สุดซอย บทเรียนราคาแพงของรัฐบาล ที่ขาดคุณธรรมจริยธรรม

บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2556

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.naewna.com/columnist/1104

 

สุดซอย บทเรียนราคาแพงของรัฐบาล ที่ขาดคุณธรรมจริยธรรม

ผมขอให้ผู้อ่านได้อ่านที่คุณประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ได้แปรญัตติ ในมาตรา 3 ไว้ว่า..

“ให้บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลหรือประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง หรือความขัดแย้งทางการเมือง หรือที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง”ยกเว้น ความผิดมาตรา 112

            เป็นการแปรญัตติ ประวัติศาสตร์ในสภาไทย ที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะจารึกความไม่สำนึกของสมาชิกสภาผู้แทนของพรรคร่วมรัฐบาล การใช้ภาษาที่แสดงอำนาจ เช่น คำว่า สิ้นเชิง เป็นต้น นอกจากจะแปรญัตติที่ขัดกับความถูกต้องและขัดกับนิติรัฐแล้วยังขัดกับกฎหมายที่เสนอโดยคุณวรชัย แต่ใช้ระบบเสียงข้างมาก มีมติผ่านวาระ 2 และ 3ฝืนจิตใจคนทั้งชาติ เวลาตี 4กว่า จะบ้าหรือ?

            ปรากฏการณ์นี้เหลือเชื่อจริงๆและไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับคนไทยในยุคปัจจุบัน

            ปรากฏการณ์ทางการเมืองครั้งนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์คิดง่ายๆว่า

-        ฝ่ายค้านแพ้ทั้งในสภาและนอกสภาไม่มีพลังจะสู้

-        นอกสภา ม็อบไปไม่รอด เพราะมีตำรวจเป็นหมื่นบล็อกไว้หมดแล้ว

ได้ออกกฎหมายความมั่นคงยาวไปถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่ออะไรถ้าไม่ใช่วางแผนล่วงหน้ากันไว้

ผมจึงใคร่ขอให้พูดถึงบุคคลเหล่านี้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ท่านแรกคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยกรุณาแสดงจุดยืนเพื่อประชาชนบ้างไม่ใช่แค่รักษาอำนาจ เพื่ออยู่รอดไปวันๆ คนไทยเขาจะมองบทบาทของท่านอย่างไรและพูดได้อย่างไร ท่านเสนอสองฝ่ายพบกันครึ่งทาง ยกโทษให้คนผิดได้อย่างไร?

ทหารระดับผู้บังคับกองพันคุมกำลัง น่าจะแสดงออกเพื่อประชาชนบ้าง  อะไรที่ไม่ถูกกฎหมายหรือขัดจริยธรรมเห็นไม่สมควรก็ไม่ควรทำต่อไป ทหารต้องทำเพื่อประชาชน

-        ตำรวจดีๆ ควรกล้าออกมา แสดงจุดยืนว่า การขัดจริยธรรมยกโทษให้คนโกง ตำรวจยอมไม่ได้เพราะมีหน้าที่ต้องรักษากฎหมาย

มหาวิทยาลัยมหิดล ,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากรและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

กลุ่มบุคคลเหล่านี้ผมขอยกย่อง

-        กลุ่มนักศึกษาและผู้บริหารในมหาวิทยาลัยสำคัญทุกๆแห่ง ในประเทศ เช่น จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์, ศิลปากร, มศว. ใครบอกว่านักศึกษาได้แต่ร้องเพลง และเป็นดารา ไม่จริง  ถึงจุดหนึ่งก็ออกมาแสดงจุดยืนได้สง่างาม ล่าสุดทีมธรรมศาสตร์ โดยการนำของอาจารย์สุรินทร์ พิศสุวรรณ บุกไปที่สภาฯยื่นหนังสือสำเร็จขอบคุณธรรมศาสตร์อย่างยิ่ง ผมภูมิใจมาก

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมไปบรรยายที่มหิดล ปรากฏว่าในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดลไม่เคยออกมา แสดงบทบาททางการเมืองบ่อยนัก แต่ศาสตราจารย์รัชตะ รัชตะนาวินอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นลูกชายของ ศาสตราจารย์อรุณ รัชตะนาวิน อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ผมเคารพรักและมีบทบาททางวิชาการต่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาก ได้นำคณาจารย์และนักศึกษาออกมาแสดงจุดยืนคัดค้าน เป็นที่น่าชื่นชมมาก

ชาวโรงพยาบาลศิริราช, ชาวสีลม และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

-        กลุ่มนักเรียน อาชีวะและนักเรียนมัธยมได้แสดงพลังอย่างน่าชื่นชมซึ่งไม่เคยทำมาเป็นเวลานาน

-        กลุ่มนักธุรกิจสีลม และกลุ่มนักธุรกิจ นำโดยคุณประมนต์ สุธีวงศ์ ต่อต้านคอรัปชั่น ออกมาเป็นจำนวนมาก แสดงว่าทนไม่ไหวกับวิธีการแบบนี้

-        กลุ่มวิชาชีพ ต่างๆ โดยเฉพาะหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลศิริราช ได้ออกมาแสดงพลัง ผนึกกำลังกันทุกๆจุดน่าชื่นชมมาก

ผมไม่เคยคาดมาก่อนว่า จะมีกลุ่มพลังที่มีความกล้าหาญสู้กับความไร้จริยธรรม ที่ทำเพื่อคนๆเดียวและขอยกย่องข้าราชการ กระทรวงพาณิชย์กว่า 100 คน ที่ทนไม่ไหวกับรัฐบาลชุดนี้

อนาคตคืออะไร? พลังความดี พลังของความถูกต้องชนะอธรรมครับ เพราะถ้าปล่อยให้กฎหมายฉบับผ่านไป เราจะสอนลูกหลานของเราอย่างไร?

“ว่า ถูก ก็ ถูก ผิด ก็ผิด”

ศาสตราจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

[email protected]

แฟกซ์ 0-2273-0181

www.ChiraAcademy.com

[pap2498]

ฝ่ายค้านอย่างไรก็แพ้เพราะฝ่ายรัฐเป็นฝ่ายที่ได้ซื้อมาเกือบทั้งนั้น เหมือนบริษัทไม่น่าเป็นพรรค