สงกรานต์...ขออนุญาติบ้า.......


สมัยนั้นเด็กรุ่นผู้เขียนอาบ น้ำไม่เคยใช้สบู่ ที่มีใช้ก็คือสบู่ซันไลน์ ใช้ซักผ้า ใช้ถูตัวของผู้ใหญ่วันดีคืนดีมีงาน เทศกาลหรือผู้หลักผู้ใหญ่มาเยี่ยมบ้าน ก็จะถูกจับอาบน้ำ

 

 

ฝักสะบ้า เม็ดข้างใน คนโบราณเขาแกะเอา เป็นลูกขี้ตั้ง เล่นยิงสะบ้า

 

 

เดินทางทัวร์ เมืองสามอ่าวเที่ยวนี้ ได้ของถูกใจที่ด่านสิงขร นั้นคือ ผัก"สะบ้า" จึงซื้อดิดมื

อมาเผื่อเวลาพูดถึงสะบ้าลูกหลานจะได้รู้จักของจริง  สะบ้าเมื่อ 50 ปีก่อนที่บ้านผู้เขียนคน

เฒ่าคนแก่เขาเอาย่านสะบ้ามาสระผมถูตัว กระทั้งเอามาอาบน้ำศพ

 

สมัยนั้นเด็กรุ่นผู้เขียนอาบ

น้ำไม่เคยใช้สบู่ ที่มีใช้ก็คือสบู่ซันไลน์ ใช้ซักผ้า  ใช้ถูตัวของผู้ใหญ่วันดีคืนดีมีงาน

เทศกาลหรือผู้หลักผู้ใหญ่มาเยี่ยมบ้าน ก็จะถูกจับอาบน้ำ

 

ขัดสีฉวีวรรณด้วยย่านสะบ้า  ปวดแสบทรมานน่าดู ยิ่งที่หลังใบหู เขาบอกมีขี้ไคลกรัง

ส่วนนี้จึงขัดสีมากที่สุด 50 ปีล่วงผู้เขียนเดินป่ามาหลายป่า ยังไม่เคยเจอต้นสะบ้า

เมื่อได้ฝักสะบ้ามาก็รำลึกถึงความหลังครั้งก่อน

 

สะบ้าเป็นการละเล่น  ที่เล่นได้หลายอย่าง  แต่ที่ภาคใต้นิยมเล่น ยิงสะบ้า ในงานเทศกาล

อย่างงานสงกรานต์ บ้านไหนบ้านนั้นต้องมีการแข่งขัน สะบ้ากัน ซึ่งการเล่นสะบ้าเป็นการ

พนันขันต่อที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงต้องอนุญาติจากทางการ มีเรื่องเล่าว่า

"เมื่อหน้างานสงกรานต์ปีนึ่งในอดีต  ผู้ใหญ่บ้านรับหน้าที่ไปขออนุญาติเล่นสะบ้า ต่อนาย

อำเภอ  ซึ่งนายอำเภอย้านมาใหม่ ยังไม่คุ้นกับคำพูดของคนใต้มักพูดคำสั้นๆ ห้วนๆ  เมื่อ

ผู้ใหญ่บ้านมานั่งต่อหน้านายอำเภอ....

นายอำเภอ จึงถามว่า...เอ้าผู้ใหญ่มาวันนี้มีอะไร

ผู้ใหญ่บ้าน..ท่านครับ  วันนี้ผมมาขออนุญาติบ้าครับ

นายอำเภองงๆ  มองหน้าผู้ใหญ่เห็นท่าทางขึงขัง ก็บอกว่า.....บ้าไปเลยผู้ใหญ่ไม่ต้องขอ

อนุญาติ.......  

 

ซึ่งผู้เขียนคิดว่ากระทรวงวัฒนธรรม น่าจะฟื้นฟูประเพฯีการเล่น สะบ้าในวันสงกราต์ ให้ลูก

หลานได้สนุกสนานแบไทยๆ

 

 

การละเล่น สะบ้าในอดีต

 

 


         การเล่นสะบ้าจะต้องปักลูกขี้ตั้งเป็นแถวตามรูปแบบการเล่นสะบ้าแต่ละประเภทกำหนด ระยะห่างของลูกประมาณ 3 - 5 นิ้ว แถวลูกชี้ตั้งนี้เรียกว่า "เน็ด" ลูกสะบ้าริมสุดทั้ง 2 ข้างของเน็ด เรียกว่า"หู" แบ่งชั้นหูซ้ายและหูขวา ลูกขี้ตั้งระหว่างหูซ้ายหูขวา เรียกว่า "ช่องกลาง" ในการปักลูกสะบ้าจะขุดเน็ดคือขุดดินพอให้วางลูกสะบ้าด้านข้างให้ทรงตัวมั่นคง แล้วเอาลูกสะบ้าปักลงไปเรียกว่า "ปักบ้า" การปักการปักต้องให้สะบ้าได้ระดับการตลอด

         การยิงมี 2 วิธี วิธีแรกใช้ลูกเกย จับขอบลูกเกยด้วยนิ้วหัวแม่มือ ให้ด้านแบนเข้าหาฝ่ามือ บางคนใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือ บางคนจับลูกเกยทั้ง 5 นิ้ว ใช้นิ้วชี้อีกมือหนึ่งสอดในลูกเกยด้านตรงข้ามกับหัวแม่มือ ดันให้ลูกเกยหลุดจากมือหมุนอย่างเร็วอย่างแรง พุ่งเข้าหาเน็ดบ้า ลูกเกยจะยิ่งหมุนตีลูกสะบ้าให้ล้มลง 
        วิธีที่2 ใช้ลูกคุง จับลูกคุงด้วยมือทั้ง 2 โยนให้กลิ้งไปยังเน็ดบ้า การยิงจะยิงเป็นชุด แต่ละชุดเรียกว่า "ดาน"(กระดาน)


วิธียิง

         


ลานสะบ้าหลาก สะบ้าชุด สะบ้าคุ้ม

         ปักลูกขี้ตั้งแถวเดียว 8 ลูก ผู้เล่นมีนายมือ 1 คน รับแทงจากผู้แทงซึ่งเรียกว่า "ลูกมือ" ลูกมือมีกี่คนก็ได้ การเล่นจะกำหนดเป็นกระดานๆ ไป เรียกว่า "ดาน" หรือ "ชุด" ลูกมือจะแทงคนละเท่าใดก็ได้ ก่อนเล่นนายมือจะจัด"ปอลี" (คนดูแลเงินของนายมือ) ทำหน้าที่ขีดตาราง 4 เหลี่ยมเล็กๆ เท่าจำนวนผู้แทงลงพื้นใกล้เน็ดบ้าเพื่อให้ลูกมือวางเงินแทง จากนั้นนายมือจะยิงเป็นคนแรกจากหัวลานห่างจากเน็ด 2 เมตรเศษ ถ้าลูกขี้ตั้งล้มหมดจะได้กินเงินแทงของลูกมือทุกคน โดยลูกมือไม่ต้องยิง ถ้านายมือยิงลูกขี้ตั้งล้มเพียงลูกเดียว ก็ต้องจ่ายแก่ลูกมือทุกคนตามจำนวนเงินแทงของลูกมือแต่ละคน โดยลูกมือไม่ต้องยิง ถ้านายมือยิงลูกขี้ตั้งล้มตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไปแต่ไม่ต้องหมดแถว ต้องให้ลูกมือทุกคนยิงการยิงของลูกมือ แต่ละคนถือเป็นการแข่งกับนายมือเท่านั้น ก่อนยิงต้องปักสะบ้าให้เต็มทุกแถวทุกครั้ง ถ้ายิงผิดมีสิทธิ์ยิงใหม่ได้ การตัดสินถือเอาจำนวนสะบ้าที่ยิงล้มเปรียบเทียบกับนายมือยิงได้ ถ้ายิงน้อยกว่านายมือ นายมือได้กินเงินแทง ถ้ายิงได้มากกว่านายมือจ่าย ถ้าได้เท่านายมือ จ่ายเงินแทงคืนการเล่นจะดำเนินไปเช่นนี้จนลูกมือทุกคนได้ยิงทั่วกัน จึงเริ่มกระดานใหม่

         
         ปักลูกขี้ตั้ง 8 - 15 ลูกตามแต่จะตกลงกัน วิธีเล่นมีต่างกันหลายแบบ ดังนี้

         แบบที่ 1 เล่นคล้ายสะบ้าหลาก ดดยให้ลูกมือ(ผู้แทง)ลงเงินที่ปอลี แล้วนายมือยิงก่อน จากนั้นลูกมือยิงตามลำดับของจำนวนเงินที่แทงจากเงินมากไปหาน้อย ก่อนลูกมือแต่ละคนจะยิงต้องปักสะบ้าให้ครบชุดเสมอ หลังจากยิงผ่านไปทุกคนแล้ว จะคิดแพ้ชนะกับแบบเดียวกับสะบ้าหลาก
         แบบที่ 2 เล่นแบบต่อแต้ม โดยนายมือยิงก่อนแล้วลูกมือยิงทีหลัง อาจจะยิงทีละคนหรือลูกมือรวมกันเป็นทีมเดียว เลือกตัวแทนยิงแข่งกับนายมือก็ได้ โดยมีข้อตกลงว่า"หกกิน - เอี่ยวใช้" หมายความว่า ถ้าเจ้ามือยิงสะบ้าล้มตั้งแต่ 6 เม็ดขึ้นไป เรียกว่า "หกกิน" หรือ "ใช้" นายมือจะกินเงินที่ลูกมือแทงทั้งหมดดดยผู้แทงไม่ต้องยิง แต่ถ้าเจ้ามือยิงสะบ้าล้มเพียวเม็ดเดียวเรียกว่า "เอี่ยว" หรือ "จด" หรือ "ผก" หรือ"โผง" เจ้ามือต้องจ่ายเดิมพันรอบวงดดยไม่ต้องยิงแต่ถ้านายมือยิงได้ตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป ลูกมือจะยิงแข่งกับนายมือเหมือนแบบที่ 1
         แบบที่ 3 เล่นแบบเก็บคะแนน โดยตั้งคะแนนไว้ ตามแต่จะกำหนด เช่น 30 คะแนน 45 คะแนน การเล่นแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย ๆ ละเท่ากัน ผลัดกันยิงฝ่ายละคนไปเรื่อยๆ ก่อนที่แต่ละคนจะยิงต้องปักสะบ้าให้ครบเสมอแต่ละคนของแต่ละฝ่าย ยิงได้กี่ลูกก็รวมกับที่คนก่อนยิงได้โดยคิดคะแนนลูกละ 1 คะแนน ฝ่ายใดยิงถึงคะแนนเต็มที่ตั้งไว้ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ ได้กินเงินเดิมพัน

