Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

พระบารมีปกเกล้า ชาวไทย จากพระราชกระแส... อันทรงคุณค่ายิ่ง...


เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา
มีข่าวชิ้นหนึ่งปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันอังคารที่ 26
พฤศจิกายน 2556 หน้า 2 กรอบขวาบน โปรยหัวข่าวว่า
"ทรงแนะให้ใช้การเจรจา"...
โดยในรายละเอียดเนื้อข่าวโดยสรุปเขียนไว้ว่า....

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีรับสั่งให้เข้าเฝ้าฯ
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 โดยทรงรับสั่งว่า...
เป็นห่วงพสกนิกร ไม่อยากให้คนไทยทะเลาะกัน มีอะไรให้พูดคุยกัน
ขอให้จบด้วยการเจรจา...

...ถ้าไม่อยากให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ทุกฝ่ายควรจะปฏิบัติตาม..
จากเนื้อหาสาระในข่าวกรอบเล็กๆ ดังกล่าว อาตมาเชื่อว่า
สาธุชนคงจะได้รับทราบกันไปบ้างแล้ว
ซึ่งข่าวดังกล่าวนับเป็นมหามงคลกับประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ..
รักแผ่นดินทั้งหลาย
ที่ได้รับร่มพระบารมีแผ่ปกป้องคุ้มครองรักษาให้พ้นจากภัยทั้งปวง
จึงควรอย่างยิ่งต่อการอัญเชิญพระราชกระแสดำรัสดังกล่าว

เพื่อเผยแผ่ไปทั่วแผ่นดินสู่มหาชนชาวไทยทุกภาคส่วน
เพื่อการน้อมใส่เกล้ารับสนองตามพร ะราชประสงค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร ของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า
โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี
ทำหน้าที่กำกับดูแลหน่วยงานของส่วนราชการทั้งหมด..
จะได้ใส่ใจในพระราชกระแสรับสั่ง
อันเปี่ยมล้นไปด้วยพระมหากรุณาที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างเสมอกัน...
ประการสำคัญ ด้วยทรงปรารถนาให้ทุกฝ่ายมีสติ รู้จักความเหมาะควร
โดยเฉพาะการคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม
และเพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยการไม่กระทำการใดๆ
ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
เนื่องในห้วงเวลาแห่งวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556
ที่ใกล้จะถึงนี้ ซึ่งประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าควรจะได้พร้อมเพรียงกัน
รู้ รัก สามัคคี ถวายความจงรักภักดีแด่องค์พระมหากษัตริย์ของชาวไทย
จึงไม่ควรมีการสร้างเรื่องใดๆ ที่ไม่เป็นมงคลให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
ไม่ว่าจะเป็นคณะบุคคลใดก็ตาม.. โดยเฉพาะ
ไม่ควรมีเหตุการณ์การทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ...

อาตมาได้พยายามติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาโดยตลอด
โดยเฉพาะในเรื่องการแสดงพลังของมวลชนผู้รักชาติ ที่ออกมาต่อต้าน
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ การแสดงออกถึงการต่อต้านระบบทุนนิยมทักษิณ...
ซึ่งมีการผลักดันเพื่อการออกพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว
อันมีจุดมุ่งหมายที่ประชาชนทุกหมู่เหล่ารับไม่ได้
แม้แต่กลุ่มมวลชนจัดตั้งทางการเมืองของกลุ่มนักการเมือง ที่พยายามผลัก
ดันให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และพระราชบัญญัติอีกหลายฉบับ....
จึงได้เห็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญทางการเมืองไทย
เมื่อทุกส่วนของประชาชนชาวไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน
พร้อมใจกันแสดงพลังต่อต้านการใช้อำนาจทางการเมืองของกลุ่มการเมือง
ซึ่งอยู่ในส่วนของผู้มีอำนาจบริหารปกครองประเทศ
จนต้องยับยั้งเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวอ้างว่า
จะยุติการผลักดันการออกพระราชบัญญัติเหล่านั้น
ผ่านกระบวนการตามแบบรัฐสภา...
ซึ่งก็หาได้ยุติกระแสต่อต้านที่ได้แผ่กระจายวงกว้างไปทั่วประเทศได้ไม่...
มิหนำซ้ำ ยังเกิดการแปรรูปของพลังมวลมหาประชาชนครั้งยิ่งใหญ่
เพื่อแสดงพลังมวลชนอย่างมีเจตนาในการขับไล่อำนาจการเมืองที่ฉ้อฉล
มุ่งทำลายสังคมไทยมาโดยตลอด ให้หมดสิ้นไป...
โดยเฉพาะจากโรคร้ายทุจริตประพฤติมิชอบในบ้านเมือง ที่เกิดจากอำ
นาจแสวงหาของนักการเมืองบางกลุ่มที่ประพฤติฉ้อฉลสมคบกับข้าราชการกังฉินบางบุคคล-บางคณะ
ซึ่งกระทำการทุจริตมาอย่างย่ามใจ ไม่ใส่ใจความรู้สึกของสุจริตชน
ในฐานะประชาชนเจ้าของประเทศ

