หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ร่วมเรียนรู้ป่า (๕)


พี่บู๊ดเกริ่นตั้งแต่ช่วงเตรียมการว่า ครั้งนี้มิได้มีแต่กิจกรรมตามรูปแบบของชาวเฮฮาศาสตร์ มุมเพิ่มเติมชวนแบ่งปันแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้มาเห็น มารู้ มาเรียน มาทำความเข้าใจ จะเป็นเรื่องป่า ป่าไม้ ต้นไม้ เขื่อน สังคม ฯลฯ จะมีคนดังที่สังคมยกไลค์ให้มาบอกเล่าเรื่องเขื่อนแม่วงศ์ที่กำลังดังด้วย

ครั้งที่ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน บริเวณบกที่สัมผัสถูกปรับเป็นพื้นที่สะดวกที่ถูกจริตคนสมัยใหม่ มีสนามกอล์ฟเพื่อดึงดูดคนชอบเที่ยว คนชอบดวล คนชอบเล็ง คนชอบเดิน พื้นที่ถูกปรับปรุงไปมากแล้ว พา ๒ เท้าเดินไปจึงเห็นร่องรอยดินที่ได้รับการฟื้นฟูจนดีขึ้นมากแล้ว

ที่เขื่อนทับเสลานี้ต่างไป นอกจากพันธุ์ไม้คลุมดินที่เอารูปมาให้ดูแล้ว แถบริมน้ำของเขื่อนยังมีร่องรอยประหลาดๆ ไมยราบยักษ์ขึ้นเป็นดงตามแนวขอบน้ำ ต้นสูงที่สุดราวๆเมตร โคนต้นไม่มีหญ้าแซม หญ้าที่ขึ้นใกล้ๆมีสีน้ำตาลเหมือนหญ้าหน้าแล้ง ลักษณะคล้ายเพิ่งเจอน้ำหลาก มีไม้ล้มลุกขึ้นประปราย ที่พอจะรู้จักเป็นพวกแมงลักคา ครอบจักรวาล มีแต่หญ้าจักรพรรดิ์ หญ้าคาหาไม่เจอ 

  ธรรมดาหญ้าอยู่ใกล้น้ำน่าจะเขียว แต่นี่แห้งตาย

แอ่งน้ำำขังขนาดย่อมๆหลายแอ่งรอบๆบริเวณบ้านพักซึ่งมีผักบุ้งแดงต้นโทรมๆขึ้นเต็ม ชวนให้คิดเรื่องน้ำท่วม น้ำกร่อย บางแอ่งมีผักตบชวาขึ้นแน่นเขียวสวย ความสดชื่นของมันชวนให้นึกภาพดอกสีม่วงสะพรั่งกอ 

    ความสวยของผักบุ้งกับผักตบชวาที่นี่ต่างกันลิบ

พี่บู๊ดนัดหมายไว้เช้ามาก วันนี้จึงตื่นเร็ว จัดการเรื่องส่วนตัวด้วยเครื่องกันหนาวครบชุดเสร็จสรรพยังเหลือเวลาให้สูดอากาศเหนือเขื่อน เดินย้อนศรถนนไปทิศริมน้ำ มองหาเป้าแชะภาพ จึงเห็นว่าพืชบกฟากนี้มีสภาพเหมือนไม้ขาดน้ำทั้งๆที่อยู่ริมฝั่งและน้ำเอ่อถึงได้

ดินถนนเป็นดินฝุ่นสีขาว เนื้อดินน้อย หินเยอะกว่ามาก ดูแข็งแน่น น้ำน่าจะซึมยาก คล้ายดินในหมู่บ้านแถวบ้านที่เข้าไปบ่อย ต้นไม้ที่หมู่บ้านก็สูงราวๆนี้แหละ อย่างนี้เป็นไปได้ว่าน้ำที่เห็นในเขื่อนน่าจะกร่อยสำหรับพืชพันธุ์นี้ เจอดินมีหินมากเข้าไปด้วยจึงโตไม่ขึ้น

ไมยราบยักษ์ต้นแค่เนี้ยะ

ความคิดเรื่องน้ำกร่อยมาจากรสชาติปลาทอดกรอบที่ได้ลิ้มเมื่อคืนเหมือนปลาเห็ดโคนไม่มีผิดเพี้ยน ปลาที่ว่าแม่ครัวบอกว่าเป็นปลาจากเขื่อน (ปลาเห็ดโคนเป็นปลาทะเล มักจะอยู่แถบริมฝั่งแถบน้ำกร่อย)

หันไปมองเขื่อนอีกด้าน โ๊อวววว ตื่นเต้น มีไฟแดงอยู่หลังยอดไม้เหมือนใครขึ้นไปก่อไฟ ฟ้าแดงเรื่อๆให้ความรู้สึกอุ่นทั้งๆที่เย็นจนต้องใช้หมวก  ไฟเลื่อนตัวโผล่ขึ้น ต้นๆเหมือนช้า ตอนล่าเหมือนเร็ว ดวงตะวันนี่เอง ได้มองตะวันขึ้นตอนเช้าตรู่เต็มตาเป็นครั้งแรกของชีวิตเช้านี้แหละ