         การเล่นพนันสะบ้าหลาก และสะบ้าชุด คนดูที่เล่นพนันวงนอกเรียกว่า "เล่นรอบนอก" มี 2 แบบ


การเล่นพนันของพวกรอบนอก ในการเล่นสะบ้าหลาก และสะบ้าชุด

         แบบที่ 1 พนันกันว่าแต่ละคนยิงจะยิงสะบ้าล้มจำนวนเลขคู่หรือคี่ วิธีเล่นจะตั้งโต๊ะขึ้นอย่างน้อย 2 โต๊ะ เรียกว่า "โต๊ะคู่" โต๊ะหนึ่ง และ"โต๊ะคี่" อีกโต๊ะหนึ่งที่โต๊ะจะมีเจ้ามือนั่งรับแทงพนันจากผู้แทง ผู้ดูการแข่งสะบ้าคนใดอยากแทงพนันก็นำเงินมาลงโต๊ะที่ตนคาดว่าผู้ยิงจะยิงสะบ้าล้มจำนวนคู่หรือคี่ เช่น คาดว่าจะยิงล้มจำนวนคู่ก็นำเงินไปวางยังโต๊ะคู่ ถ้าผู้ยิงๆ ล้มจำนวนคู่ เจ้ามือจะต้องจ่าย ถ้าผิดก็กิน การเล่นรอบนอกไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

         แบบที่2 แทงพนันจำนงคี่ คาดว่าสะบ้าจะถูกยิงล้ม วิธีเล่น นายมือจะตั้งโต๊ะรับแทงพนันขึ้นโต๊ะหนึ่ง เรียกว่า"โต๊ะเชงเลง" บนโต๊ะตีตารางรูป 4 เหลี่ยมเท่าจำนวนลูกสะบ้าที่ปัก แต่ละช่องเขียนเลขเรียง 1, 2, 3, 4,.. ไปจนเท่าจำนวนสะบ้า ผู้ดูคนใดอยากจะแทงว่าผู้เล่นจะยิงสะบ้าล้มกี่ลูก ก็นำเงินไปวางที่อยากแทง ถ้าแทงผิดเจ้ามือกินถ้าถูกเจ้ามือจะจ่ายเป็นจำนวนเท่าของช่องที่แทง เช่น แทงช่อง 3 จำนวน 10 บาท ต้องจ่าย 30 บาท ถ้าแทงช่อง 5 จำนวน10 บาท ต้องจ่าย 50 เป็นต้น

        


ลานสะบ้าเลย หรือสะบ้าราว หรือสะบ้ายืน

         ใช้ลานขนาด 3 x 20 เมตร ผู้เล่นไม่จำกัดจำนวนแต่โดยทั่วไปเล่นกันราว 3 - 5 คน โดยผู้เล่นตกลงกันว่าจะ "ลงบ้า" (ลงลูกสะบ้าที่ปัก) คนละกี่ลูก ทุกคนต้องลงเท่ากัน ส่วนมากถ้าเล่น 5 คนก็ลงคนละ 2 ลูก นำสะบ้าที่ลงไปปักกลางลานในแนวขวาง ผู้เล่นตกลงกันว่าใครจะยิงก่อนหลังตามลำดับถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ใช้วิธีเสียงทายหรือยิงสะบ้าคนละครั้งแข่งขันก่อน ใครยิงได้มากกว่าก็ได้ยิงก่อน จุดเริ่มยิงจะกำหนดให้ห่างจากเน็ดราว 1.5 - 2.0 เมตร วิธียิงในหนึ่งกระดานจะยิงคนละ 2 ครั้ง ครั้งแรกเรียก"ขาขึ้น" ครั้งที่ 2 เรียก "ขาลง" ในการยิงขาขึ้นจะยืนยิงจากเส้นเริ่มต้น ณ จุดเดียวกัน คนแรกยิงลูกเกยไปหยุดที่จุดใดก็ทำเครื่องหมายเอาไว้ ลูกขี้ตั้งที่ถูกยิงล้มก็กวาดออกไป ไม่ต้องปักให้ครบและไม่ต้องเลื่อนสะบ้าให้ชิดกัน แล้วให้คนถัดๆ ไปยิงในลักษณะเดียวกัน คนที่ยิงลูกเกยใกล้เน็ดเรียกว่า "นั่งเน็ด" เมื่อยิงขาขึ้นหมดทุกคนแล้วก็ยิงขาลงในลักษณะเดียวกันอีก โดยคนยิงได้ไกลในลำดับถัดๆ ไป มายิงในลำดับถัดมา สำหรับคนนั่งเน็ดจะมีวิธีต่างไปจ่กคนอื่นๆ คือ ต้องเดินจากจุดที่ลูกเกยหยุดไปตามแนวขนานกับเน็ดบ้าจนชิดขอบลานแล้วนั่งเฉียงเข้าทางหูเน็ด ในการเล่นบางครั้งผู้ยิงก่อนยิงลูกขี้ตั้งล้มหมดเสียก่อน คนหลังๆ ที่ยังไม่ได้ยิงเรียกว่า "ค้างเดย" ก้จะได้ยิงก่อนในกระดานใหม่

         ในการตัดสินแพ้ชนะ จะถือเอาจากลูกขี้ตั้งที่แต่ละคนยิงได้ ใครยิงได้มากกว่าลูกสะบ้าที่ตนลงคราวแรกก็ถือว่าชนะในการเล่นเขาจะตกลงกันก่อนเล่นว่าสะบ้าลูกหนึ่งมีราคากี่บาท เมือจบกระดานผู้แพ้ต้องซื้อลูกสะบ้าให้ครบจำนวนที่ลงคืนมาจากผุ้ชนะ อีกวิธีหนึ่งจะไม่มีการซื้อลูกสะบ้าคืน แต่จะเล่นไปเรื่อยๆ พอครบกระดานก็ปักสะบ้าใหม่ ในแต่ละกระดานใครยิงได้ที่ลูกก็บันทึกไว้ เมื่อเล่นจบก็รวมจำนวนลูกสะบ้าที่แต่ละคนยิงได้มาหักลบกันคิดออกมาเป็นตัวเงิน เช่น เล่นกัน 4 คน ลงสะบ้าคนละ 2 ลูก เล่น 3 กระดาน ในแต่ละกระดานแต่ละคนยิงได้ดังนี้ กระดานแรก นาย ก ได้ 1 ลูก นาย ข ได้ 3 ลูก นาย ค ได้ 2 ลูก นาย ง 2 ลูก , กระดานที่ 2 นาย ก ได้ 2 ลูก นาย ข ได้ 4 ลูก นาย ค ได้ 1 ลูก นาย ง ได้ 1 ลูก , กระดานที่ 3 นาย ก ได้ 1 ลูก นาย ข ได้ 2 ลูก นาย ค ได้ 2 ลูก นาย ง ได้ 3 ลูก , รวมแล้ว 3 กระดาน นาย ก ได้ 4 ลูก นาย ข ได้ 9 ลูก นาย ค ได้ 5 ลูก นาย ง ได้ 6 ลูก สรุปแล้ว นาย ก แพ้ นาย ข 5 ลูก แพ้ นาย ค 1 ลูก แพ้ นาย ง 2 ลูก รวมแพ้ 8 ลูก , นาย ข ชนะ นาย ก 5 ลูก ชนะ นาย ค 4 ลูก ชนะ นาย ง 3 ลูก รวมชนะ 12 ลูก , นาย ค ชนะ นาย ก 1 ลูก แพ้ นาย ข 4 ลูก แพ้ นาย ง 1 ลูก รวมแพ้ 4 ลูก , ส่วน นาย ง ชนะ นาย ก 2 ลูก แพ้ นาย ข 3 ลูก ชนะ นาย ค 1 ลูก รวมแล้วเสมอตัว ถ้าตอนเริ่ทเล่นคิดสะบ้าที่ลงลูกละ 10 บาท นาย ก ก็แพ้ 80 บาท นาย ข ชนะ 120 บาท นาย ค แพ้ 40 บาท ส่วน นาย ง ไม่ได้ ไม่เสีย

        
         เล่นบนลานดินเรียบ แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละคน นั่งหันหน้าเข้าหากัน ห่างกันราว 2.5 - 3.0 เมตร ตรงหน้าของผู้เล่นแต่ละฝ่ายปักลูกสะบ้าจำนวนเท่ากัน อาจจะเป็น 8 - 12 ลูก ตามแต่จะตกลงกัน จากนั้นผู้เล่นฝ่ายหนึ่งยิงลูกเกยไปยังเน็ดบ้าฝ่ายตรงข้าม ถ้ายิงถูกฝ่ายรับก็แยกสะบ้าที่ยิงได้แล้วนั้นไว้ต่างหาก แล้วเอาเกยยิงไปยังเน็ดบ้าของอีกฝ่ายหนึ่ง ยิงกลับไปกลับมาเช่นนี้จนกว่าฝ่ายหนึ่งจะถูกยิงลูกขี้ตั้งหมดก่อนและไม่มีเกยอยู่ในมือถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ การเล่นพนันจะคิดจากสะบ้าของฝ่ายที่ยังปักเหลืออยู่บนลานโดยตกลงกันไว้ก่อน เช่น เล่นกันลูกละ 2 บาท ถ้าเหลือสะบ้าอยู่บนลาน 3 ลูก ฝ่ายที่ยิงล้มหมดต้องจ่ายให้ฝ่ายที่ยังเหลือสะบ้า 6 บาท ถ้าข้อตกลงเป็นการลงโทษ เช่น ดขกหัวเข่า การลงโทษก็คิดแบบเดียวกัน