จึงได้เกิดปรากฏการณ์
รวมพลังของประชาชนครั้งยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อ 26
พฤศจิกายน 2556 ณ ถนนราชดำเนิน ในใจกลางกรุงเทพมหานคร
ที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าจากทุกภาคส่วน
พร้อมใจกันเดินทางไปร่วมกันแสดงพลังมวลมหาประชาชน
เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของเจ้าของประเทศ
ในการไม่ยอมรับอำนาจทางการเมืองที่ทุจริต ฉ้อฉล
กระทำการประพฤติมิชอบต่อประชาชน.. ต่อเจ้าของประเทศ
ดังภาพข่าวสารที่ผุดปรากฏไปทั่วโลก

แม้ว่าจะมีการยับยั้งยุติการผลักดันพระราชบัญญัติต่างๆ
ที่ถูกต่อต้านของกลุ่มอำนาจทางการเมือง
ที่อ้างความชอบธรรมตามกฎหมายในการกระทำ แต่...
แต่ก็หาได้สร้างความไว้วางใจให้กับประชาชนส่วนใหญ่ที่ออกมาแสดงความรู้สึกต่อต้าน
ไม่... จึงได้เห็นการขับเคลื่อนพลังมวลชนอย่างต่อเนื่อง
เพื่อการสลายระบบอำนาจทางการเมืองที่ขาดความชอบธรรม.. ไร้จริยธรรม
ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ถนนราชดำเนิน และอีกหลายๆ แห่ง
ที่แผ่กระจายไปทั่วประเทศ จึงเกิดขึ้น โดยมีท่าทีปฏิเสธอำนาจรัฐ
จากการถืออำนาจการบริหารประเทศโดยวิถีทางการเมือง!?...
จึงนำไปสู่การเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพื่อการสลายการชุมนุมของประชาชน
ตลอดจนมีการสร้างกลุ่มพลังมวลชนทางการเมืองขึ้นมา
เพื่อต่อต้านกลุ่มประชาชนที่ออกมารวมตัวกันเรียกร้องความ
ยุติธรรมโดยสันติวิธี...

สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในห้วงเวลาดังกล่าว คือ
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกหมู่เหล่า...
โดยเฉพาะในความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์
ที่ออกมาแสดงความรู้สึกเรียกหาความชอบธรรมจากกลุ่มการเมืองฉ้อฉล
ที่อาจจะถูกทำร้ายด้วยการสลายฝูงชนจากเจ้าหน้าที่บางหมู่คณะ..
หรือจากมวลชนจัดตั้งทางการเมืองของกลุ่มการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับประชาชนผู้บริสุทธิ์...

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายใดๆ เกิดขึ้น
ดังที่หลายฝ่ายห่วงใยต่อสถานการณ์ที่ล่อแหลมทุกขณะ ทั้งนี้
อาจจะเป็นเพราะแนวสันติวิธีของกลุ่มพลังมวลชนหรือด้วยความสำนึกที่ดีมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ
ที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
และความมั่นคงของประเทศชาติ
ซึ่งน้อมรับพระราชกระแสรับสั่งตามที่กล่าวมาเป็นสำคัญ

แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยอำนาจใดๆ ก็ตาม... สิ่งที่ควรยินดีในขณะนี้ คือ
การที่ทุกฝ่ายรักษาบทบาทหน้าที่อันเป็นไปตามกฎหมายและกฎศีลธรรม..
ตลอดจนถึงกฎสังคม อันหมายถึง วัฒน ธรรมประเพณีอันดีของสังคมไทยวิถีพุทธ..
ที่มีหลักเมตตากรุณาเป็นหัวใจของสังคม ถือปฏิบัติต่อกันมาโดยตลอด
ซึ่งคงจะไม่มีใครยอมรับได้ หากมีการใช้อำนาจนอกระบบผิดกฎหมาย ไร้จริยธรรม
ขาดเมตตาธรรม เข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาจนเกิดความเสียหายต่อประชาชนที่บริสุทธิ์
ซึ่งแสดงออกถึงความรู้สึกอันถูกต้องโดยธรรม และชอบที่กระทำ
ภายใต้กฎหมายและกฎศาสนา (ศีลธรรม).. และกฎสังคม...

