ตามหานางฟ้า (1):ทบทวนตัวเอง
ตามหานางฟ้า (2):รูปกายภายนอก
ตามหานางฟ้า (3):สเปคใครว่าไม่สำคัญ
ก่อนตีพิมพ์บันทึกนี้ ...ดิฉันได้ขออนุญาติเจ้าของเรื่องแล้วเมื่อกลางวันนี้เองค่ะ.......
แอบมองไปเจอฉับพลัน..นั้นเธอก็เหม่อมองสบสายตา..ให้ต้องอุราให้ฉันนึกรักเธอในแรกเราพบกัน....งานรับน้อง "ชมรม..." ปี 2529 สายตาสบกันโดยบังเอิญตากลมโตคู่นั้นทำให้ดิฉันตะลึง..คนอะไรตาหวานชะมัด....หลบตา....ดิฉันหลบตาประสานางเอก
เราคบกันคล้ายเพื่อน จะพบเห็นเราได้เสมอตามม๊อบต่างๆ ดิฉันเคยโดนตำรวจจับในม็อบไร่อ้อย ครั้งหนึ่งกับเพื่อนนักศึกษาหลายคน..โอ้โห! เขารอดไปได้ทิ้งฉันไว้ในที่กักขังครึ่งคืน..กว่าจะตามพี่ชายมาประกันตัวดิฉันได้
ปิดภาคเรียนเขาชวนดิฉันแวะพัทลุง.....บ้านเขาอบอุ่นดี..ครอบครัวครูตกดึกมีแม่คอยสังเกตว่าเราคบกันลึกซึ้งขนาดไหน......ดิฉันเข้านอนปล่อยให้แม่ลูกคุยกันได้ยินแว่วๆ......."ลูกชอบผู้หญิงสวยไม่ใช่หรือ" .....ลูกพูดว่าอะไรดิฉันไม่ได้ยิน.....ดิฉันสรุปตั้งแต่เห็นอาการที่พ่อแม่ปรนนิบัติพัดวีเขาว่า."""เด็กในกรอบที่ถูกปล่อยสู่โลกกว้าง..ทำอะไรไมค่อยเป็นขณะที่ดิฉันถูกเลี้ยงมาแบบ....."แม่สั่งลุยตัดสินใจอะไรๆได้ด้วยตัวเอง(ทุกเรื่อง)"...ต่างกันมากในเรื่องการถูกเลี้ยงดู เราคบกันเรื่อยไปเรื่อยๆในทำนองครองธรรม...
ดิฉันเรียนจบก่อนเขา......แล้วดิฉันก็จากเมืองกรุงฯมาแบบไม่หันหลัง...โดยไม่สนใจแม้คำขอร้องของเขา จากนั้นเขาทำงานเป็นนักข่าวในสำนักพิมพ์ชื่อดังเรายังคงคุยกันจ๊ะจ๋าทางโทรศัพท์เล่าเรื่องราวของกันและกันต่อเนื่อง ดิฉันดูข่าวเหตุการณ์"พฤษภาทมิฬ"ทราบข่าวว่าเขาขาหัก...จากเหตการณ์นั้น ดิฉันโผล่ไปกรุงเทพฯโดยไม่บอกล่วงหน้าหวังจะ "เซอร์ไพส์" และเยี่ยมเยียนอาการเขา
ที่บ้านเช่าอยู่กับเพื่อนๆของเราหลายคน..ทุกคนตาค้าง..ดิฉันสัมผัสทันทีว่ามีอะไรที่ผิดปกติไป มีคำแซวว่า "ไม่ขึ้นมาดูโอ๋เลยเดี๋ยวมีใครเอาไป..จะหาว่าไม่เตือน"ดิฉันตอบอย่างมั่นใจ.."ก็สุดแล้วแต่เขา"
วันนั้นกว่าเราจะเจอกันก็ตกบ่ายเราชวนกันไป"ท่าพระจันทร์" เขาถามดิฉันว่า "น้องทำไมไม่บอกก่อนว่าจะมา" ซึ่งไม่ใช่.....เขาไม่เคยแทนคำเรียกดิฉันเช่นนั้น...ฉลาดอย่างดิฉั๊นนั่นเหรอจะไม่รู้ว่าเขาคงคุ้นเคยการเรียกอย่างนี้กับหญิงอื่น........เราคุยกันไปเรื่อยประสาคนรักกันที่ไม่เจอกันนาน
และแล้ว "เขาชวนดิฉันแต่งงาน...โดยจดทะเบียนสมรสก่อนกลับหาดใหญ่สำหรับเรื่องตามธรรมเนียมจะตามมา ด้วยดวงตากลมโตคู่นั้นวิงวอนว่ากรุณาอย่าถามอะไรมากขอให้เชื่อเขาอย่างเดียวขอเขาเป็นผู้นำดิฉั๊นสักครั้งได้มั๊ย......อย่างอื่นค่อยว่ากัน"...