        
         ใช้ลานและอุปกรณ์การเล่นเหมือนกับการเล่นสะบ้าชุด ต่างกันแต่วิธีการเล่นคือ ผู้เล่นๆ ได้ตั้งแต่2 - 5 คนลงลูกสะบ้าคนละคุ้มหรือคนละชุด ถ้าเล่น 4 คนก็เรียกว่า 4 คุ้ม ถ้าเล่น 5 คนก็เรียกว่า 5 คุ้ม คุ้มละกี่ลูกก็แล้วแต่จะตกลงกัน ปักลูกสะบ้าทั้งหมดลงเป็นแถวเรียกหนึ่งที่ปลายลานสะบ้า หันเหลี่ยมเล็กมาทางคนเล่น (คนยิง) ห่างกันเม็ดละประมาณ 10 เซนติเมตร

         วิธีเล่น ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องยิงเสียงทายลำดับก่อนหลังเสียก่อน ผู้ยิงสะบ้าแตกมากหรือล้มมากที่สุดจะได้เล่นเป็นคนแรก นอกนั้นเรียงลำดับไปตามที่ยิงล้มมากและน้อย เมื่อได้ลำดับผู้เล่นแล้ว ผู้เล่นคนแรกก็ยิงเก็บคะแนนจากจำนวนเม็ดสะบ้าที่ยิงแตกก่อนที่คนลำดับต่อไปจะยิงเก็บคะแนนจะต้องจัดแถวเม็ดสะบ้าที่เหลือในแถวให้ได้ระยะเท่ากันทุกเม็ดเสียก่อน คือประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วคนลำดับถัดไปจะเริ่มยิงเก็บคะแนนจนครบคนเล่นทุกคน แล้วคนลำดับถัดไปจะเริ่มยิงเก็บคะแนนจนครบคนเล่นทุกคน แล้วคนที่ได้ลำดับแรกก็จะเริ่มยิงสะบ้าที่เหลือในแถวใหม่ (ถ้าเหลือ) ดังนี้เรื่อยไปจนกว่าจะหมดลูกสะบ้าบนลานนั้น จึงเล่มต้นเล่นกระดานใหม่ การเริ่มเล่นกระดานใหม่ก็จะต้องมีการเสี่ยงทายผู้ยิงลำดับก่อนหลังดังกล่าวแล้วเสียก่อนทุกครั้ง ในการเล่นกระดานใหม่นี้ ถ้าผู้ใดได้คะแนนจากการเล่นในชุดก่อนไม่พอลงคุ้ม ก็จะต้องซื้อลูกสะบ้าจากผู้ที่ได้คะแนนมาก เม็ดละเท่าไรก็แล้วแต่จะตกลงกันก่อนเริ่มเล่น

        


ลานสะบ้าลูกสาว

         เป็นสะบ้าที่เล่นเป็นการสนุกสนานเชื่อมความสัมพันธ์กันระหว่างหนุ่มสาวไม่ได้เล่นเพื่อเอาเดิมพันหรือเป็นการพนันกัน จะเล่นในเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น สถานที่เล่นเป็นลานดินแข็งเรียบเสมอ ไม่เทลาดเหมือนสะบ้าชุดหรือสะบ้าคุ้มและมีเม็ดสะบ้าซึ่งเรียกว่า "ลูกกด" บางท้องถิ่น ใช้ 4 เม็ด แต่บางท้องถิ่นใช้ 8 เม็ด ลูกกดนี้จะมี 2 ชุด ปักเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตรุสที่ปลายลานทั้ง 2 ข้าง ๆ ละชุด โดยหันด้านเหลี่ยม เล็กมาทางผู้ยิง ห่างกันเม็ดละ 10 - 12 เซนติเมตร และตรงกลางของสี่เหลี่ยมทั้ง 2 ชุดนั้นมีลูกสะบ้าอีกลูกหนึ่งตั้งเหลี่ยมโดยหันด้านแบนมาทางผู้ยิง เรียกลูกสะบ้าลูกนี้ว่า "ลูกสาว" และมีลูกสะบ้า อีก 10 เม็ด เรียกว่า"ลูกเกย" ใช้สำหรับทอย (โยน) ให้ถูกทอยกดล้มลง

         วิธีเล่น แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จะเล่นฝ่ายละกี่คนก็ได้ และจัดให้มีหัวหน้าฝ่ายละ 1 คน ให้ฝ่ายที่มีลูกเกยจำนวน 10 เม็ด เป็นฝ่ายเล่นก่อน สมมติว่าฝ่ายหญิงเป็นผู้เล่นก่อน ให้ฝ่ายหญิงผลัดกันทอยลูกทีละคนคนละลูก ให้ถูกลูกกดที่ล้อมรอบลูกสาวอยู่ล้มหรือกระเด็นไปทอยจนหมดลูกเกยทั้ง 10 เม็ด ระวังอย่าทอยถูกลูกเม็ดที่เป็นลูกสาวเป็นอันขาด มิฉะนั้นจะปรับเป็นฝ่ายแพ้ ตอนนี้ฝ่ายชายก็จะได้ลูกเกยเกยทั้ง 10 เม็ด ที่ฝ่ายหญิงทอยมาให้จะเป็นฝ่ายเริ่มเล่น โดยทอยลูกเกยทั้ง 10 เม็ด ให้ถูกลูกกดชุดที่อยู่ตรงกันข้าม วิธีเล่นก็เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงดังกล่าวมาแล้ว เมื่อฝ่ายชายทอยลูกเกยครบ 10 เม็ดแล้ว ฝ่ายหญิงซึ่งได็ลูกเกยกลับมาก็จะเริ่มทอยต่อให้ถูกลูกกดที่ยังเหลืออยู่จนลูกกดล้มลงหมด (ครั้งหลังอาจจะใช้ลูกเกยไม่ถึง 10 เม็ด) แล้วฝ่ายชายก็เริ่มทอยต่อโดยใช้ลูกเกยจำนวนเท่าที่ฝ่ายหญิงทอยไปใช้ ลูกเกยจำนวนเท่าที่ฝ่ายหญิงทอยไปให้นั้น ถ้าถูกลุกกดล้มจนหมดเช่นกัน ก็ตัดสินว่าเสมอกัน ถ้าล้มไม่หมดก็ตัดสินเป็นฝ่ายแพ้ แต่ถ้าใช้ลูกเกยจำนวนเท่าที่ฝ่ายหญิงทอยไปให้ครั้งหลังนั้นไม่หมด โดยที่ลูกกดล้มหมดเสียก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะ เสร็จแล้วก็เริ่มการเล่นชุดใหม่วนเวียนกันไปดังนี้ เมื่อมีการแพ้ทุกครั้ง ฝ่ายชนะจะยึดเอาข้าวของมีค่า เช่น ผ้า สร้อย หรือแหวน จากฝ่ายแพ้ไว้เป็นประกัน และจะคืนให้เมื่อฝ่ายแก้ตัวได้ แต่ถ้าฝ่ายชนะได้ของเก็บไว้มากจนถึงเวลาเลิกเล่น ฝ่ายแพ้จะต้องไถ่ของคืน โดยเสียเป็นเหล้าหรือให้ผู้หญิงไหว้ ผู้ชายรำ ตามแต่แต่จะสัญญากัน

        
         สะบ้านี้ชนิดเหมาะที่จะเป็นสะบ้าที่ใช้เล่นกันเพื่อความสนุกมากกว่าที่จะเล่นเพื่อการพนัน ผู้ที่ร่วมเล่นจะกำหนดเอาฝ่ายละกี่คนก็ได้ แต่ที่เหมาะสมควรจะฝ่ายละ 2 - 3 คน

         วิธีเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย แต่ละฝ่ายนั่ง หันหน้าเข้าหากัน ห่างกันประมาณ 3 - 5 เมตร ตรงหน้าของแต่ละฝ่ายปักลูกขี้ตั้งเป็นแถวยาวหน้ากระดานซึ่งเรียกว่า "เน็ดบ้า" ลูกขี้ตั้งจะกำหนดกันฝ่ายละกี่ลูกก็ได้ แต่ควรเฉลี่ยให้สัดส่วนพอกับจำนวนผู้เล่น เช่น เล่นฝ่ายละ 3 คน ปักสะบ้าฝ่ายละ 9 เม็ด เป็นต้น เมื่อเริ่มยิงฝ่ายใดจะเริ่มปล่อยลูกเกยไปทำลายลูกขี้ตั้งฝ่ายตรงกันข้ามก่อนก็ได้ โดยที่ปล่อยลูกเกยไปคนละลูก ในการยิง หากยิงผิดก็ไม่มีสิทธิ์ ยิงใหม่เหมือนสะบ้าชุด เมื่อฝ่ายยิงลูกขี้ตั้งล้มลงเท่าไรฝ่ายตรงกันข้ามจะต้องส่งลูกที่ยิงได้ฝ่ายยิงเก็บไว้เฉพาะ ปักสะบ้าฝ่ายละ 9 เม็ด เมื่อเริ่มยิงฝ่ายใดจะเริ่มปล่อยลูกเกยไปทำลายลูกขี้ตั้งฝ่ายตรงกันข้ามก่อนก็ได้ โดยที่ปล่อยลูกเกยไปคนละลูก ในการยิง หากยิงผิดก็ไม่สิทธิ์ยิงใหม่เหมือนสะบ้าชุด เมื่อฝ่ายยิงยิงลูกขี้ล้มลงเท่าไรฝ่ายตรงกันข้ามจะต้องส่งลูกที่ยิงได้ให้ฝ่ายยิงเก็บไว้เฉพาะลูกเกยเท่านั้น เมื่อฝ่ายที่ถูกยิงเก็บลูกเกยไว้ได้หมด ฝ่ายตนก็เริ่มยิงบ้าง ทุกคนปล่อยลูกเกยไปทำลายก็ จะโยนมาให้เก็บไว้เช่นเดียวกัน การยิงจะยิงกลับไปกลับมาเช่นนี้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดลูกขี้ตั้งลงก่อนทั้งลูกเกยก็ยิงไปรวมอยู่ที่ฝ่ายตรงข้ามหมด ฝ่ายนั้นก็ถือว่าแพ้ การแพ้หรือชนะคิด "เป็นทีม" ไม่คิดเป็นรายบุคคล

         เมื่อมีการแพ้หรือชนะกันแล้ว ฝ่ายที่แพ้จะต้องคลานไปหาฝ่ายชนะ นั่งพับเพียบประนบมือไหว้ ฝ่ายชนะก็ตะคอกถามและโต็ตอบกันดังนี้

 

  ฝ่ายชนะ :   เอ้... พวกเอ็งไปไหนมากันวะ
  ฝ่ายแพ้ :   (ยกมือไหว้พร้อมกับทำเสียงเบาๆ ว่า) มาเที่ยวขอทานครับนาย
  ฝ่ายชนะ :   เอ้... พวงเอ็งหน้าตาดีๆ ไซ่ (ทำไม) ต้องเที่ยวขอทานกันวะ
  ฝ่ายแพ้ :   เพราะเล่นบ้า (สะบ้า) แพ้ครับนาย
  ฝ่ายชนะ :   พวงเอ็งแพ้เท่าไรวะ
  ฝ่ายแพ้ :   (บอกเท่าจำนวนลูกขี้ตั้งที่แพ้ไป)
  ฝ่ายชนะ :   ฮือเอาไป (ส่งลูกขี้ตั้งให้คืน)

 


         ฝ่ายที่แพ้รับลูกขี้ตั้งด้วยความนอบน้อม แล้วคลานถอยไป นำไปเริ่มเล่นกันใหม่

        
         เล่นบนลานดินเรียบ แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่ายๆ ละเท่ากัน แต่ละฝ่ายให้มรหญิงกึ่งหนึ่งชายกึ่งหนึ่ง เช่น เล่นฝ่ายละ 8 คน ผู้เล่นจะเป็นหญิง 4 คน ชาย 4 คน อยู่ห่างกันราว 6 เมตร แต่ละฝ่ายยืนหรือนั่งเรียงหน้ากัน ตรงหน้าผู้เล่นแต่ละฝ่ายปักลูกสะบ้าเท่าจำนวนผู้เล่น เสี่ยงทายกันว่าฝ่ายไหนจะเริ่มยิงก่อน แล้วผลัดกันยิงฝ่ายละครั้ง ถ้ายิงล้ม ผู้ยิงจะได้เลือกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมาเป็นเชลย 1 คนทันที จะเลือกเชลยหญิงหรือชายก็ได้ แต่โดยทั่วไปถ้าฝ่ายยิงถูกเป็นหญิง เธอจะเลือกเชลยผู้ชายโดยเดินตรงไปยังฝ่ายตรงข้ามแล้วจับ ใบหูคนที่ต้องการให้เป็นเชลยพามายังฝ่ายตน ทำดังนี้เป็นต้น ถ้าผู้ยิงถูกเป็นชายถ้าจะเลือกเชลยก็จะยิงแก้ ถ้าแก้ได้จะขอพวกตนซึ่งเป็นเชลยคืนมา ถ้าแก้ไม่ได้อีกฝ่ายก็ยิงอีก เล่นกันเช่นนี้จนฝ่ายหนึ่งตกเป็นเชลยจนหมด และต้องรับเงื่อนไขของฝ่ายชนะโดยไม่มีข้อแม้ เช่น เขาให้รำก็ต้องรำ ให้คลานช้างก็ต้องคลาน แล้วจึงเริ่มเล่นกระดานใหม่

         การเล่นสะบ้าแลกเชลย เล่นกันเฉพาะวันสงกรานต์เท่านั้น และเป็นการเล่นที่เปิดโอกาสให้ชายหญิงได้สนุกสนานด้วยกัน ซึ่งหาโอกาสเช่นนี้ได้ยากในสังคมภาคใต้ที่ชายหญิงจะได้ใกล้ชิดกันจริงๆ

 ข้อมูลการเล่นสะบ้าจาก  กูเกิ้ล ซึ่งไม่ทราบคนเขียน 

การเล่นสะบ้าจะต้องปักลูกขี้ตั้งเป็นแถวตามรูปแบบการเล่น .
หมายเลขบันทึก: 565942เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2014 02:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน 2014 02:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

หนูประทับใจในความเรียบง่ายของลุงวอ ลุงแอบเก็บภาพไว้หลาย

ขอบคุณที่แนะนำให้หนูรู้จักสะบ้าค่ะ ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย


คุณมะเดื่อ นึกเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพนี้ไว้ ขอบคุณหนูกล้วยไข่ที่มีภาพนี้ ขอจิ๊กเอาไว้เลยละกัน

ภาพนี้คงหาไม่ได้อีกแล้วเนาะ......555555555

คลับคล้ายเคยเห็นพี่ ๆ หนุ่มสาวเล่นตอนเด็กค่ะ ช่วงสงกรานต์นี่ละท่านลุง

ตกใจหมดเลย! ทีหลังอย่าตั้งชื้อแบบนี้อีกนะคะ ลุงวอออ

ขอบคุณที่นำมาบันทึกให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาค่ะ

ตอนเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถม 1-4 ได้เล่นสะบ้าที่โรงเรียนค่ะ

และเมื่อประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว ได้ซื้อฝักสะบ้าที่ชาวลาวนำเข้าไปขายในงาน OTOP อินโดจีนที่อุบลฯ 3 ฝักเพื่อย้อนอดีตค่ะ ตอนหลังหักแตกเสียหาย พ่อใหญ่สอจึงนำไปทิ้งไร้ร่องรอย ถ้าเจอมีการนำมาขายอีก ต้องซื้ออีกแน่ๆ ค่ะ ขออนุญาตเก็บภาพสะบ้าไว้อ้างอิงด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องสะบ้าค่ะ

สวัสดีปีใหม่ วันสงกรานต์ น้องกล้วยไข

ขอบใจที่นำภาพสะพายผักสะบ้ามาให้

เมษานี้ได้ไปเที่ยว สองประเทศ คือ ด่านสิงขร ชายพม่า และวังประจัน ชายแดนมาเลเซีย ที่จังหวัดสตูล

สวัสดีปีใหม่ไทย ...น้องเดื่อ

ไปเมืองสามอ่าว เที่ยวนี้ ได้สิ่งที่ปราถนาเกินคาด โดยเฉพาต้นชะคราม

เอามาใส่กระตั้งไว้ไกล้บ้านเพื่อสะดวกในการดูแล

ฝากขอบคุณ คนข้างกายน้องมะเดื่อ

รังสีของคนทำงานอาสา แผ่เป็นกุศลให้กับผู้ที่ได้ยลได้คบหา นามว่าคุณ อรุณ เหมือฟ้ายามเช้าที่บ่อปลา

หากใครได้มาเยือนต้องชื่นชอบติดใจ ในอรุณรุ่ง

ขอขอบคุณบันทึกให้ความรู้นี้ค่ะ

รู้จักลูกสะบ้า แต่ไม่เคยเห็นฝัก ขอบคุณลุงวอที่เอาความรู้มาให้

เด็กๆ ก็เคยถูกจับมาขัดขี้ไคลหลังหูเดือนละหน ตักน้ำจากบ่อขึ้นมาราดๆๆ แล้วขัดๆๆๆ จนแสบไปทั้งตัว ห้ามโวยวายด้วย

ขอบคุณบังมากที่นำมาเขียน

ตอนนี้คงหาคนเล่นยากแล้ว

คนที่เล่นคงอายุมาก

เอามาฝากด้วยครับ

เรียนคุณหมอ ทหารพรานหญิง......ลืมเลือนเรื่อง สะบ้ามานานปี ไม่รู้ว่าสะบ้า หายไปจากวิถี ชุใชนตั้งแต่เมื่อไหร

แต่เมื่อมาพบฝักสะบ้า ทำให้นึกถึงเรื่องราวแต่หนหลัง

กระทั่งการขออนุญาติ เล่นสะบ้า

จึงรำลึกมาในวาระปีใหม่ไทยที่สะบ้าเป็นส่วนหนึ่งของการละเล่นในวันสงกรานต์

เรียนคุณ ดารณี คนใต้ มักพูดสั้นๆ ผู้ใหญ่บ้านไปขอ อนุญาติเปิดสนามเล่นสะบ้า

แต่เวลาพูดว่า ขออนุญาติ บ้า

เรียนครูตุ๊ก ประเพณีไทย สนุกสนานแบบไทยๆ หายไปหลายอย่าง

นำมาบันทึกเพื่อระลึกถึง ครอบครัวไทย การละเล่นไทยๆ

เรียนคุณ ยาย ไอดิน

สงกรนต์ ปีนี้ ได้พบเห็น ให้หวลรำลึกถึงสิ่งเก่าๆเก็บมาเล่าใหม่ หลายอย่าง......

ลูกสะบ้าก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่หาดูยากเมื่อก่อนตามวัดจะมีต้นสะบ้า ขึ้นพันยอดยาง

แต่หลายวัดตัดต้นยางเอามาแปรรูปทำให้ ย่านสะบ้าตายไปกับไม้ที่อิงแอบ

สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับท่าน ผอ.

เสียดายที่ไม่ได้เจอ ผอ.

มี่เรื่องอยากเรียนรู้จากผอ.หลายเรื่อง

ขอบคุณอาจารย์ ภูสุภา......

เดือนนี้ลูกหลานมาบ้าน คนเฒ่าจึงมีเรื่องเล่าบันทึกเรื่องราวในอดีต มาแบ่งปัน

เรียนอาจารย์ หนุ่ย

ตอนเขาเอาผ้าชุบน้ำมันก๊าก หูที่หลักหู ฮาย ยังเจ็บถึงวันนี้

เรียนคุณยายไอดิน นำต้นชะครามมาฝาก

ขอบคุณท่านอาจารย์ ขจิตที่นำภาพนี้มาให้

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท