การกำหนดกรอบอัตรากำลัง...ทำให้องค์กรมีปริมาณคนทำงานที่เหมาะสม
ทำให้องค์กรไม่ใหญ่โต อุ้ยอ้ายจนเกินไป...ทำให้มีคนทำงานเพียงพอไม่ขาดแคลน
และมีภาระงานต่อคนพอดีต่อการทำงาน บางครั้งก็เป็นข้ออ้างของหน่วยงานว่า
ขาดแคลนอัตรากำลังคน...คนทำงานไม่พอบ้าง...ถ้าต้องการให้งานเดินก็ต้องหาคน
เข้ามาทำงาน เพราะการหาคนเพิ่มนั้นจะรวมถึงหน่วยงานต้องหางบประมาณมาเพิ่ม
ให้ด้วย...จึงจะทำให้ได้ผลงานออกมา...
อย่างไรแล้วก็ยังมีหลายหน่วยงานในองค์กรที่มีอัตรากำลังขาดและอัตรากำลังเกิน
จึงจำเป็นที่จะต้องมีการวิเคราะห์ภาระงานของแต่ละหน่วยงานและมีการวางแผนเรื่อง
อัตรากำลังให้พอเหมาะ พอดีกับความต้องการอัตรากำลังคนของหน่วยงาน
การวิเคราะห์และวางแผนอัตรากำลังจะเข้ามามีบทบาทกับส่วนราชการ นับตั้งแต่
ภาครัฐกระจายอำนาจมาให้กับส่วนราชการได้บริหารจัดการเอง...ส่วนราชการแต่ละแห่ง
จำเป็นต้องมีข้อมูลที่จะต้องเตรียมวิเคราะห์และวางแผนอัตรากำลังไว้
สำหรับขั้นตอนในการวางแผนอัตรากำลังของหน่วยงานประจำปี มีดังนี้
๑. ทบทวนกระบวนการทำงานและขั้นตอนในการทำงาน รวมทั้งระยะเวลาที่ได้ใช้ในแต่ละ
ขั้นตอน
๒. สำรวจภาระงานขององค์กร โดยพิจารณาจากภาระงานที่ต้องทำหรือการใช้เทคโนโลยี
เข้ามาช่วย
๓. รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนอัตรากำลังประจำปี เช่น จำนวน
บุคลากรปัจจุบันและงบประมาณที่จะได้รับการจัดสรร
๔. นำงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาคำนวณอัตรากำลัง ซึ่งคิดจากค่าจ้างเงินเดือน
ของบุคลากรและค่าใช้จ่ายตามแผนการดำเนินงาน
๕. ใช้เทคนิคการวิเคราะห์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ประสิทธิภาพของการทำงาน ฯลฯ
๖. การจัดทำแผนอัตรากำลังประจำปีของแต่ละปีของหน่วยงานต่าง ๆ
๗. ควบคุมอัตรากำลังคนตามแผนอัตรากำลังประจำปีแต่ละปี
๘. ดำเนินการปรับปรุุงอัตรากำลังเพิ่ม - ลดของจำนวนบุคลากรด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น
การเกลี่ยคนจากหน่วยงานที่มีอัตรากำลังเกินไปยังหน่วยงานที่มีอัตรากำลังขาด
๙. หมั่นทบทวนและปรับปรุงข้อมูลอัตรากำลังคนในคราวต่อไปตามเวลาที่กำหนด
นี่คือ...การวิเคราะห์และวางแผนอัตรากำลังที่งานบุคคลจะต้องดำเนินการและ
ประสานกับงานแผนงานและงบประมาณ เพื่อดำเนินการจัดทำให้กับหน่วยงานตามที่
ได้กำหนด
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๑๑ มีนาคม ๒๕๕๗
ขอบคุณค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่ง น่าทานมาก ๆ ค่ะ พ่อครัวแท้ ๆ
ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านค่ะ