ดิฉันเกือบใจอ่อน...แต่ไม่ยอม....เล่ามาเดี๋ยวนี้นะว่าเกิดอะไรขึ้น...แล้วเขาก็เล่าเขามีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งโดยประมาท..เขาบอกดิฉันแบบนั้น"
หัวใจเหมือนหยุดเต้น..หยามกันชัดๆ... ดิฉันบอกเขาว่า"ดิฉันอาจจะผิดที่ไม่ยอมทำงานที่กรุงเทพฯ..แต่คนที่ดิฉันจะเลือกมาเป็นคู่ต้องเป็นคนมีความรับผิดชอบ...จงกลับไปรับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไป" นึกขอบคุณกาลเวลาช่วยพิสูจน์รักของเรา และแล้วสาวใต้ก็พ่ายรักกลับมาหลบเลียแผลใจ หลังจากนั้น 3 วันเขาพาผู้ใหญ่มาสู่ขอดิฉัน...ดิฉันบอกต่อหน้าทุกคนว่าขอนำความปราถนาดีครั้งนี้ไปให้เด็กผู้หญิงคนนั้นเถิด...อย่าทำร้ายเขาเลย...เขาไม่รู้เรื่องของเรา....แม้เขาจะพร่ำอธิบายว่าเป็นอุบัติเหตุ..แต่หัวใจดวงน้อยของดิฉันได้สลายไปแล้ว.......แล้วเราก็จากกัน..
trick : แม้จะรักกันปานจะกลืนแต่ต้องหลีกทางให้ความถูกต้อง
เศร้าค่ะ...สามวันจากนารีเป็นอื่น..ฮึ
อ่านแล้วจี๊ดขึ้นมาเลย เหมือนมีอะไรมาจุกอก ฮือๆๆ ทำไมรักถึงไม่มั่นคงเพียงแค่เพราะประมาทนะ เครียดๆ สงสัยอินมากไปหน่อยค่ะ
นั่งลุ้นภาคต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
^____^
ว่าแต่ว่า คุณ Mitochondria ไปญี่ปุ่น กี่อาทิตย์แล้วค่ะ ตอนนี้ สถานการณ์ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ข้างบนรึเปล่าค่ะ อยากรู้จัง
โห....เผลอไปแป๊บเดียว
เรื่องเล่าเคล้าความรักของคุณเมตตา มาถึงตอนที่ 4 แล้ว แต่ละตอนนะ อ่านไปลุ้นไป แล้วนี่จะให้รออีกตั้งสัปดาห์ รอไม่ไหวมั๊ง ...คุณพี่
ส่วนคุณรัตติยาและคุณไมโต ก็ดูจะ innnnnn กับความรักม๊ากมาก
เฮ้อ....เสียดายจัง มีประสบการณ์น้อย เลยมาเติมต่ออะไรได้ไม่มาก
เฮ่ย!! คุณแม่สั่งลุยเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็น Vij นะ...จะฟาดหน้าให้หายแค้นสักทีก่อนไป แล้วส่งท้ายด้วยคำว่า "ทรยศ!!...แล้วยังหน้าด้านมาขอแต่งงานอีก......" ประมาณว่าด่าไปพลางเช็ดน้ำตาไปพลาง เพราะใจไม่แข็งพอ เรื่องความรักคุณ "เมตตา" เยอะจังค่ะ มันส์!! ได้รสชาติดีแท้ มันส์ส์ส์...โดยไม่ต้องกินโก๋แก่ (ได้แรงอกนิ...)
เพราะคนที่เลือกจะต้องเป็นผู้นำครอบครัว ผู้นำคน ต้องรู้จักคำว่า "รับผิดชอบ" ค่ะ หากไร้ซึ่งความรับผิดชอบแล้ว ไม่ทราบจะเอาไปทำพันธุ์ทำไม สู้ปีนขึ้นไปอยู่บนคานยังมันส์กว่าเยอะ ใจหวิว ๆ ดีเมื่อมองมาข้างล่าง
ตามมาอ่านตั้งแต่นิยายภาคแรก เอ้ย บันทึกแรกครับ
แต่อ่านแล้วสนุกมากจนวางไม่ลง จนถึงบันทึกนี้ค่อยมาเขียน
บันทึกนี้รวมหลากประสพการณ์หลายท่าน ทำให้ได้รับรู้ชีวิตกับความรักที่หาฟังได้ยาก
จากคนที่ตามความรักทุกอารมณ์
ตรอมตรมเพราะไร้ประสพการณ์
ขอบคุณสำหรับบันทึกครับ
ผ่านไปอีกวันกะวันอันซึ้งๆ
เมาแล้วเมาเล่าเฝ้าแต่เมา
หัวอกเราใครเอยจะรับรู้
เมียพี่มี...ชู้
เขารู้กันทั่ว เอื้อก
(กำลังเมาได้ที่ครับ อย่าใส่ใจ)
ต้องคารวะพี่ๆทุกท่าน
พี่ Mitochondria พี่ เมตตา
งานนร้ผมติดตามแบบไม่กระพริบตาเลยทีเดียว ได้ทราบมาว่า Tacit K. (ด้านละมุน)ทั้งสองท่านมีอะไรดีๆ ให้ค้นหาอีกมากทีเดียว
ซีรีส์ทั้งหมดเพื่อให้ผมได้เรียนรู้ และผมก็ได้เรียนรู้บวกกับอินในเนื้อหาอีกต่างหาก
นับถือครับ
:)
นำเพลงคุณต่าย เพ็ญพักต์ (ไม่ใช่ต่าย อรทัย นะค่ะ) มาฝากค่ะ...เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการชมวรรณคดี เฮ่ย!! ซีรี่ส์ เรื่องเยี่ยม ตอน 2 "อกหักที่ท่าพระอังคาร" หลังจากคุณเมตตากลับมาจากการไปสำรวจทางช้างเผือก และไปติดตั้ง net ที่นั่น พบว่าแฟนหนุ่มคนใหม่เปลี่ยนใจอีกแล้ว เลยมอบเพลงนี้ให้หนุ่มคนนั้น
"ตายไปเถอะ รีบไปตายซะที จะไปตายที่ไหนก็ไป จะไปหลงระเริง ระรื่นกับใคร ก็ไปไปซะดีกว่า ฉันจะเจ็บเจ็บเท่าไรก็ทน จะไม่ยอมให้ยอมให้เห็นน้ำตา จะไม่ขออ้อนวอน ไม่ขอให้กลับมาให้รกลูกตารกใจ ทั้งชีวิตฉันพลีให้เธอ ให้เธอมากเกินใคร เธอยังแปลเปลี่ยนไปรักคนใหม่ คนอะไรไม่รักดี จะเจอะกันเลยอย่าคบกันเลย ลบคำว่าเคยเคยรักกันทิ้งไป แล้วจงรีบรีบไปไกล ๆ คนอะไรไม่รักดี แล้วจงรีบ ๆ เดินไปตาย คนอะไรไม่รักดี"
แล้วหันหลังจากท่าพระพระอังคาร กลับใต้ด้วยความสะใจ!!