การเหยียดผิวสี...........เลือกจุดเจ็บมาเป็นตัวสมานแผล
มีคนถามเนสัน แมนเดลล่า ประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้ว่า เมื่อได้ชัยชนะและมีอำนาจล้นหลามในประเทศแล้ว ทำไมไม่คิดแก้แค้น คนผิวขาวในประเทศ ที่เป็นเสมือนศัตรูกันมาช้านาน ทั้งยังเป็นต้นเหตุแห่งการสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจ เหยียดหยามคนผิวดำตลอดมา และทำให้ชีวิตของเนลสันเอง ตกต่ำถึงที่สุด ต้องติดคุกเป็นเวลายาวนาน 27 ปี และถ้าช่วงนี้เขายังไม่คิดกำจัดคนผิวขาวเหล่านั้น ด้วยวัยชราอายุ 72 ปีแล้ว เนลสันคงจะหมดโอกาสในไม่ช้านี้
แต่เนลสัน ก็ได้ตัดสินใจ ที่จะไม่เลือกแนวทาง ที่ชนร่วมผิว เสนอแนะมา ด้วยเขากลับมีความเชื่อว่า
“ไม่มีใครเกิดมาเพื่อเกลียดชังบุคคลอื่นเพียงเพราะสีผิว ภูมิหลังหรือศาสนา แต่คนเราเรียนรู้ที่จะเกลียด และหากพวกเขาเรียนรู้ที่จะเกลียดพวกเขาก็สามารถเรียนรู้ที่จะรักได้เพราะรักเกิดตามธรรมชาติของจิตใจมนุษย์มากกว่าความเกลียดชัง”
และบัดนี้ เขาเป็นผู้นำประเทศ เป็นจุดสูงสุด ที่จะสามารถให้เขาใช้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด คนอยู่ร่วมกัน สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าห่างไกลกัน ก็เพราะสาเหตุแห่งความเกลียดชัง การดูถูกเหยียดหยาม การเลือกที่จะเชื่อว่า ความเท่าเทียมกันของคนนั้นไม่มีจริง และที่สำคัญ ขาดผู้ประสานรอยร้าวฉานนี้อย่างจริงใจและยุติธรรม
เนลสันบังเกิดความคิดว่า การสร้างความรักสมานฉันท์ให้เกิดกับคนที่เห็นแตกต่างกันขนาดนี้ ต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายเรียนรู้กันอย่างเต็มใจ การหันหน้าเขาหากัน จะช่วยลดความรู้สึกขัดแย้งในห้วงความคิดดิบๆ ที่สั่งสมมาช้านานได้
หลังจากการขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีได้ปีเดียว แอฟริกา ก็ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันรักบี้ เพื่อชิงแชมป์โลก กีฬารักบี้ เป็นกีฬาของคนผิวขาว ที่สร้างความเย่อหยิ่งทรนงยิ่งนัก ด้วยคนดำไม่มีทางจะมาเล่นกีฬาของคนชั้นสูงของพวกเขาได้ ฟุตบอลจึงเป็นกีฬาของคนผิวดำ และในขณะเดียวกัน คนผิวดำก็เกลียดกีฬารักบี้ชนิดเข้าไส้ เกลียดกระทั่งสีเสื้อของทีมรักบี้ประจำชาติแอฟริกา แม้จะถูกบังคับให้ใสพวกเขาก็จะไม่ยอมเป็นอันขาด