...หลายๆ ครั้งที่มีข่าวแพร่ออกมาว่า
จะมีการใช้กำลังเข้าสลายฝูงชนของผู้มีอำนาจหน้าที่...
โดยเฉพาะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจในการบริหารประ เทศ...
หรือจากการใช้กลุ่มพลังมวลชนของฝ่ายการเมืองที่มีอำนาจ
เพื่อต่อต้านอำนาจของประชาชน ออกมาแสดงบทบาทโดยชอบ ธรรม..
ย่อมนำมาซึ่งความไม่สบายใจและให้เป็นห่วงใยในประชา ชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า
ที่ออกมาแสดงเจตนารมณ์เรียกร้อง ทวง ถามความถูกต้องชอบธรรม
และ/หรือเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทย
ไปให้พ้นจากอำนาจการเมืองเลวร้ายที่ครอบงำมายาวนาน
จนประเทศชาติเสียหายอย่างหนัก ดังเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏ


โดยเฉพาะภัยจากการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง การพยายามย่อย
สลายอำนาจโครงสร้างหลักทางสังคมไทยที่เป็นเสาหลักของแผ่น ดิน
ซึ่งแม้แต่สถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศก็ถูกกลไกการ
เมืองครอบงำย่อยสลายไปจนเกือบสูญเสียสภาพ
ดังหลายเรื่องราวที่ปรากฏให้น่าหยิบยกมาศึกษา ดังเช่น
ความแข็งแรงของสำนักธรรมกาย...

... แต่ด้วยพระราชกระแสที่เปี่ยมล้นไปด้วยพระมหากรุณาใน
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงรับสั่งว่า
"ทรงเป็นห่วงพสกนิกร... ไม่อยากให้คนไทยทะเลาะกัน.."


จึงมีต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่มีหน้าที่โดยตรงต่อการดูแลส่วน
ความเรียบร้อย... จึงยังความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในชีวิตและทรัพย์
สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกหมู่เหล่า แม้ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม
ทั้งนี้ด้วยผู้รับผิดชอบการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ...
ได้รับสนองพระราชกระแสรับสั่ง

จึงให้รู้จักยั้งคิด..ยั้งทำ
มีสติระลึกรู้ชอบถึงการใช้อำนาจหน้าที่เพื่อประโยชน์แห่งประเทศชาติเป็นสำคัญ
มากกว่าการสนองคำสั่งของผู้มีอำนาจที่อาจจะไม่ชอบด้วยจริยธรรม
แม้ชอบด้วยกฎหมาย...
ที่อาจจะนำไปสู่ความเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติทันที หากกระทำการใดๆ
โดยขาดความยั้งคิด.. และไม่ชอบธรรม
โดยเฉพาะการตระหนักถึงการน้อมรับพระราชกระแสดำรัสที่ว่า....
ขอให้จบด้วยการเจรจา ถ้าหากไม่อยากให้ระ คายเคืองเบื้องพระยุคลบาท....

จึงควรอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายควรน้อมรับถือปฏิบัติตาม พระราช กระแสรับสั่ง
อันเปี่ยมล้นไปด้วยพระมหากรุณาดังกล่าว เพื่อนำบ้าน
เมืองกลับคืนสู่ความสงบในวิถีการเปลี่ยนแปลงที่ชอบโดยธรรม
พ้นจากอำนาจเลวร้ายทั้งปวง ที่เกาะกินบ้านเมืองมายาวนาน... โดย
เฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร..ตำรวจ ซึ่งต้องทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ในชีวิต
ทรัพย์สิน และความมั่นคงของประเทศ ที่ควรน้อมรับใส่เกล้าฯ
เพื่อถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
ในการที่จะไม่ใช้อำนาจเกินขอบเขตอย่างขาดเมตตากรุณา
ดังเช่นหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา

ในวโรกาสดังกล่าวนี้
อาตมาภาพจึงใคร่ขอพระราชทานพระราชานุญาต

ขออัญเชิญพระราชกระแสรับสั่งในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 ดังที่
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)
ให้สัมภาษณ์มาแสดง เพื่อความเป็นมงคลในประเทศชาติ..
เพื่อการเตือนให้ทุกฝ่ายมีความระลึกรู้ชอบ ก่อนจะคิดทำการใดๆ
โดยเฉพาะการถวายความจงรัก ภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ที่ใกล้จะถึงแล้วนี้...
และเพื่อขอพระราชทานพระราชานุญาต ถวาย พระพร แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทยในครั้งนี้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ... เทอญ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ขอถวายพระพร

พระอาจารย์อารยวังโส

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
จันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2556

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 556724เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2013 10:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2013 10:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท