nobita
นาย ชัยพร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

การปลูกต้น "ปิยวาจา" ในสังคมไทย


     ผมได้รับโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรม   ทำผมได้เจอกับเพื่อน ๆ ในสังคมแห่งการเรียนรู้ และได้ร่วมแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ที่สำคัญได้เจอกับญาติจริง ๆ อีกด้วย คือ พี่ Pooklook88  นั่งเองครับ...

     กิจกรรมนี้ เริ่มต้นที่ พี่ศิลา และ ดร.ยุวนุช ซึ่งเป็นตัวแทน อ.จันทวรรณ ดำเนินรายการโดยนำเรื่องไว้ว่า ปัจจุบันในบ้านเรา เมืองเรา สังคมเรา และใกล้ ๆ ตัวเรา มักจะใช้ โทสะวาทะกันมากขึ้นทุกวัน ทุกวัน แต่กลับพบว่าในสังคมของ G2K กลับมีการใช้ ปิยวาจากันเป็นเรื่องปกติ สม่ำเสมอ  จึงอยากให้พวกเราที่มาร่วมเสวนากันในวันนี้ ในฐานะของผู้ที่คุ้นชินกับการใช้ ปิยวาจา อยู่แล้ว ทั้งในชีวิตประจำวันของตนเอง และใช้ในงานเขียนบันทึกต่าง ๆ ใน G2K นั้น อยากให้ช่วยกันระดมความคิดเห็น และเสนอแนะว่า ปิยวาจา ที่จะนำพาไปสู่การเกิด ปัญญาสร้างสุข นั้น มีองค์ประกอบอย่างไร และจะสร้างให้เกิดขึ้นในสังคมเราได้อย่างไร...

    ก่อนการแบ่งกลุ่มร่วมเสวนาระดมความคิด ผู้ดำเนินรายการได้ให้ความรู้เบื้องต้นไว้ว่า ปิยวาจานั้น เหมือนกับวาจาสุภาษิต มีลักษณะ หรือคุณสมบัติคือ  1) สิ่งที่พูดต้องถูกต้องตามกาลเทศะ เหมาะกับกาล   2) สิ่งที่พูดต้องเป็นสัจจะ เป็นความจริง   3) ต้องใช้วาจาที่ไพเราะ สุภาพในการพูดคุย หรือสื่อสาร  4)  สิ่งที่พูดต้องมีประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น  และ 5)  ต้องมีเมตตา 

     เมื่อแบ่งกลุ่มกันร่วมเสวนาและระดมความคิดกันถึงประเด็นของปิยวาจานั้น ในกลุ่มที่ 2 ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ด้วย ได้กลั่นกรองเอาความคิดเห็นจนสรุปเป็นข้อความนำเสนอในที่ประชุม  ซึ่งได้รับเกียรติจากท่าน ผอ.ชยันต์ เป็นผู้นำเสนอของกลุ่มครับ

(ภาพจากบันทึกของ อ.ชยันต์ ครับ)

     ในนามของกลุ่มนำเสนอว่า ปิยะวาจานั้นต้อง

     1)  พูดถูกกาลเทศะ  ต้องพิจารณาบรรยากาศของกลุ่ม รวมถึงวัฒนธรรม ที่มีทั้งภาษาแสลง และความเชื่อ นำมาใช้มาพูดมาสื่อสารให้เหมาะสม

     2)  วาจาสัจจะ ความจริง  การพูดต้องพูดด้วยความไม่มีอคติ  ไม่มีอารมณ์ในการสื่อสาร และพูดในทางสร้างสรรค์ มีทัศนคติบวกเสมอ

     3)  ใช้วาจาไพเราะ สุภาพ พูดอย่างจริงใจ ใช้ภาษาเหมาะสม ไม่เสียดสี เหน็บแนม ไม่ยกตนข่มท่าน

     4)  วาจาเป็นประโยชน์ ทั้งส่วนตัว และส่วนรวม หรือสังคม  สร้างสรรค์ให้เกิดความสงบสุข

     5)  วาจามีเมตตา  มีใจรักเพื่อนมนุษย์ รู้จักให้อภัย

     ผมเห็นว่า ในวันนี้ บ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงจากการปลูกผลหมากรากไม้ ดอกไม้สวยงาม มาเป็นการปลูกสร้างความร้าวฉานกันด้วยถ้อยคำที่่ห้ำหั่นกันเหลือเกิน  เหมือนกับที่เริ่มต้นไว้แต่แรกว่า เราปลูกต้น โทสะวาทะ กันให้เกลื่อนถนน และจากการหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ให้ปุ๋ย และกล่อมให้ฟังกันทุกวัน ต้นโทสะวาทะ ก็เบ่งบานใจจิตใจ ไม่เลือกพรรค เลือกข้างกันอีกแล้ว...

     วันนี้หากเราจะเริ่มปลูกต้น ปิยวาจา ก็คงจะต้องพยายามกันมากอยู่ เพราะเมล็ดพันธุ์ดี ๆ อย่างที่มาร่วมชุมนุมกันในวันนี้ กว่าจะได้นำเมล็ดพันธุ์ไปปลุกต่อและเผยแพร่ก็ต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งซึ่งไม่รู้จะนานเท่าใด  แต่อย่างน้อย วันนี้ ผมและทุกคน ได้มาเริ่มปลูกหรือได้มาใส่ปุ๋ยบำรุงต้นพันธุ์ดีในตัวของเราจากการร่วมเป็นหนึ่งใน G2K  จากการเป็นหลาย ๆ คนในการเสวนาในวันนี้

     ผมเชื่อในกฎของการแบ่งตัวว่า ความดี ย่อมสามารถแบ่งตัวเป็นทวีคูณได้เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตหลาย ๆ อย่างที่ใช้เวลาไม่นานก็แบ่งบานเต็มพื้นที่ได้ครับ 

     และท้ายของบันทึกนี้ ผมขอฝากบทกลอนของท่านสุนทรภู่ที่กล่าวไว้ว่า 

     "ถึงบางพูด พูดดีเป็นศรีศักดิ์       มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

      แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร     จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ"

ในฐานะของผู้เข้าร่วมกิจกรรม จึงนำเสนอข้อมูลการเสวนามาเพื่อบันทึกเป็นส่วนหนึ่งของความรู้ครับผม    

และสามารถติดตามบันทึกของเพื่อน ๆ ได้อีกนะครับ

หมายเลขบันทึก: 564153เขียนเมื่อ 18 มีนาคม 2014 14:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มีนาคม 2014 14:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ยินดีที่ได้รู้จักครับ...

ร่วมด้วยช่วยกันปลูกปิยวาจากันนะ ครับ

ปลูกต้นไม้งามนามว่าปิยวาจาใน g2k ด้วยกันค่ะ

ต้นปิยวาจาแตกหน่อต่อยอด ในพื้นที่ กทน.

ชอบการเขียนของน้องครับ

ชัดเจนมากๆๆ

ขอบพระคุณครับ อ.ขจิต ครับ

ขอบคุณค่ะและต้องขออภัยที่ไม่ได้ไปร่วมงานนะคะ

ดีมากๆค่ะ จะช่วยปลูก ต้น ปิยวาจา ให้มากๆ ขอบคุณมากนะคะ

ขอบพระคุณครับ อ่านแล้วจะได้ระลึกถึงเพื่อเอาไปใช้ด้วย

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท