วันนี้ฉันได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.๔ ที่ส่งงานไม่ครบแก้ ๐
ไม่ทันกำหนด.…แม่โกรธมากที่ลูกเกรดตกเคยได้เกรด ๓.๔๐ เหลือ ๒.๙๘ เพราะลูกไป
ทำงานพิเศษนอกเวลา และช่วยแม่ค้าขาย
แม่คร่ำครวญร้องไห้ เล่าให้ฟังว่าเธอทะเลาะกับลูกอย่างรุนแรงตบหน้าลูก
ไปสองที…เพราะคาดหวังว่าลูกจะต้องไ้ด้เกรดสูงไม่ต่ำกว่า ๓ ขึ้นไปจะได้มีอนาคตที่ดี
ตามที่แม่คาดหวัง....
แม่เล่าให้ฟังว่า "ลูกบอกว่าคุณครูใจดีคงไม่มีปัญหา ส่งไลน์ไปแล้วว่า
จะส่งงานวันจันทร์ แต่มาไม่ทันจึงไม่ได้นำมาส่งแสดงว่าเด็กยังไม่รู้จักฉันดีพอ
"ครูคนนี้ใจดีแต่ก็เคร่งครัดเรื่องระเบียบวินัย"
ฉันได้แต่อธิบายถึงเหตุผลที่ต้องให้เด็กติด ๐ เพราะเธอไม่ส่งงานในเวลาที่กำหนด
และเพื่อฝึกให้เธอมีความรับผิดชอบตรงต่อเวลา และเป็นบทเรียนอันมีค่าต่อไปในอนาคต...
และบอกว่า "แ่ม่ควรภูมิใจทีลูกเป็นคนดี มีความกตัญญูมากกว่าเป็นคนเก่ง เกรดเป็นเพียง
สิ่งสมมุติ และควรกลับมาทบทวนถึงสาเหตุ ให้ลูกเลิกทำงานหารายได้พิเศษ
หากไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ให้ตั้งใจเรียนอย่างเดียว ทุกอย่างก็จะดีขึ้น...
ฉันอดเป็นห่วงเด็กไม่ได้ ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างกลัวจะหนีออกจากบ้านเพราะเสียใจ
เธอบอกว่าลูกไม่เคยไปไหนแม้แต่ซื้อของใกล้บ้านก็ไม่ไป ไปไหนมีแม่ไปด้วยตลอด
ลูกเป็นเด็กดี ฉันฟังแล้วยิ่งเป็นห่วงได้แต่เตือนเรื่องการปล่อยให้ลูกมีทักษะชีวิตและยืนได้
ด้วยตนเอง หากวันใดไม่มีแม่ลูกจะอยู่อย่างไร
ฉันเสียเวลาปลอบใจแม่ จนธอสบายใจหยุดสะอื้น ขอบคุณฉันและวางสาย
แต่ที่แน่ ๆ ฉันเสียค่าโทรศัพท์ไปไม่้น้อยเพราะเป็นฝ่ายโทรกลับเมือเห็นเธอโทรมาถึง ๖ สาย
แต่ฉันไม่ได้รับเพราะปิดเสียงเนื่องจากมีกิจกรรมที่โรงเรียน
เหตุการณ์นี้นับเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายในชีวิตครูอย่างฉันที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
อดถามตัวเองไม่ได้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ใครผิด ?
ธรรมทิพย์
๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗
ไม่น่าจะมีใครผิด มีแต่อะไรที่ผิด. เอใช่หรือเปล่าคะ
การลงโทษ.."ตบหน้า"..เป็นวิธีที่ผิด..(อาจจะมหันต์)...คนหลายๆคน...ตกเป็นเหยื่อ..อารมณ์..ด้วยอารมณ์..สุดท้ายแก้..ยาก...เหมือนการตัดสิน..ด้วยลดคะแนน..เพียง (ไม่)มีเหตุผล...เพราะนั้นก็ไม่ใช่การ..ตัดสิน..ผล..ของงาน..ซึ่ง(อาจะ..คล้ายๆกัน)..."น่าจะเป็น..อุทาหรณ์..สถานะการณ์..เมืองไทย.เวลานี้.ก็คือ..สาเหตุเดียวกัน..ที่คิดว่า..เล็กน้อยและมองข้ามไป.." กับ..คำว่า..ใครผิด...
เป็นกำลังใจให้นะคะ
มีความสุข ในเทศกาลวันอบอุ่น วันแห่งครอบครัว นะครับครู