อยู่ในวัยแป๊บซี่เรียกพี่กันทั้งนั้น อยู่กับธรรมชาติแล้วติดความสะดวก ก็ไม่ได้ซึมซับประสบการณ์ใหม่ๆ คนจากบ้านพัก ๓ หลังตกลงใจเดินไปคุยไปเรียกน้ำย่อยจนถึงศาลาตรงสวนหย่อมด้านหน้าซึ่งห่างออกไปราวครึ่งกิโลเมตร ตั้งคิวรับอาหาร แม่ครัวตักเสิร์ฟให้แบบกะว่าพอดี๊พอดีอิ่ม เติมเต็มท้อง ดูแลกันและกันจนอิ่มหนำจึงเคลื่อนพล 

แต่ละคนตัดสินใจเลือกยานพาหนะของตัว พี่บู๊ดเป็นพ่องานคอยจัดการกองคาราวานรถให้ลงตัว นำทางตรงดิ่งไปสู่ "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง" มุมหนึ่งของทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ตั้งอนุสรณ์สถานของบุรุษผู้พิทักษ์ป่า นามว่า "สืบ นาคะเสถียร"

เส้นทางที่รถวิ่งไปสู่จุดหมายดังกล่าว ผ่านที่ไหน ไกลแค่ไหนบอกไม่ถูก เพลินกับเสียงในรถพร้อมสงสัยตะหงิดๆว่าแม่ครัวแอบใส่กัญชาในอาหารหรือไง พลพรรคในรถจึงมีอารมณ์ขำกันได้ขนาดนั้น

รู้ว่าใกล้ถึงจุดหมายจากความชันที่รถพาตัววิ่ง แปลกใจกับ ๒ ข้างทางแถบนี้ ป่าจะมีความหลากหลายยังไง ก็น่าจะเห็นต้นกล้วยป่าบ้าง ไหงแถบนี้ไม่เห็นสักต้น ไม่ว่าจะริมถนนหรือลึกเข้าไป หรือว่าลักษณะป่าที่นี่มีความเฉพาะที่พิเศษ

เมื่อถึงประตูเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ก็แสดงตัวขอผ่านด่าน รถหยุดจอดห่างจากด่านราว ๑๐๐ เมตร ทุกคนลงจากรถ เจ้าหน้าที่ที่มาดูแลให้ข้อมูลว่ามีเหตุจำเป็นต้องของดการเดินป่า เนื่องจากเพิ่งมีช้างป่าตกลูก

เดินตามเจ้าหน้าที่ไปได้ ๕๐ เมตร ลำห้วยทับเสลาก็ปรากฏแก่ตา เหนือห้วยมีสะพานแขวนไว้ให้เดินข้าม ใกล้คอสะพานมีถนนชันๆให้รถวิ่งลงและขึ้นจากลำห้วย คนที่ขับรถขึ้น-ลงลำห้วยนี้ได้สบายๆถือเป็นเซียนรู้ใจลำห้วย เจ้าหน้าที่เล่าว่ามีคนที่คิดว่าแน่ติดหล่มกลางห้วยไปไหนไม่ได้มาเยอะแล้ว

แตะน้ำลำห้วยรู้สึกเย็น ไม่ถึงกับสั่น น้ำใสเป็นตาตั๊กแตน ไม่เห็นพืชน้ำ มีพื้นที่ให้น้ำแผ่เต็มที่ราวๆ ๑๐ เมตร มีกรวดใหญ่เล็กนอนอยู่ก้นห้วย มีฝายเล็กๆอยู่ไม่ไกลจากสะพานมากนักทางต้นน้ำ

มาเจอหญ้าคาที่เนินริมห้วยนี้เอง พันธุ์หญ้าสะกิดให้เห็นความต่างของดินที่นี่และที่เขื่อน เข้าใจคุณภาพดินแถบเขื่อนมากขึ้น ได้ข้อคิดว่าตัดต้นไม้ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ น่าคิดทั้งนั้นกับเวลาแห่งการรอคอยให้ป่าคืนกลับมาเต็มผืนดังเดิม


๗ ธันวาคม ๒๕๕๖

หมายเลขบันทึก: 556597เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2013 22:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2013 20:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ทุกก้าวที่เราเดินผ่าน

เป็นตำนานมีชีวิตจริงๆ นะคะ

เสียดายที่มิได้มีโอกาสไปร่วมศึกษาป่าด้วยค่ะ

ปกติก็ชอบทริปเดินภูเขาป่าอยู่แล้วค่ะ

ผมคนหนึ่งที่สร้างป่า

น้อง Bright Lily ค่ะ ทุกนาทีมีเรื่องชวนหัว ชวนสนใจแตกต่างไปตามกระแสที่ความคิดเรานำเรา สร้างตำนานให้กับชีวิตเราจนเป็นนิยายเรื่องยาวเสมอ...คิดถึงนะคะ


คุณ pap2498

ดีใจที่ได้คุยกับคนสร้างป่าอีกคนค่ะ ช่วยกันค่ะ ขอบคุณนะคะที่แวะมาคุยกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท