วันนี้มีหนังสือดี ๆ มาแนะนำค่ะ แต่จะเกี่ยวกับเจ้าหนูกับเนยแข็งนี่อย่างไร... ตามมาเลยค่ะ
หนังสือเล่มนี้ แต่งโดย M.D. Spencer Johnson แปลโดย คุณประภากร บรรพบุตร
มีโอกาสหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญค่ะ คือไปรอเพื่อนที่ห้องสมุดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วล่ะค่ะ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ขอบอกนะคะ
มีหนังสือเล่มหนึ่งวางทิ้งไว้บนโต๊ะที่ไปนั่งรอ ก็เลยอ่านดูทั้งๆ ที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแปลสักเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านแล้วต้องยืมกลับไปอ่านต่อที่บ้านเลยล่ะค่ะ ทำให้ทัศนคติที่มีต่อหนังสือแปล เปลี่ยนไปเลยค่ะ
เนื้อหาของเรื่องนี้ก็มีอยู่ว่า มีหนู 2 ตัว คือสนิฟฟ์และเสเคอรี่ คนตัวเล็กเท่าหนู 2 คน คือเฮมและฮอว์ วิ่งวนหาเนยแข็งอยู่ในเขาวงกตเพื่อเอามาเลี้ยงตัวเอง ทั้งสี่ชีวิตใช้เวลาในแต่ละวันในการวิ่งหาเนยแข็งในเขาวงกตนั้น
เจ้าหนู สนิฟฟ์ และ สเคอร์รี่ ใช้วิธีลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ โดยใช้จมูกเป็นเครื่องนำทาง
พวกมันจะจำทางที่ไม่มีเนยแข็งไว้ แล้ววิ่งไปทางอื่นจนถูกทาง ส่วนคนแคระ เฮ็ม กับ ฮอว์ ก็ใช้ความรู้และประสบการณ์ในอดีตเข้าช่วย ในที่สุดทั้ง 4 ชีวิต ได้พบกับคลังเนยแข็งขนาดใหญ่ ที่ดูเหมือนมีเนยเพียงพอที่ให้กินไปได้ตลอดชีวิต
พวกเขาได้พบแหล่งอาหารอันวิเศษที่แสนสะดวกสบาย และไม่ต้องวิ่งตระเวนหาอีกต่อไป
เวลาผ่านไปจนมาถึงเช้าวันหนึ่ง ทั้ง 4 ชีวิต ได้พบว่าเนยแข็งกำลังจะหมดไป สนิฟฟ์ เห็นเช่นนั้นก็ไม่เสียเวลาวิเคราะห์ มันออกวิ่งค้นหาเนยแข็งก้อนใหม่ทันที ส่วนสเคอร์รี่ เห็นเช่นนั้นก็วิ่งตามโดยไม่รอช้า สนิฟฟ์ ไปถึงไหนสเคอร์รี่ ก็ไปที่นั่น
คนแคระ เฮ็ม กับ ฮอว์ ไม่คาดมาก่อนว่าเนยแข็งจะหมดไป เฮ็ม ถึงกับตีโพยตีพายกล่าวโทษเทวดาฟ้าดินว่า ไม่ยุติธรรมกับเขา
แล้ววิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ว่าเนยแข็งควรจะกลับมาหาเขาอีก แต่ ฮอว์ ดูจะยอมรับความจริงได้มากกว่า เขาเริ่มคิดว่า เขาควรทำการเปลี่ยนแปลง เขาจึงชวน เฮ็ม ให้ออกไปหาเนยแข็งใหม่แบบที่หนูสองตัวกำลังทำอยู่ เฮ็มไม่ยอมรับฟัง ฮอว์ จึงไปสู่เขาวงกตตามลำพัง
และแล้วเจ้าหนูทั้งสองก็ได้พบคลังเนยแข็งแห่งใหม่ที่ดีและใหญ่กว่าเดิม
ฮอว์นั้นแม้จะออกมาช้ากว่าเจ้าหนูทั้งสอง แต่ในที่สุดเขาก็ได้พบคลังเนยแข็งใหม่ เช่นกัน เขาจึงกลับไปชวน เฮ็ม
ให้ออกมาจากสถานการณ์ที่ไม่มีเนยแข็งเหลืออยู่ แต่ เฮ็ม กลับปฏิเสธทั้งยังไม่ยอมรับเนยแข็งที่ฮอว์ อุตส่าห์เอาไปฝาก ฮอว์
จึงจำใจต้องปล่อยเพื่อนไว้เช่นนั้น
ระหว่างที่ ฮอว์ ออกมาเผชิญโชคครั้งใหม่ ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เขาสรุปสัจธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเขียนไว้บนกำแพงเป็นระยะๆ 'ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง คุณอาจจะสูญพันธุ์'
ฮอว์ สุขสบายอยู่ในคลังเนยแข็งใหม่ แต่ก็ยังคิดและหวังว่า เฮ็มเพื่อนรักจะตามมาตามลายแทง และข้อคิดที่เขาบอกทางไว้ให้ แล้ววันหนึ่ง ฮอว์ ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากทางเดินข้างนอก นั่นอาจจะเป็น เฮ็ม ก็ได้ใครจะรู้
4 ชีวิตเป็นตัวแทนแห่งสัญชาตญาณและความคิดในการตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
สนิฟฟ์ เป็นผู้ดมกลิ่นการเปลี่ยนแปลงได้ก่อนใคร จึงนำออกไปก่อน
สเคอร์รี่ ไม่คิดอะไรเลย วิ่งตามกระแสอย่างเดียว
เฮ็ม เป็นผู้ปฏิเสธและต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
โดยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะปรากฏโฉมในทางเลวร้ายกว่าเดิม
ส่วน ฮอว์ เป็นคนเรียนรู้และปรับตัวตามยุคสมัย
เมื่อเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้รู้ว่้า "อย่าประมาท อย่าชะล่าใจ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ "
นี่ก็เป็นตัวอย่างสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ กับปั๊มหลอดร้างๆ 55
แล้วคุณล่ะคะ พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงหรือยัง ?
MoTtAnOi 16/01/2557
เคยอ่านแล้วค่ะ สนุกและได้ข้อคิดที่ดีทีเดียว
เพราะการเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรม ...ไม่ช้าก็เร็ว... ไม่บางส่วนก็ทั้งหมด..
ขอบคุณค่ะกับบันทึกนี้