เนลสันมองไปไกลกว่านั้น เขาจะหยิบจุดที่เจ็บที่สุดของทั้งสองฝ่าย มาเป็นความสัมพันธ์ เขาได้ประกาศว่า แอฟริกาจะต้องคว้าแชมป์โลกกีฬารักบี้มาให้ได้ เพราะเรามีทีมรักบี้ที่แข็งแกร่งมาก เขาเชิญโค้ชรักบี้ผิวขาวเข้าาร่วมพูดคุยวางแผน ด้วยอัธยาศัยไมตรี ให้เกียรติ ยกย่อง และเป็นกันเอง และได้ขอความร่วมมือปรึกษาว่า เขาไม่เพียงอยากให้รักบี้เป็นแชมป์โลกเท่านั้น แต่เขาอยากให้รักบี้ มาเป็นตัวประสานความแตกแยกของชาติด้วย เขาอยากให้ชัยชนะนี้เป็นความรู้สึกร่วมกันของทุกคนในชาติ
โค้ชฟรังซัว เมื่อเข้าใจเจตนา และเห็นความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ของเนลสัน เขาก็เกิดพลังใจที่จะร่วมกันทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ เขาพานักกีฬาของเขา ออกเยี่ยมเยียนชาวผิวดำ ไปดูวิถีชีวิตอันแร้นแค้น ลำบากกว่าชนผิวขาวมากมาย ทั้งๆที่อยู่ในแผ่นดินเดียวกัน ไปเกาะที่เป็นคุกขังเนลสันถึง 27 ปี ที่ไม่น่าเชื่อว่า ประธานาธิบดีของเขา จะผ่านสิ่งเลวร้ายต่างๆมาได้จนถึงวันนี้ เมื่อได้เห็น ได้สัมผัส ได้มาช่วยเหลือ ความรู้สึกดีๆก็ค่อยเกิดขึ้นในใจขอแต่ละคน งานกีฬาใกล้เข้ามา ความรู้สึกเป็นเจ้าภาพก็สร้างความฮึกเฮิม มีกำลังใจ ยิ่งรู้ว่าทีมรักบี้ของประเทศตน มีความเก่งกาจ และยังมีน้ำใจโอบอ้อมอารีย์ เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับคนผิวดำค่อนประเทศไปแล้ว
ช่วงนั้น ได้มีการแต่งเพลงชาติขึ้นมาใหม่ให้เป็นเพลงเดียว จากที่มีเพลงชาตินับสิบ เพราะมีคนหลายชนชาติอยู่ในประเทศนี้ มีภาษา ที่ใช้มากถึง11 ภาษา แต่ถึงกระนั้น ทีมรักกี ก็กลายเป็นที่ยอมรับของคนแอฟริกันไปแล้ว ว่าเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น เนสันเริ่มเป็นที่ยอมรับของคนทัั้งประเทศ เพราะเนสัล ให้ความสำคัญกับมุกฝ่ายเท่าเทียมกัน ไม่ถือสาโกรธอาฆาต แม้กับผู้ที่จับเขาขังคุก ก็ยังได้รับเชิญมารับประทานอาหารด้วยกัน
แต่ฝันหวานของทีมรักบี้แห่งแอฟริกาก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ทั้งนี้เพราะต้องเจอคู่แข่งที่แกร่งกว่าคือนิวซีแลนต์ คงต้องไปเชียร์กันวันพรุ่งนี้นะคะ คืนนี้ดึกมาแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ความเห็น (4)
ขอบคุณสำหรับเรื่องเนลสันนะครับพี่รุ่ง
".....เพราะรักเกิดตามธรรมชาติของจิตใจมนุษย์มากกว่าความเกลียดชัง”
ชอบประโยคนี้ของแมนเดลล่าค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.ขจิต
ท่านเนสัล สุดยอดมาก
ไม่น่าเชื่อว่าท่านเอาความเจ็บปวด
มาสร้างพลังสันติสุขให้คนแอฟริกาได้นะคะ
สวัสดีค่ะคุณNUI
จริงด้วยนะคะ
ความเกลียดต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง
ทำให้เกลียดเกิดขึ้น
แต่ความรักนั้นเกิดขึ้นเองยิ่งนิ่งรักยิ่งบริสุทธิ์นะคะ
แบบว่าไม่ปรุงแต่งมาก เลยรักแท้ๆค่ะ