มองย้อน 2013 และมองไปข้างหน้า 2014


บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 4  มกราคม 2557

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.naewna.com/columnist/1104

มองย้อน 2013 และมองไปข้างหน้า 2014

ผมขออวยพรปีใหม่ให้ท่านผู้อ่านมีความสุข มีสุขภาพที่ดี และมีประเทศไทยที่มองความต้องการของมหาประชาชน

ส่วนผมต้องทำงานเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไปร่วมกันทำงานเป็นทีม งานที่ท้าทายและสร้างมูลค่าให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง

- ทำงานให้ต่อเนื่อง

- เป็นบุคคลเรียนรู้

- อดทน

- มีคุณธรรม จริยธรรม

ภาพบรรยากาศ มวลมหาประชาชนพร้อมใจกันออกมาแสดงพลังเพื่อประกาศเจตนารมณ์ “ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์-โค่นล้มระบอบทักษิณ-ปฏิรูปประเทศไทย”

ผมขอพูดถึงงานของผมส่งท้ายปี 2013 ซึ่งงานที่ทำจะไม่มีความหมายอะไรถ้าประเทศของเราปกครองด้วยระบอบที่ไม่นึกถึงประเทศในระยะยาว มีรัฐบาลเสียงข้างมากแต่สร้างปัญหาให้ประเทศระยะยาวอย่างมหาศาล รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลที่ขาดธรรมาภิบาล เป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากเพื่อปกป้องดูแลคุณทักษิณและพรรคพวกลูกน้องหรือขี้ข้าเท่านั้นจริงๆ

จึงเป็นที่มาของการรวมตัวของผู้ที่มองระยะยาวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองที่คาดไม่ถึง เพราะคนดีจำนวนหลักล้านคนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดพร้อมที่จะปกป้องประเทศของเราโดยใช้ปัญญาและสันติวิธีสู้กับอำนาจรัฐ โดยเฉพาะตำรวจและความรุนแรง ถึงแม้ว่าฝ่ายคุณทักษิณเริ่มจนมุมเริ่มใช้วิธีรุนแรงเพิ่มขึ้นในทุกที แต่ฝ่ายของมหาประชาชนก็อดทนอดกลั้นและใช้สันติวิธีต่อไป

ในปี 2013 จึงเป็นปีที่น่าศึกษาว่ามวลมหาประชาชนเกิดขึ้นได้อย่างไรเป็นปรากฏการณ์ที่ต่างประเทศไม่เข้าใจ และไม่มีวันเข้าใจ ถึงแม้จะใช้บริษัทล็อบบี้ยิสต์อธิบายว่าเป็นการสู้กันระหว่างคนจนกับคนชั้นกลางก็ตาม ซึ่งไม่เป็นความจริง

ภาพบรรยากาศ มวลมหาประชาชนพร้อมใจกันออกมาแสดงพลังเพื่อประกาศเจตนารมณ์ “ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์-โค่นล้มระบอบทักษิณ-ปฏิรูปประเทศไทย”

ปี 2013 น่าจะเป็นปีที่เป็นการต่อสู้ระหว่างธรรมกับอธรรม ที่นักรัฐศาสตร์ทั้งโลกต้องศึกษาว่า มวลมหาประชาชนเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในทิศทางใด แต่ที่แน่ๆ ก็คือ คนที่มีความรู้และมีคุณธรรมไม่เห็นด้วยกับวิธีการของรัฐบาลชุดนี้ที่ประมาท คนไทยไม่กล้า กลัวตำรวจบ้าง กลัวความรุนแรงบ้าง กลัวแก๊สน้ำตาบ้าง

ผมคิดว่าถ้ามวลมหาประชาชนรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นเพื่อประเทศชาติระยะยาว ความกลัวความรุนแรงต่างๆ ไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้

ปี 2013 ยังสู้ต่อถึงปี 2014 และอีกไม่ถึงเดือนก็จะมีการเลือกตั้งซึ่งมวลมหาประชาชนไม่ต้องการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ต้องการให้ปฏิรูปก่อน จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองว่าอะไรจะเกิดขึ้นในต้นปี 2014 เพราะมวลมหาประชาชนไม่ต้องการการเมืองแบบเก่าอีกต่อไป ต้องการให้รัฐบาลมีศักดิ์ศรี มีคุณธรรม ไม่ใช่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างในปัจจุบัน

ภาพบรรยากาศ มวลมหาประชาชนพร้อมใจกันออกมาแสดงพลังเพื่อประกาศเจตนารมณ์ “ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์-โค่นล้มระบอบทักษิณ-ปฏิรูปประเทศไทย”

ถ้าพระราชบัญญัติสุดซอยนิรโทษกรรมไม่เกิดตอนตี 4 ผมก็ยังไม่ทราบว่าประเทศผมจะไปทางไหน กำนันสุเทพก็อาจก่อมวลมหาประชาชนไม่ติด คุณทักษิณก็ยังบริหารเงิน 2 ล้านล้านบาทสบาย เวลานี้ก็คงจะเบิกจ่ายได้เพลิน มวลมหาประชาชนก็ต้องมีต่อไปถึงแม้ว่าการปฏิรูปการเมืองอาจจะต้องใช้เวลาบ้างก็ต้องอดทน แต่มวลมหาประชาชนก็ได้รับผลไม่น้อย

ชัยชนะแรกก็คือ ชัยชนะของการทำให้คนไทยตาสว่าง สนใจการเมือง มีการปราศรัยที่มีสาระ ให้ความรู้ ความจริง ทำให้ฝ่ายรัฐบาลที่เคยปราศรัยแบบปลุกระดมหมดสภาพเลยเพราะไม่รู้จะพูดอะไรที่เป็นสาระมากๆ

จริงอยู่ คนเสื้อแดงอาจจะไม่เปลี่ยนใจทุกคนแต่เท่าที่ผมรู้จักก็มีเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งที่ตาสว่างมากขึ้น จะปรับตัวเข้าใจความจริงมากขึ้นว่าอะไรเป็นอะไร

สมมุติมีการเลือกตั้งได้ (หวังว่าจะไม่มี) ที่น่าตลกก็คือ พรรคเพื่อไทยอยากจะชนะกลับมาเป็นรัฐบาลจะใช้วิธีหาเสียงอย่างไร

- คงไม่กล้าพูดเรื่องคอร์รัปชั่น

- คงไม่กล้าพูดเรื่องความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์

- คงไม่กล้าพูดเรื่องประชานิยมเพราะคงไม่มีใครเชื่อ

แล้วจะหาเสียงด้วยวิธีอะไร น่าติดตาม

ภาพบรรยากาศ มวลมหาประชาชนพร้อมใจกันออกมาแสดงพลังเพื่อประกาศเจตนารมณ์ “ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์-โค่นล้มระบอบทักษิณ-ปฏิรูปประเทศไทย”

- อาจจะพูดว่าอยากปฏิรูปการเมือง แต่ตลกก็คือทำไมไม่ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยเก่งจริง ก็กลับมาสู้ในกติกาใหม่ก็ไม่มีใครว่า จึงต้องดูกันต่อไป

ปี 2014 ผมยังอยากเห็นฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยที่เก่ง ๆ หรือ TDRI หรือสื่อที่เป็นกลางวิจัยความล้มเหลวของนโยบายประชานิยมในอดีตและหาทางแก้ไขก่อนที่จะสายเกินไป

- การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ทำให้ศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะในต่างจังหวัดลดลงอย่างไร ผลกระทบทางลบทำให้ธุรกิจขนาดเล็กต้องปิดกิจการเป็นอย่างไร หรือธุรกิจไทยต้องย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศเป็นอย่างไร

- การกำหนดให้ปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000 บาท ต้องวิจัยว่าใครปฏิบัติตาม โดยไม่ต้องวิจัยก็พบว่า ข้าราชการส่วนใหญ่ทำตามเพราะรัฐบาลบังคับ แต่เอกชนไม่ทำ เอกชนเหนือกว่าราชการ เขารู้ดีว่า ค่าจ้าง = ประสิทธิภาพ เขาไม่จ้างปริญญาตรีที่ไม่มีคุณภาพโดยจ่ายเงินเดือน 15,000 บาท หรอก และที่สำคัญคือผลกระทบต่อผู้จบอาชีวศึกษาเป็นอย่างไรต้องวิจัยอย่างหนัก

และสุดท้ายผลกระทบเรื่องจำนำข้าวต่อการผลิตข้าวเป็นอย่างไร เรื่องจำนำข้าวผมเศร้าเป็นพิเศษ เพราะเคยคิดว่าชาวนาที่หาความรู้ มีความคิด มีนวัตกรรมน่าจะได้มีผลผลิตที่ดีมากกว่าชาวนาที่ไม่สนใจพัฒนาตัวเอง ปรากฏว่าคุณยิ่งลักษณ์ใช้นโยบายจำนำข้าวทุกเม็ดเลยทำให้ผมหมดอาชีพ ไม่รู้จะพัฒนาเกษตรกรไปเพื่ออะไร ควรวิจัยผลกระทบต่อพฤติกรรมการลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มของเกษตรกรว่าเสียหายอย่างไรจะแก้ไขอย่างไร

ปี 2014 จึงเป็นปีที่ตามล้างตามแก้ เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์นอกจากโง่ ค่อนข้างจะไร้ประสิทธิภาพ ยังสร้างปัญหาเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ประเทศของเรา

ปี 2014 ต้องนำการพัฒนาแบบยั่งยืนกลับมา Sustainability and Human Capital ไม่มีรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว อาชีพผมคงจะสำคัญอย่างเดิม ผมทำงานด้านพัฒนาทุนมนุษย์ครับ

ติดตามผลงานของผมในภาคเกษตร การท่องเที่ยวและด้านการแพทย์เพื่อสร้างทุนมนุษย์ในปี 2014 ครับ

จีระ หงส์ลดารมภ์

หมายเลขบันทึก: 569335เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 11:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 11:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท