยลืมทางกลับบ้านได้สักที
วันหยุด อย่าลืมกลับบ้านบ้างนะครับ ขอบคุณมากครับผม
ลูก...สำหรับแม่....ลูก เป็นเสมือนเด็กน้อยๆ ของแม่ๆๆ เสมอ นะคะ (พูดในฐานะคุณแม่ วัย55ปี) ยังไงๆ แม่ก็ยังห่วงใยลูกๆเสมอนะคะ ขอบคุณ บันทึกดีดีนี้ค่ะ
บันทึกถึงแม่ ของลูกไกลบ้าน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน