การพ่ายแพ้จะเป็นการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ คำถามคือทำได้หรือเปล่า?


บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.naewna.com/columnist/1104

 

การพ่ายแพ้จะเป็นการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ คำถามคือทำได้หรือเปล่า?

คำพิพากษาของศาลชี้ให้เห็นว่าวิธีการทำงานของรัฐบาลและสภาเสียงข้างมาก ที่ขาดคุณธรรมจริยธรรมโดยไม่มีเป้าหมายทำเพื่อส่วนรวม ในที่สุดก็ไม่สำเร็จคนก็จะตาสว่าง เข้าใจความจริงมากขึ้น

            มีหนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่งชื่อว่า Sometimes You Win, Sometimes You Learn พูดว่า You lose, You learn เขียนโดย John Maxwell เน้นว่าถ้าแพ้แล้ว นำไปเป็นบทเรียน จึงจะประสบความสำเร็จ

            คำถามก็คือ คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ ประธานสภาสมศักดิ์  เกียรติสุรนนท์ ประธานนิคม ไวยรัชพานิช  และลิ่วล้อทั้งหลายจะเรียนรู้จากความล้มเหลวครั้งนี้หรือไม่

            คำตอบก็คือ น่าจะไม่ ตัวอย่างเช่นปลุกระดมเสื้อแดงทั้งแผ่นดินแต่หน้าแตกไปตามๆกัน เพราะปลุกกระแสไม่ขึ้น จะขึ้นได้อย่างไร เพราะผู้นำไม่เห็นหัว ไม่ให้เกียรติรากหญ้า มียุทธศาสตร์แจกเงิน และก็ถูกแกนนำที่หักหัวคิวจึงระดมคนมาได้น้อยกว่าที่คาดไว้มาก อารมณ์ก็ไม่เหมือนเดิม เพราะทำไปเพื่อใคร

            หรือส.ว.ผ่านกฎหมาย2ล้านล้านเสร็จสิ้นครั้งนี้ เกือบตี 3 ทำแบบนี้ก็แปลว่าไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเลย ถูกฟ้องที่ศาลรัฐธรรมนูญแพ้อีกก็อย่ามาโทษกัน

หนังสือ Sometimes You Win, Sometimes You Learn เขียนโดย John Maxwell

            ผมก็เลยเข้าใจความรู้สึกของคนไทยที่ไม่ เชื่อถือหรือไว้ใจรัฐบาลชุดนี้ ถ้าเงียบไป180 วันคงจะกลับเข้ามาอีกแน่นอน จึงสมควรที่จะให้คนไทยที่มีความรู้ รวมพลังสู้กันต่อไปเพื่อระยะยาวของเรา

            ในช่วง 2-3 สัปดาห์ มีแต่เรื่องการเมือง ที่จำเป็นต้องเกาะติดกระแส แต่ถ้ามีช่องทางสะดวกขึ้นผมคงได้มีเวลาทำอะไรเพื่ออนาคตประเทศเรา

            เริ่มด้วยพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่ทำให้ไทยเฉยค่อยๆหมดไป พลังเงียบพากันออกมาและในที่สุดพลังใช้ปัญญาอาจชนะ อย่างน้อยในกทม.บรรดาลิ่วล้อที่ทำตัวอันธพาลคงจะทำลำบาก กฎหมายความมั่นคงที่ขาดความเป็นธรรมก็ไม่มีความหมาย บรรดาผู้รักษากฎหมาย ทั้งตำรวจและ

ทหารเริ่มละอายต้องใช้งบประมาณใช้มากมาย ไร้คุณค่าเพื่อใครน่าจะสำรวจตัวเองว่าคุ้มกับภาษีประชาชนเพื่อรับใช้ประเทศไม่ใช่รับใช้บุคคลบางคน

            ถ้ามีการยุบสภา การเลือกตั้งจะมีผลเปลี่ยนไปหรือไม่  คิดว่าน่าจะอยู่ที่ 3-4 ปัจจัย

-          คนเสื้อแดง ตาสว่างขึ้นหรือเปล่า

-          เงินเป็นปัจจัยสำคัญอย่างเดิมไหม

-          พรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์จะปรับกลยุทธ์อย่างไร

-          และสุดท้ายจะมีพรรคใหม่เกิดขึ้นหรือเปล่า

เท่าที่ทราบอย่างน้อยมี 2 พรรคใหม่ที่ปรึกษามาหารือกับผม คิดว่าจังหวะนี้น่าจะมีพรรคใหม่ๆเกิดขึ้น อยากให้เกิดในชุมชนเป็นพรรคตัวแทนของชาวบ้านและกลุ่มวิชาชีพอย่างแท้จริง และควรเน้น

-          เน้นเรื่องไม่สนับสนุนคอรัปชั่น

-          มีจริยธรรม ศีลธรรม

-          จงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวฯ

-          พัฒนาทุนมนุษย์คนไทยอย่างจริงจัง

ถึงแม้ว่าผมจะต้องวุ่นวายกับการเมืองบ้างแต่ก็ต้องคิดเพื่อประเทศระยะยาว  มีข้อคิดขอฝากไว้หลายเรื่องดังนี้

เรื่องแรก อยากจะให้คนไทยที่สนใจวิกฤติปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ได้ทราบว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีวิทยาเขตปัตตานี เป็นวิทยาเขตที่มีประวัติทางวิชาการมานาน ทุกๆคนต้องให้ความสนใจและสนับสนุนวิทยาเขตแห่งนี้  ถ้าปล่อยให้ไปตามยถากรรม ก็จะไม่มีนักเรียนไทยพุทธเรียนเพราะกลัวความรุนแรง ปัจจุบันเป็นชาวมุสลิม 3 จังหวัดกว่า 90% แต่ก่อนจะมีนักศึกษาเก่งจากจังหวัดอื่นๆเข้าเรียน และอาจารย์เหล่านี้เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงมีความเสียสละพร้อมจะรับใช้ประเทศ ทั้งๆที่ปัจจุบันทางการเมืองยังไม่นิ่ง น่าจะช่วยกันสนับสนุนให้เป็นฐานทางวิชาการและมีการแก้ปัญหาโดยใช้งานวิจัยชุมชนการพัฒนาอาชีพ

ประเด็นที่ 2 ผมได้ไปสอบวิทยานิพนธ์ ระดับปริญญาเอก DBA 2 ฉบับ ที่รามคำแหง  การที่นักศึกษามุ่งมั่นทำงานให้ได้ผลนั้น นอกจากจะได้ปริญญาเอกเพื่อปรับตัวเองให้ดีแล้วข้อสรุปบางอย่างยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและผู้เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องแรกได้กำหนดปัจจัยที่มีผลต่อบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และเลือกบริษัทที่เน้นธุรกิจการเกษตร ค้นพบว่าปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจในการเกษตร

การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

ของไทยดีขึ้น มีศักยภาพแข่งขันในอาเซียนได้ก็คือ ปัจจัยทางนวัตกรรมต่างๆ ไม่ว่าเรื่องการหาวิธีใหม่ๆ หรือการบริหารจัดการสมัยใหม่ หาตลาดต่างประเทศ การเงิน การตลาดและ IT

เรื่องนี้ ขอชมเชยคุณชาญยุทธ เฮงตระกูล ที่ได้สนับสนุนให้ผมและทีม กศน. จัดการสร้าง Trainers 200 คน และจากอาเซียนเพื่อจะพัฒนาศักยภาพของการเกษตรไทยให้รองรับอาเซียน ผมคิดว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการที่ 3

ซึ่งสิ่งที่กระตุ้นให้ประเทศมีศักยภาพด้านการเกษตรให้มีคุณภาพในการแข่งขัน ซึ่งโครงการจะเริ่มเดือนมกราคมนี้

ส่วนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกอีกฉบับหนึ่งพบว่า พยาบาลที่ทำงานโรงพยาบาลของรัฐอยู่ได้ไม่นานก็ย้ายไปอยู่โรงพยาบาลเอกชน

สาเหตุใหญ่ๆ คือ ไม่มีตำแหน่งรองรับ กพร.และ กพ.จำกัดตำแหน่งข้าราชการ แต่ไปเพิ่มตำแหน่งพนักงานข้าราชการ ซึ่งมีรายได้เท่าหรือมากกว่า ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี แพ้ข้าราชการ

อนาคตการจะปรับพนักงานข้าราชการทุกๆแห่งให้มาเป็นข้าราชการ น่าจะเป็นวาระสำคัญ แต่รัฐบาลชุดนี้คงไม่ทำเพราะ ไม่ได้ช่วยพี่ชาย ช่างประชาชน

รัฐบาลชุดนี้ไม่สน?

ศาสตราจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

[email protected]

แฟกซ์ 0-2273-0181

www.ChiraAcademy.com

คำสำคัญ (Tags): #แนวหน้า
หมายเลขบันทึก: 556643เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2013 11:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2013 11:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ปล่อยให้เป็นกรรมของประชาชน ด้วยคนโกงย่อมซื้อเสียง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท